เพื่อนสาวทอมรับเห็นเงาดำตกน้ำจุดคนตายนั่งฉี่ ปัดหนีถูกปลิงกัดเลยไป รพ. (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุชาวบ้านพบศพ น.ส.ธัญศิวรัตน์ อายุ 18 ปี ชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จมน้ำอยู่ที่หนองน้ำกลางทุ่งนา ด้านทิศใต้ตลาดเมืองทอง สถานีขนส่ง อ.กันทรลักษ์ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.63 ที่ผ่านมา

โดยสภาพศพขึ้นอึด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ซึ่งบนฝั่งใกล้กับที่พบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบกระเป๋าใส่เงินหนังสีดำ ภายในมีบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในอ.กันทรลักษ์ ทราบชื่อน.ส.หมิว (นามสมมติ) ชาว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ทราบว่าเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ผู้ตายพร้อมเพื่อนได้มาเที่ยวงานหมอลำ ซึ่งจัดแสดงเก็บเงินที่ลานใกล้สถานีรับส่งผู้โดยสาร อ.กันทรลักษ์ โดยก่อนออกจากงานหมอลำ ผู้ตายอยู่ในสภาพมึนเมาอย่างหนัก ขอปลีกตัวออกไปปัสสาวะ แล้วหายตัวไป

เบื้องต้นญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตคาดว่า ผู้ตายน่าจะพลาดลื่นล้มตกลงในหนองน้ำ และด้วยความมึนเมา จึงเป็นเหตุทำให้จมเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ญาติติดใจว่าทำไมบัตรประชาชนและกระเป๋าของน.ส.หมิว จึงไปตกอยู่ใกล้กับผู้ตาย

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าลานดังกล่าวเป็นลานโล่ง มีห้องน้ำขนาบข้างทั้งหมด 2 จุด โดยในวันจัดงานแสดงหมอลำ หน้าเวทีได้หันหน้าไปยังปลายทุ่งนา มีการล้อมรั้วลานการแสดงไว้ให้เข้าออกเพียงทางเดียว โดยทีมข่าวได้วัดจุดเข้าออกการเข้าชมหมอชำกับจุดที่พบศพของผู้ตาย ทราบว่ามีระยะห่างกันประมาณ 50 เมตร

โดยบริเวณที่พบศพจะเป็นท้องนามีน้ำขัง จากการวัดระดับน้ำเบื้องต้น ความลึกของน้ำเริ่มที่ 30 ซม. และจะลึกลงไปเรื่อย ๆ จนถึงประมาณ 80 ซม. ทั้งนี้เพื่อกันคนเข้าไปในท้องนา ได้มีการขึงลวดหนามไว้ ความยาวประมาณ 5 เมตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ได้เรียกตัวน.ส.หมิว (นามสมมติ) และน.ส.กุ๊กไก่ (นามสมมติ) ผู้ที่อยู่กับผู้ตาย 2 คนสุดท้ายมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่เคยพูดคุยไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำทั้งคู่ตั้งแต่เวลา 12.30-18.00 น. รวมเวลากว่า 5 ชั่วโมง 30 นาที

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.กุ๊กไก่ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย เล่าว่า ในคืนวันที่ 13 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปดูหมอลำ ซึ่งน.ส.หมิว เดินเข้ามาทักตนพร้อมกับผู้ตายในสภาพมึนเมาค่อนข้างหนักในเวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งตนเพิ่งเคยเจอผู้ตายเป็นครั้งแรก จากนั้นผู้ตายก็ได้ขอตัวไปเต้นที่หน้าเวที แต่ตนคิดว่าผู้ตายนั้นเมามาก จึงได้บอกให้น.ส.หมิว ไปช่วยพยุงผู้ตาย แต่ทั้ง 2 คนก็ได้เดินออกไปจากลานเวที ทราบภายหลังว่าไปปัสสาวะ

จากนั้นไม่ถึง 10 นาที น.ส.หมิว ก็ได้วิ่งกลับมาหาตนพร้อมแผลที่มือซ้าย เนื่องจาก น.ส.เห็นเงาคล้ายคนร่วงหายไปตรงจุดที่ผู้ตายปัสสาวะ จึงเดินไปตามหา แต่ก็หาไม่พบ เมื่อลงไปงมก็ถูกสัตว์กัดมือ แต่ภายหลังทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามือน่าจะถูกลวดหนามเกี่ยวเป็นแผล

ทั้งนี้ น.ส.หมิว จับมือตนวิ่งออกไปยังจุดที่ผู้ตายหายไป ตนได้ช่วยตามหาผู้ตายอยู่บริเวณหน้าลวดหนาม แต่ก็หาไม่พบ ขณะนั้นน.ส.หมิว ได้ลื่นล้มตัวเปียกน้ำและปวดแผลที่มือซ้าย ตนได้เตือนให้น.ส.หมิวมีสติ กระทั่งในเวลาประมาณ 03.00 น. ตนกับน.ส.หมิว เดินกลับมาที่ลานงานแสดงหมอลำ เพื่อค้นหาผู้ตายอีกครั้ง โดยน.ส.หมิว ได้ฝากกระเป๋าไว้กับตน เนื่องจากตัวเปียก จนฟ้าสว่างรู้ตัวอีกทีกระเป๋าของน.ส.หมิวก็หายไปแล้ว คาดว่าตนน่าจะทำหล่นขณะค้นหาผู้ตาย

ทั้งนี้ตนยืนยันว่า เหตุที่กระเป๋าพร้อมบัตรประชาชนของน.ส.หมิว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เป็นเพราะตนทำหล่นเอง อีกทั้งน.ส.หมิว ยังได้โทรศัพท์แจ้งเพื่อนผู้ตาย ฝากให้เพื่อนผู้ตายช่วยแจ้งข่าวให้แม่ผู้ตายได้ทราบ

โดยตั้งแต่วันที่ 14-18 พ.ย.63 ตนก็มีความเป็นห่วงผู้ตาย แต่ตนทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากตนเพิ่งเคยเจอกับผู้ตายเป็นครั้งแรก ซึ่งในวันที่ 14-17 พ.ย.63 ตนก็พักอาศัยอยู่ภายในบ้านพัก อ.เบญจลักษ์ ตามปกติ จนช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบถามข้อมูลจากตน และพบศพผู้ตายในที่สุด ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คาดเป็นเพราะความมึนเมา ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตายด้วย

สำหรับข้อสงสัยการตายของน้องเนม ที่ครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการตายนั้น ได้เแก่ จุดที่ลงไปปัสสาวะมีหญ้าขึ้นสูง มีน้ำขัง และมีลวดหนามกั้นพื้นที่ไว้ คนปกติไม่น่าจะเข้าไปปัสสาวะไกลขนาดนั้น ส่วนเรื่องกระเป๋าสตางค์และบัตรประชาชนของน.ส.หมิว ทำไมไปตกอยู่ใกล้ศพของน้องเนม

อีกทั้งทำไมเพื่อนที่ไปด้วยกันไม่รอกลับพร้อมกัน และไม่บอกที่บ้านว่าน้องเนมหายตัวไป ขณะที่รอยแผลที่มือของน.ส.หมิว ลักษณะค่อนข้างใหญ่ คล้ายกับรอยกัดจากฟันคน ความจริงแล้วแผลเกิดจากอะไรกันแน่ 

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.หมิว อายุ 18 ปี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบบัตรอยู่ในกระเป๋าสีดำ ตกอยู่นอกรั้วลวดหนาม ห่างจากจุดพบศพที่อยู่หลังลวดหนามประมาณ 3 เมตร

น.ส.หมิว บอกว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนของเพื่อนตนอีกที ซึ่งตนเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือน โดยในวันเกิดเหตุ (13 พ.ย.63) ตนและกลุ่มเพื่อนได้พบเจอกันที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยมีการดื่มสังสรรค์กันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ทำให้ผู้ตายค่อนข้างที่จะมีอาการมึนเมาอย่างหนัก จากนั้นเมือตกดึก เพื่อน ๆ ทุกคนต่างแยกย้าย ส่วนตนกับผู้ตายก็ได้เดินไปเจอน.ส.กุ๊กไก่ (นามสมมติ) ที่ลานเวทีหมอลำ ซึ่งผู้ตายยังคงมีอาการมึนเมา จึงได้ออกไปเต้นอยู่หน้าเวที

สักพักตนได้เข้าไปพยุงผู้ตาย ซึ่งผู้ตายได้บอกกับตนว่าอยากปัสสาวะ ตนจึงได้พาผู้ตายเดินออกไปห้องน้ำ แต่เนื่องจากผู้ตายมีอาการมึนเมา เดินเซหกล้มหลายครั้ง ผู้ตายจึงขอตัวไปปัสสาวะข้างทาง ส่วนตนก็ได้ยืนรอ เมื่อตนหันไปอีกทีก็พบเห็นเงาคนร่วงหล่นลงไปในน้ำ ตนจึงได้เดินลงไปในน้ำเพื่อค้นหาผู้ตาย แต่ไม่พบ จนถูกสัตว์บางชนิดกัดนิ้วชี้ข้างซ้าย จากนั้นตนจึงได้วิ่งกลับไปหาน.ส.กุ๊กไก่ เพื่อเรียกให้ไปช่วยกันหาผู้ตาย แต่ก็ไม่พบผู้ตาย ตนจึงได้วานให้น.ส.กุ๊กไก่ ช่วยโทรบอกเพื่อนผู้ตายอีกคน เพื่อวานให้เพื่อนช่วยบอกครอบครัวผู้ตายว่าผู้ตายหายไป

ต่อมาตนรู้สึกเจ็บแผล จึงได้วานเจ้าหน้าที่อปพร.ในพื้นที่ไปส่งที่โรงพยาบาล น.ส.กุ๊กไก่ ได้ตามมาทีหลัง จากนั้นตนและน.ส.กุ๊กไก่ ก็ได้ไปค้นหาผู้ตายอีกครั้งจนฟ้าสว่างแต่ไม่พบตัว

โดยต่อมา วันที่ 14-17 พ.ย.63 ตนก็ได้พักอยู่ที่บ้านของตัวเองใน อ.ศรีรัตนะ ตลอดเวลา ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วงผู้ตาย แต่ตนทำอะไรไม่ได้ จนเจ้าหน้าทีตำรวจเดินทางมาสอบถามข้อมูลจากตน ในช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย.63 และพบศพผู้ตาย

ทั้งนี้ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ขณะนี้ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงแล้ว โดยจากการสอบปากคำน.ส.หมิว กับน.ส.กุ๊กไก่ คำให้การไปในทิศทางเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรจะสืบหาความจริงให้กระจ่าง เพื่อความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้ตายต่อไป