"ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก" และ "ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ"ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand แถลงข่าวชี้แจงปมดราม่า กรณี "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เผยสัญญาฉบับแรกที่ฟ้าใสเซ็นครอบคลุมระยะเวลา ของรางวัล การหักเปอร์เซ็นต์ ตลอดการดำรงตำแหน่ง MUT2019 รวมถึงการประกวดเวที MU2019 ไปเรียบร้อยแล้ว แต่มีการเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาอีก 2 ฉบับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ฟ้าใส" เปิดไทม์ไลน์โต้ปมดราม่า ลั่นสัญญาฉบับแรกครอบคลุมรางวัล -เปอร์เซ็นต์-ระยะเวลาทุกอย่างแล้ว!
- "ฟ้าใส" กลั้นน้ำตาปมถูกเมาท์มาสาย คนตราหน้าว่าอกตัญญู ลั่นที่เงียบไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึก
โดยก่อนเริ่มแถลง "พี่ปุ้ย" อัญเชิญพระแก้วมรกตขึ้นมาด้วยเพื่อเป็นสิ่งการันตีว่าเรื่องที่พูดดังต่อไปนี้คือความจริงทุกประการ
ซึ่งทนายวิชิต แก้วธนะสิน กล่าวว่า บันทึกข้อตกลง ที่ฝ่ายฟ้าใสเรียกว่า สัญญา ขณะที่ทำบันทึกฉบับนี้ 6 มิถุนายน 2562 บันทึกดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็นสัญญา ถ้าถือว่าเป็นสัญญาก็เรียกว่า สัญญายังไม่เกิดขึ้น
ด้าน "พี่ปุ้ย" กล่าวว่า "บันทึกข้อตกลงนี้อยู่กับเวทีนางงามมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ได้อยู่ๆ ทำขึ้นมา ตอนที่ชี้แจงก็ได้ถามนางงามทั้งซีซั่น 1 และ ซีซั่น 2 ว่า พวกหนูเรียกว่าอะไร น้องๆ บอกว่า ข้อตกลงค่ะ น้องๆ หลายคนที่ผ่านเวทีการประกวด ก็บอกว่า พอได้สายสะพายปั๊บ คืนนั้นเซ็นสัยญาเลย และเราได้ถามคุณอั้มว่าอีกเวทีประกวดทำยังไง เขาก็บอก เป็นทำเนียมปฏิบัติปกติที่ทำกัน"
ประเด็นเรื่องการแก้ไขเนื้อหาในสัญญา ไม่เคยคิดเปลี่ยนมาก่อนเลย
"แต่วันหนึ่งมีการนั่งคุยกันในทีมผู้บริหารและฟ้าใส ว่าฟ้าใสเป็นนางงามที่มีศักยภาพ หากจบประกวดแล้ว กลับมาแล้วอยากทำอะไร ฟ้าใสตอบว่าอยากทำ Academy สอนนางงาม ซึ่งทาง TPN เห็นด้วย จึงจะตั้ง Academy ขึ้นมาให้ แล้วให้ฟ้าใสเป็น MD บริหาร Academy โดยทางเราออกทุนให้ ซึ่งน้องถามว่าจะให้หนูทำกี่ปีคะ ปีเดียวหรือเปล่า เรายังพูดเลยว่า ตลอดชีวิตก็ได้ จึงเป็นที่มาของการคิดเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสัญญาเป็นจ้างงานกันระยะยาว “ตลอดชีวิต” โดยจะต่อทุกๆ 3 ปี จากเดิมที่ระบุว่าผู้ชนะ MUT จะต้องเซ็นสัญญากับ TPN เป็นระยะเวลา 2 ปี (ผู้ชนะ 1 ปี + ศิลปิน 1 ปี)"
ประเด็นการหัก 50 %
"ส่วนเรื่องการหักเปอร์เซ็นต์ 50- 50 เป็นเรื่องของการทำงานต่างประเทศ โดยทางกองจะเป็นผู้ออกค่าเดินทาง การติดต่อ Agency และอื่นๆ ทั้งหมด"
ประเด็นฟ้าใสไม่มาเซ็นสัญญาพร้อมรองทั้ง 4
วันที่ 17 ก.ค. ฟ้าใสไป Daily News คนเดียว แล้วมาพบรองทั้ง 4 ช่วงบ่าย เพื่อถ่าย Sticker Line ของกอง ผู้จัดการกองจึงเสนอพี่ปุ้ยว่าให้ทุกคนลงนามสัญญาไปเลยสิ รองทั้ง 4 ซึ่งมาถ่าย Sticker พร้อมกันจึงได้เซ็นสัญญาทุกคน แต่ฟ้าใสไปถ่ายงานอีกงานมาหลัง จึงไม่ได้เซ็น (ฟ้าใสบอกว่ากองไม่ได้บอกว่าวันนั้นมีการให้รองเซ็นสัญญา) ซึ่งกองบอกว่าไม่มีเหตุผลที่กองและเพื่อนนางงามทั้ง 4 จะต้องปกปิดเรื่องเซ็นสัญญา
"พี่ปุ้ยได้ไปคุยกับกอง MU ว่าฟ้าใสเป็นตัวแทนประเทศไทยที่ถูกต้อง จึงได้ประกวด MU มีพยานบุคคลหลายคนที่เห็นฟ้าใสได้อ่านสัญญา ก่อนวันเดินทางไปประกวด MU"
ประเด็นส่งสัญญาตอนเที่ยงคืนก่อนวันไปแอตแลนต้า
"วันก่อนเดินทางไป MU 21 พ.ย. 62 มีการ Fitting จนถึง 4 ทุ่ม แล้วพี่ปุ้ยไปส่งฟ้าใส พร้อมมอบซองสัญญาให้อีกครั้ง แต่ฟ้าใสบอกว่าพี่ปุ้ยจองห้องที่แอตแลนตาหลายวันค่อยอ่านและเซ็นที่นั่นก็ได้ แต่พอไปถึงแอตแลนตา พี่ปุ้ยบอกว่าฟ้าใสบอกพี่ปุ้ยว่าลืมเอาสัญญามา ทางกองจึงให้ทีม Social Media ที่จะตามไปแอตแลนตาวันที่ 27 พ.ย. เอาสัญญาไปให้อีกครั้ง และพอสัญญาไปถึงพี่ปุ้ยก็ได้มอบให้แม่ของฟ้าใสกับมือ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับ เนื้อหาเหมือนกัน โดยคุณแม่ได้แก้ไขเนื้อหาส่งคืน TPN ทาง TPN ก็แก้ไขส่งให้คุณแม่อีกครั้ง แต่สุดท้ายฟ้าใสก็ไม่ได้เซ็นโดยคุณแม่แจ้งว่าไม่ต้องห่วง ฟ้าใสจะเซ็นแน่ที่ไทย"
ประเด็นเรื่องตื่นสาย ยืนยันตื่นสายจริง
"เรื่องจัดกระเป๋าจาก กทม. แล้ว ไปถึงแอตแลนต้ารื้อของออก ต้องมาจัดกระเป๋าใหม่ พี่ปุ้ยกับทีมงานเป็นคนจัดกระเป๋า ส่วนฟ้าใสนอนหลับ กองบอกให้ไปวันที่ 28 นัดสื่อแล้ว เตรียมทุกอย่าง จะได้ไปเลือกชุดดีๆ ก่อนใคร น้องงอแงไม่ยอม จะขอเข้ากองวันที่ 29 จึงนัดเวลาไว้ 09.00 น. เพื่อถึงกองตามฤกษ์ดี 09.19 น. ก็ไม่มาตามนัด พอเช้าไปเคาะห้องแต่ไม่ยอมเปิดเพราะยังไม่ตื่น พี่ปุ้ยไปทุบประตูห้อง ตอน 8 โมงกว่า ยอมรับว่าโกรธ เมื่อคุณแม่ของน้องมาเปิดประตูห้องในสภาพเพิ่งตื่น พี่ปุ้ยจึงพูดเสียงดังใส่ว่าให้รีบปลุกน้องไปแต่งตัว ซึ่งทางคุณแม่ฟ้าใส พูดว่าคนไทยเขารักน้องทั้งประเทศ ทำไมเขาจะรอไม่ได้ ตัดไปที่พาน้องไปส่งถึงกองเวทีแม่ น้องถามว่า จะพูดว่าอะไรดี พี่ก็เลยแล้วแต่น้อง สุดท้ายน้องฟ้าใสตอบทุกคนว่าท้องเสีย ดังนั้นวอนอย่ามาด่า TPN"
กลับมาจากกองประกวดMU ยังไม่มีการเซ็นสัญญา
กลับมาที่ไทย วันที่ 15 ม.ค. กองกับฟ้าใสได้นัดเจอกัน กองก็เอาสัญญาที่แก้ตามคุณแม่ของฟ้าใสทุกอย่างให้ฟ้าใสและญาติผู้ใหญ่ 2 ท่านที่มาด้วย กลับไปอ่าน โดยฟ้าใสขอไปอ่าน 3 วัน 27 ม.ค. TPN มีการส่งหนังสือแจ้งเตือนให้ฟ้าใสเข้ามาเซ็นสัญญา ก่อนวันที่ฟ้าใสไลน์ทวงถามกองเรื่องการเข้ามาเซ็นสัญญา (ในวันที่ 2 ก.พ.) 21 ก.พ. ทั้งกองและฟ้าใส ได้เจอกัน โดยฟ้าใสได้นำสัญญาฉบับที่ฟ้าใสทำมาเอง โดยมีสาระสำคัญที่พี่ปุ้ยไม่โอเค ดังนี้
1. เงินรางวัล 1,500,000 บาท จ่ายงวดที่ 2 งวด งวดที่ 1 คือจ่ายในวันที่ลงนามในสัญญา (21 ก.พ.) และงวดที่ 2 ภายใน 14 วัน
2. ในกรณีที่ผู้ให้สัญญาปฏิบัติงานสาธารณะกุศลครบ 12 ครั้งแล้ว
3. ผู้ให้สัญญาสามารถปฏิเสธหรือเรียกรับเงินค่าตอบแทนในกทม. ครั้งละ 15,000 บาท ต่างจังหวัด 30,000 บาท โดยครั้งละไม่เกิน 3 ชั่วโมง
4. ผู้ให้สัญญาสามารถรับงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานบันเทิงได้เอง
5. การเข้าร่วม Workshop ต่างๆ ในฐานะศิลปิน อยู่ที่ความสมัครใจของผู้ให้สัญญา
6. ต้องไม่ดูหมิ่น หรือทำให้ผู้ให้สัญญาเสื่อมเสียชื่อเสียง จนมีผลกระทบต่ออาชีพของผู้ให้สัญญา
7. หากเก็บเงินลูกค้าได้ช้า TPN ต้องจ่ายให้ฟ้าใสก่อน แต่หากได้เร็วต้องจ่ายให้เลย
8. หากมีการยกเลิกสัญญาก่อน ทางกองต้องให้รางวัลที่เคยตกลงไว้ และจ่ายเงินทั้งหมดที่เป็นงานในอนาคตให้ผู้ให้สัญญาด้วย
นอกจากนี้ทนายยังเผยอีกว่า การที่ฟ้าใสไม่เซ็นสัญญา ในทางกฎหมายนั่นคือการไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ขณะที่พี่ปุ้ยบอกแต่ในความเป็นจริง หากถามว่าใครคือ MUT2019 ก็ต้องเป็น ฟ้าใส
สุดท้าย มงกุฎนี้ขอยกให้น้องฟ้าใส หากฟ้าใสคิดว่ามีความชอบธรรมที่จะเป็นเจ้าของ ขอให้ติดต่อกองมากองจะมอบให้ทันที ยืนยัน ไม่ได้ให้มงตามกระแสกดดัน และขอใช้คำว่า "ให้" ไม่ใช่ "คืนมง" เพราะน้องไม่ได้อยู่แล้ว