เมื่อวันที่ 19 พ.ย.63 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์แหวนทองหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง ราคา 7,300 บาท ภายในร้านห้างทองมังกรเยาวราชในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาปากเกร็ด ซอยวัดสนามเหนือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวนรีบไปตรวจสอบ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นคนร้ายวัยกลางคน สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีดำ เดินเข้ามาที่ร้านทองมังการเยาวราช จากนั้นได้ทำทีขอลองแหวน 1 สลึง แต่อาศัยจังหวะที่พนักงานเผลอ คนร้ายก็ได้ขโมยแหวนแล้วรีบวิ่งหนีออกไปทางด้านหลังห้างฯ โลตัส
โดยที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 1 ของห้างดังกล่าว อยู่บริเวณหน้าทางเข้าติดบันไดเลื่อน พบพนักงานหญิง ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในอาการตกใจ โดยน.ส.มุนิล ศรีนกร้อย อายุ 28 ปี พนักงานร้านทอง กล่าวว่า คนร้ายเข้ามาถามราคาทองว่าวันนี้สลึงเท่าไร ตนจึงตอบกลับไปว่าประมาณ 7,300 บาท ราคาโปรโมชัน ซึ่งทางคนร้ายได้บอกกับตนว่าขอลองแหวนหน่อย ตนจึงหยิบให้ใส่ แต่คนร้ายขอดูอีกลาย ขณะที่ตนกำลังหยิบเเหวนอีกลาย และรอเเหวนวงแรกคืน คนร้ายฉวยโอกาสวิ่งหนีออกไปทันที
สอบถามนางพนิดา บุญญาสุรินทร์ อายุ 49 คนขายชุดชั้นใน ผู้เห็นเหตุการณ์คนร้ายวิ่งหนีชนประตูหลังโลตัส กล่าวว่า ลักษณะคนร้ายอ้วนท้วม ใส่เสื้อโปโลสีเขียว วิ่งออกไปทางออกหลังโลตัส ซึ่งเห็นคนร้ายขณะวิ่งหนีชนประตู และมีคนวิ่งตามตะโกนว่าเป็นโจรขโมยทอง เพราะตอนเเรกไม่คิดว่าเป็นขโมย คิดว่าเป็นลูกค้า ถ้าได้ยินไวกว่านี้ก็จะวิ่งไปจับคนร้ายน่าจะทัน เพราะคนร้ายมาคนเดียวและวิ่งออกไปทางหลังห้าง
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้จับกุมตัวนายจิรัณ ศิลปแสงชัย อายุ 35 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คนร้ายขโมยทอง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์ จับได้ในตลาดกรมชลประทาน ขณะกำลังเดินเลือกดูสินค้าโดยคนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อกางเกง เพื่อตบตาตำรวจแต่ไม่รอด
จากการสอบสวนนายจิรัณ รับสารภาพว่า อาศัยอยู่กับแม่และลูกชายภายในซอยต้นสน หลังจากที่ได้แหวนทอง หนัก 1 สลึง ที่ชิงทรัพย์มาจากร้านทองดังกล่าว ได้นำไปให้แม่จำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งภายในห้างบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ สาขาปากเกร็ด ได้เงินสดมาจำนวน 6,219 บาท แต่ยังไม่ได้ใช้เงินมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน
ส่วนสาเหตุที่ต้องมาวิ่งราวทรัพย์ในวันนี้ เพื่อจะนำเงินไปจ่ายค่าไฟ เนื่องจากกำลังจะถูกตัดไฟในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.63) ที่เลือกชิงทรัพย์ร้านทองในห้างโลตัส สาขาปากเกร็ด เพราะว่าตนเคยเป็นพนักงานในห้างแห่งนี้มาก่อน เบื้องต้นทางผู้เสียหายได้เดินทางไปชี้ตัวนายจิรัณ ที่ห้องสืบสวน และจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพที่บริเวณร้านห้างทองมังกรเยาวราชภายในห้างโลตัส เวลา 16.00 น. และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ร้านห้างทองมังกรเยาวราช ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ตลาดปากเกร็ด ซอยวัดสนามเหนือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีบริเวณชั้น 1 ของห้าง อยู่ตรงข้ามกับทางเข้าซูเปอร์มาเก็ต ด้านหลังร้านเป็นบันไดเลื่อน ด้านขวาของร้านเป็นจุดจอดรถเข็น ส่วนทางด้านซ้ายเป็นร้านขายขนมปังชื่อดังห่างจากทางเข้า-ออกประมาณ 30 เมตร ซึ่งร้านทองมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 11 ตัว ไม่มีการติดตั้งสิ่งกั้นขวางแต่อย่างใด
ทีมข่าวพบน.ส.มุนิล ศรีนกร้อย อายุ 28 ปี พนักงานร้านทอง เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุทำทีเข้ามาสอบถามราคาแหวนทองคำว่าวันนี้สลึงละกี่บาท
พนักงาน : ประมาณ 7,399 บาท
ผู้ก่อเหตุ : ลดได้ไหม
พนักงาน : ให้ลองเลือกลายดูก่อน 2 ถาดนี้ และสอบถามต่อว่า “สวมใส่นิ้วไหน”
ผู้ก่อเหตุ : ใส่นิ้วนาง
พนักงาน : หยิบแหวนลายสี่เหลี่ยม
ผู้ก่อเหตุ : ขอลายผู้ชาย ๆ
พนักงาน : หยิบแหวนลายสี่เหลี่ยม ยื่นให้ผู้ก่อเหตุสวมใส่
ผู้ก่อเหตุ : รับแหวนและสวมใส่ พร้อมกล่าวว่า “หลวมนะเนี่ย”
พนักงาน : อ๋อ งั้นดูอีกอัน
ขณะที่ตนกำลังรอแหวนวงแรกคืนจากผู้ก่อเหตุ เพื่อที่จะหยิบเเหวนอีกลายให้ลอง แต่ผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสวิ่งหนีออกไป สำหรับลักษณะคนร้ายนั้นอ้วนท้วมใส่เสื้อโปโลสีเขียว กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ อย่างไรก็ตามทางร้านมีแนวโน้มทำลูกกรงอยู่แล้ว แต่เนื่องจากทางห้างฯ ประกาศว่าจะมีการปรับปรุงห้างใหม่ จึงยังต้องรอ และจะได้ทำการติดตั้งทีเดียว ส่วนเจ้าของร้านทราบเหตุดังกล่าวแล้ว โชคดีแล้วที่ผู้ก่อเหตุเอาของไปแค่นิดเดียว และไม่มีอาวุธมา ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะต้องชดใช้หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์เช่นนี้ แต่เจ้าของร้านเป็นคนใจดี และยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
ภายหลังทำแผนเสร็จสิ้น ทีมข่าวได้สอบนายจิรัณ ว่าทำไมถึงก่อเหตุ เจ้าตัวตอบว่า "ไม่มีเงินเลย และพรุ่งนี้ไฟจะถูกตัดทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน และเคยถูกตัดมาแล้ว จึงเป็นห่วงแม่และลูก จะไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น และแม้ว่าขณะนี้จะมีอาชีพขายหมูปิ้งอยู่ที่ตลาดกรมชลประทาน แต่บางวันขายได้เท่าทุน โดยเฉพาะวันนี้ก็ขายไม่ได้เลย"
ทั้งนี้ตนยอมรับว่าทำไปเพราะมีความจริงจำเป็นจริง ๆ หาทางออกไม่ได้ ทั้งนี้ขอสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นห่วงแม่ เพราะมีโรคประจำตัวหลายโรค และเป็นห่วงลูกชาย พร้อมฝากเป็นข้อคิดว่า การจะทำอะไรให้คิด เพราะทางออกมีหลายทาง
ทั้งนี้ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายจิรัณขึ้นรถ ทีมข่าวพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างยื่นเงินให้นายจิรัณ 200 บาท ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถาม นายนิโรจน์ เสริฐสร เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสงสารและเห็นใจในฐานะที่เคยร่วมอาชีพเดียวกัน เพราะนายจิรัณ เคยทำงานที่โลตัสแห่งนี้กับตนด้วย จึงมอบเงินให้เพราะเข้าใจว่าข้างในคุกจะต้องใช้เงิน
สำหรับตนรู้จักนายจิรัณ มาได้สักพักแล้ว โดยทราบว่ายากจน มีแม่และลูกชายที่ต้องดูแล และไม่มีเงิน ช่วงนี้ทำมาค้าขายอะไรก็ไม่ค่อยดี จึงวอนรัฐบาลให้ช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้อย่างทั่วถึง เพราะการให้เงินอย่างที่เป็นข่าว คนแบบนี้จะไม่สามารถเข้าถึงได้ พร้อมฝากถึงนายจิรัณ หากออกมาแล้วได้ดูข่าวนี้ ก็ขอให้ปฏิบัติตัวให้ดี อย่าทำแบบนี้อีก เพราะเป็นสิ่งไม่ดี
Advertisement