กรณีนายวัน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายด้วยอาวุธปืน และฟันด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย 13 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้เข้าตรวจสอบทราบว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันเป็นพาหนะในการหลบหนี และจากการแกะลอยจากกล้องวงจรปิดทราบว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุ คือ นายปธานิน อายุ 19 ปี ลูกชายอดีตตำรวจ สภ.สำโรงใต้ เพิ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อปีที่ผ่านมาร่วมอยู่ด้วย จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวต่อที่บ้านเพื่อน ในอ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ก่อนที่สภ.สำโรงใต้ และกำลังเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จะนำกำลังออกติดตามไปยังบ้านหลังหนึ่ง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายต้า เพื่อนรุ่นพี่ ได้พบตัวนายปธานิน กำลังนั่งมั่วสุมกันอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว นายปธานิน ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บจริง เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 6 คน เดินทางกลับมาสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ
นายปธานิน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้อาวุธปืนปากกาที่ผลิตขึ้นเอง ยิงใส่ผู้บาดเจ็บ และนายจักรกฤษณ์ หรือ ม่อน เป็นคนใช้มีดฟัน โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและพวกทั้งหมดกำลังขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อที่จะไปร่วมตัวกันเดินทางไปเที่ยวที่บ้านของนายต้า เพื่อนรุ่นพี่ ที่อยู่ในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีผู้หญิงเป็นคนขับได้ชักเอามีดออกมาชี้หน้าตนและพวก จนทำให้รถเสียหลักล้มก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะใช้อาวุธมีดเล่มดังกล่าววิ่งเข้าฟันพวกตน
ทั้งนี้ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้ชักอาวุธปืนปากกาที่พกติดตัวมายิงใส่ผู้บาดเจ็บ ถูกเข้ามาแขนขวาจนมีดหลุดตกจากมือนายจักรกฤษณ์ หรือม่อน จากนั้นได้วิ่งเข้าไปเก็บมีดของผู้บาดเจ็บ ก่อนที่จะเข้าไปฟันผู้บาดเจ็บ 1 ครั้งถูกที่บริเวณศีรษะ ส่วนที่เหลือจึงรุมทำร้ายก่อนที่จะพากันขี่รถจักรยานยนต์ไปจอด และนั่งรถกระบะมาเที่ยวที่บ้านของนายต้า ในจ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอร (นามสมมติ) แม่ของผู้ต้องหา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.30 น. ลูกชายเก็บเสื้อผ้าขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปหากลุ่มเพื่อน เนื่องจากนัดกันว่าจะไปเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน 1 คืน จนช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบอกตนว่า ลูกชายไปก่อเหตุยิงผู้อื่น ตอนแรกไม่เชื่อเพราะคิดว่าลูกไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว จึงโทรศัพท์ติดต่อไปหาลูกชาย ทราบว่าขณะนั้นอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยลูกบอกว่าจะเข้ามามอบตัววันที่ 22 พ.ย.63 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนไปรับตัวกลับมาพร้อมเพื่อนทั้งหมดรวม 6 คน ตั้งแต่เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา
สอบถามลูกชาย ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ฝั่งตัวเองบังเอิญขับรถไปเจอกับคู่กรณี ซึ่งเคยมีปัญหากันมาก่อน จากนั้นคู่กรณีหยิบมีดมาจะทำร้าย จึงต้องป้องกันตัว โดยฝั่งลูกชายมีการแย่งมีดคู่กรณี ไปทำร้ายคู่กรณี ส่วนลูกชายซึ่งถือปืนปากกาอยู่ ช่วงชุลมุนมีการยิงออกไปโดยไม่รู้ตัว กระสุนถากที่แขนไม่ได้โดนศีรษะตามที่มีข่าว ก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากพื้นที่และเดินทางไปเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามกำหนดการเดิม
โดยเพื่อน ๆ ลูกชาย ระบุว่า เคยมีปัญหากับนายวัน (นามสมมติ) มาก่อน เพราะอีกฝ่ายเคยปาหินใส่ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ ลูกชายตนก็ไม่ได้ตั้งใจฆ่าอีกฝ่าย แต่เป็นเหตุการณ์ชุลมุนทำไปเพื่อป้องกันตัว ซึ่งสามีตนเป็นตำรวจเกษียณราชการจริง แต่ไม่เคยปกป้องลูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ตนก็เสียใจเพราะไม่เคยสอนให้ลูกทำร้ายคนอื่น พยายามดูแล ตักเตือน แต่ลูกก็ไม่ได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา โดยอยากพูดคุยกับฝั่งคู่กรณี เพื่อขอโทษและเคลียร์ปัญหา เพื่อจะได้ไม่เกิดการล้างแค้นกันไปมาไม่จบสิ้น
น้องกีตาร์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยหลังจากที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนก่อเหตุได้ว่า ตนรู้สึกดีใจ แต่ขณะเดียวกันตนไม่ทราบว่าทางคู่กรณีได้ถูกปล่อยตัวออกมาหรือไม่ หรือได้รับการประกันตัว เมื่อช่วงเย็นตนได้ทราบข่าวจากกลุ่มเพื่อนของตนว่า เห็นคู่กรณีถูกปล่อยตัวออกมา 4 คน ส่วนอีก 2 คนถูกคุมขัง ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งขณะนี้ตนได้เลิกพกอาวุธ (มีด) เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เกิดเรื่องตนไม่คิดจะไปรุมทำร้ายคู่กรณีคืน ตนเพียงอยากได้แค่ "คำขอโทษ" ซึ่งหากมาขอโทษจริงตนพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ แต่สำหรับนายวัน (นามสมมติ) ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนไม่ทราบว่าจะให้อภัยหรือไม่ ต้องไปถามเจ้าตัว เพราะขณะที่เกิดเหตุการณ์ตนเพียงรถล้มเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย
ส่วนกรณีแม่ของมือยิง อ้างว่าเพื่อนลูกชายเล่าให้ฟังว่าทางกลุ่มนายวัน (นามสมมติ) ใช้อาวุธมีดก่อนนั้น ตนยอมรับว่าใช้จริง แต่เป็นการป้องกันตัว เนื่องจากกลุ่มคู่กรณีได้ใช้ปืนจ่อศีรษะ การกระทำดังกล่าวตนมองว่ารุนแรงไปหรือไม่ เข้าใจว่ารักสถาบัน นอกจากนี้ยืนยันและกล้าสาบานว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่เคยที่จะปาหินใส่ฝั่งคู่กรณีอย่างที่อ้างมา เพราะส่วนมากนายวัน ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านสักเท่าไร ทั้งนี้ตนคาดว่าคู่กรณีน่าจะเอาชีวิตนายวัน เพราะได้ข่าวมาจากเพื่อน
ด้านพ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.สำโรงใต้ ระบุว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองทางสาธารณะ แก่นายปธานิน ผู้ก่อเหตุ ส่วนเพื่อนอีก 5 คนอยู่ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งมีบางคนที่ร่วมลงมือ จะต้องแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย