จากกรณีตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรปราการ ชุดสืบสวนสานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ ได้ร่วมกันจับกุม นายพีระพัฒน์ ปิดตังเสโน หรือ เม่น อายุ 22 ปี ผู้ก่อเหตุข่มขืนสาว 18 ปี ต่อหน้าลูกน้อยวัย 2 เดือน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา และพบประวัติก่อคดีมาอย่างโชกโชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คอตก! รวบ “ไอ้เม่น” ขืนใจแม่ลูกอ่อน ขอโทษเหยื่อจะไม่ทำอีก เปิดประวัติช็อกก่อ 12 คดี (คลิป)
- ล่าไอ้หื่นอ้างเป็นเพื่อนพ่อมีดจี้ขืนใจสาวต่อหน้าลูก 2 เดือน ชี้พิรุธรอยสักแมงป่องต้นคอ (คลิป)
วันที่ 20 พ.ย. 63 นายบอย (นามสมมติ) พ่อของเด็กหญิงกอ วัย 13 ปี ที่ถูกนายเม่นกระทำอนาจาร เปิดเผยว่า เหตุของลูกสาวตนเกิดเมื่อ 7 พ.ย. 63 นายเม่นเข้ามาที่บ้านตน โดยปกตินายเม่นเคยเป็นเด็กที่เติบโตแถวนี้ และรู้จักกับตน แต่ไม่เคยเข้ามาในบ้านตน จะเพียงผ่านหน้าบ้านเท่านั้น
จากนั้น นายเมานมักแวะผ่านมาพูดคุยเล่นเช่นเดียวกับวันเกิดเหตุ แต่วันดังกล่าวโทรศัพท์มือถือตนอินเทอร์เน็ตหมด ตนจึงเอ่ยปากขอเงินนายเม่น 100 บาท เพื่อเติมอินเทอร์เน็ต นายเม่นไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับทำทีเหมือนคุยโทรศัพท์ที่ปลายสายอ้างว่าเป็นแม่ โดยบอกว่าขอเงิน 200 บาท ซึ่งตนไม่รู้ว่านายเม่นคุยโทรศัพท์จริงหรือไม่ ขณะนั้นตนเองกำลังตากผ้าอยู่ นายเม่นเอ่ยปากขอใช้น้ำที่บ้านตนเพื่อล้างรถจักรยานยนต์ ไม่นานนายเม่นก็คุยโทรศัพท์อีก และเดินเอากุญแจรถจักรยานยนต์ของนายเม่นมาให้ตน และบอกว่าให้ตนไปเอาเงินกับแม่ของเขา โดยอ้างว่าแม่ของนายเม่นยืนรออยู่ ด้วยความไม่คิดอะไรตนเองก็เชื่อ และขับรถออกไป
โดยที่บ้านขณะนั้นมีลูกสาว วัย 13 ปี และลูกชายวัย 11 ปีอยู่บ้าน ตนเองได้เรียกลูกให้ออกมาตากผ้าต่อจากตน เมื่อตนออกไปตามที่นัดหมายก็ไม่เจอใคร จึงขับรถกลับ ปรากฎว่ามาเจอนายเม่นออกไปที่กลางทางแล้ว เมื่อถึงบ้านตนเจอลูกสาวเดินมาร้องไห้ และบอกว่าเม่นพยายามข่มขืน ตนเองตอนนั้นใจสั่น ตัวสั่นไปหมด ส่วนลูกสาวตอนนั้นใบหน้าก็เขียวช้ำ เพราะว่านายเม่นต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้า ส่วนตัวยอมรับว่าพลาดเองที่ไม่ทันระวัง และตนก็ไม่คิดว่านายเม่นจะก่อเหตุกับบ้านตน
ส่วนตัวรู้ว่านายเม่นเสพยา แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่อง เพราะนายเม้นก็เป็นญาติ ๆ กับครอบครัวตน อย่างไรก็ตาม ตนขอเอาเรื่องนายเม่นถึงที่สุด หากออกมาจากคุก ตนเองจะไปจัดการแน่นอน
ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.แสนภูดาษ จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณบ่อกุ้ง ข้าง อบต.เทพราช ซึ่งเป็นที่พักของนางประเสริฐ ทาแก้ว อายุ 59 ปี ผู้เสียหายถูกนายเม่นลักทรัพย์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้น 15 พ.ย. 63 ช่วงเวลา 12.30 น. ขณะนั้นตนเองนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน โดยโทรศัพท์มือถือชาร์จแบตเตอรี่อยู่ข้างตัว
จากนั้นนายเม่นขับรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ที่หน้าบ้านตน ห่างจากถนนใหญ่ราว 500 เมตร อ้างว่าขอมาหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากที่ถนนใหญ่มีเหตุคนฆ่ากันตาย ยิงกันเป็น 10 นัด จะขอหลบอยู่ 10 นาที ถามตนว่าได้ยินเสียงปืนหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าไม่ได้ยิน ซึ่งนายเม่นมาถึงบ้านตนก็มีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้ และพูดว่า "สวัสดีครับ" ส่วนตัวก็มีความรู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะตนอยู่เพียงลำพัง
จากนั้นคนร้ายก็ทำทีขอกลับ โดยเดินไปที่รถก่อนจะเปิดเบาะที่นั่งของรถจัดรยานยนต์ และหยิบเสื้อพร้อมอวุธปืนออกมา ตอนนั้นตนเองไม่ทราบว่ามีปืน คนร้ายเดินกลับมาที่ตนและยื่นเสื้อที่มือให้ บอกว่านำเสื้อมาฝาก ตนเองก็ปฏิเสธ คนร้ายก็เปิดเสื้อที่มือออกเห็นเป็นกระบอกปืน ขู่ให้ตนนำทรัพย์สินออกมาให้หมด ตนเองก็ระบุว่าตนไม่มี มีเพียงโทรศัพท์มือถือ คนร้ายจึงเอาตนไป แล้วใช้โทรศัพท์ตบปากตน 2 ครั้ง ตนก็พยายามยกมือไหว้ขอชีวิตคนร้ายขู่ตนทำท่าทางจะยิง และบอกว่าหากไม่หลบจะยิงให้ไส้แตก หลังจับตัวได้แล้ว ตนเองให้อภัยคนร้าย แต่ขอให้รับกรรมในคุกให้เต็มที่
ทีมข่าวเดินทางมาที่ หมู่ 5 ต.สำโรงใต้ อ.พระปะแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายพีระพัฒน์ หรือ เม่น พบกับนางบังอร เตี่ยวตะถูล เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า สำหรับนายเม่น แต่ก่อนเขาอาศัยอยู่กับพ่อ และญาติพี่น้องประมาณ 5 คน กระทั่งนายเม่นอายุประมาณ 7 ขวบ ครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายไป จ.ชลบุรี ตอนที่ครอบครัวนายเม่นย้ายออกไปจากชุมชน เขาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร และตั้งแต่ครอบครัวนายเม่นย้ายออกไป ก็ไม่เคยมาแวะเวียนที่ชุมชนของตนเองอีกเลย
ตอนที่ตนทราบข่าวว่านายเม่นไปก่อเหตุทั้งลักทรัพย์และอนาจาร ยอมรับว่าตนตกใจมาก ตอนที่นายเม่นอยู่ในชุมชน เขาก็ไม่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ ตนคิดว่าเขาออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เขาคงไปเจอโลกภายนอกมากมาย จึงทำให้นิสัยเปลี่ยนไป ถ้าในอนาคตนายเม่นพ้นคดี และมาขออาศัยอยู่ในชุมชน ตนก็ไม่ยินดี เพราะเขาเป็นบุคคลอันตราย
ด้านนางพัชนี บัวอุทัย คนที่เคยดูแลครอบครัวนายเม่น เปิดเผยว่า เมื่อตอนที่ครอบครัวนายเม่นอยู่ในชุมชน เขาจะอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ด้วยความที่ตนเองรู้สึกสงสารครอบครัวนี้ จึงสร้างบ้านให้ครอบครัวนายเม่นอยู่อาศัย และพ่อของนายเม่นเขาเป็นคนดี สำหรับพ่อและแม่ของนายเม่น เลิกกันตั้งแต่นายเม่นยังเป็นเด็ก ซึ่งแม่นายเม่นก็มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ตนก็ไม่ทราบว่าที่นายเม่นไปก่อเหตุมากมาย เป็นเพราะจิตใต้สำนึกเขาจะเป็นคนเก็บกดหรือไม่ ตอนที่เม่นอยู่ที่ชุมชนแห่งนี้ ตนก็เลี้ยงดูเม่นเป็นอย่างดี ป้อนข้าวป้อนน้ำให้นายเม่น นายเม่นก็เป็นเด็กที่นิสัยดี ไม่เคยเกเร ตนก็ไม่สามารถจะตอบได้ว่าทำไมเขาถึงเลือกเดินทางสายนี้
สำหรับบ้านของนายเม่น ตั้งแต่นายเม่นและครอบครัวย้ายออกไป เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว บ้านหลังดังกล่าวก็ถูกรื้อทิ้งไปนานแล้ว