เมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 บรรยากาศการชุมนุมคณะราษฎร บริเวณสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สาขารัชโยธิน ในเวลาประมาณ 18.58 น. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ “ส.ศิวรักษ์” วัย 88 ปี นักคิด นักเขียน ได้ปรากฏตัวในพื้นที่ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชุมนุมอย่างมาก
เวลา 20.23 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ได้พากันโบกธงสัญลักษณ์คณะราษฎร และเดินลงสู่พื้นผิวถนน บริเวณอุโมงค์ข้ามแยกถนนรัชดาภิเษก ทำให้การจราจรฝั่งขาออกด้านหน้าอาคาร SCB จาก 2 เลนถูกบีบเหลือเพียง 1 เลนเท่านั้น รถที่สัญจรผ่านไปมาจึงชะลอตัวและสลับหยุดนิ่ง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอให้พื้นผิวถนน 100% เพราะมวลชนกำลังทยอยเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในเวลา 20.31 น. มีเหตุการณ์ชุลมุนเล็กน้อย เนื่องจากมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจคันหนึ่งได้ขับฝ่าฝูงชน ทำให้มวลชนเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเข้ามาสลายการชุมนุมในวันนี้หรือไม่ จึงทำให้ปรากฏเหตุการณ์ควันสีขึ้น ซึ่งคณะราษฎรใช้จุดเพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีเหตุการณ์ชุลมุน
ขณะที่บรรยากาศบริเวณลานด้านหน้าห้างเมอเจอร์รัชโยธิน เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวสังเกตว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายชุดการ์ด รวมตัวกันเพื่อรับมอบหมายงาน ก่อนเข้าพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยให้ผู้ชุมนุม โดยบุคคลที่ยืนพูดคุยกับกลุ่มการ์ด คือ นายพลาม พรมจำปา หรือ “ครูพลาม” ผอ.สถาบันมัชฌิมาการต่อสู้ และอดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ในฐานะการ์ดรบพิเศษ กำลังพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มการ์ดที่กำลังเตรียมจะปฏิบัติงานดูแลความเรียบร้อยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม
ส่วนเนื้อหาที่มีการพูดคุยกันนั้น ทราบว่า มีการทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้มีการปะทะ หรือไม่ให้เกิดความรุนแรง อีกทั้งจะต้องช่วยกันป้องปรามไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ และสร้างความชุลมุนให้กับการชุมนุมครั้งนี้
สำหรับชุดการแต่งกาย ไม่ได้มีอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรง หรืออาวุธที่ผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกโทรศัพท์มือถือ ไฟฉาย น้ำดื่ม และไม่ได้มีเรื่องของอาวุธมีด หรือกระบอง เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะชุดที่สวมใส่ คือมาตรฐานของการ์ด ที่ดูแลความปลอดภัยให้กับสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านสถานบันเทิง ที่เป็นสากล
นายพลาม พรมจำปา หรือ “ครูพลาม” เปิดเผยว่า ตนตัดสินใจเข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อยในฐานะการ์ด เพราะที่ผ่านมากลุ่มของประชาชนถูกรังแก แล้วยังมีการใช้ความรุนแรง แต่ไม่มีใครที่มีประสบการณ์ที่จะป้องกันเหตุปะทะหรือช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ดังนั้นตนจึงได้พาทีมสมาชิกในกลุ่มรวม 20 คน ที่ผ่านการฝึกและมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัย เข้ามาสอดส่องดูแลและช่วยเหลือกลุ่มการ์ดอาสาของผู้ชุมนุม แต่ยังไม่เรียกว่าเป็นหัวหน้าหลักของการดูแลความปลอดภัย เพราะยังไม่ได้รับมอบหมายจากกลุ่มแกนนำ เพียงแค่อาสาเข้ามาช่วยเหลือเท่านั้น
โดยกลุ่มของตนในฐานะผู้มีประสบการณ์หลัก จำนวน 20 คน จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง และควบคุมดูแลความเรียบร้อย จากนั้นก็จะมีการ์ดอาสากลุ่มผู้ชุมุชม เข้ามาร่วมทำให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีสมาชิกวันนี้ที่เข้ามาร่วมเป็นการ์ดอาสา จำนวน 100 คน และครั้งต่อไปก็จะตั้งเป้าขยายเพิ่มเติมให้ได้ถึง 300 คน รวมทั้งจะมีการชักชวนให้กลุ่มการ์ดอาชีวะเข้ามาเรียนรู้ ทำให้การควบคุมดูแล ป้องกันเหตุปะทะ มีความเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับตัวแทน 100 คนที่มาร่วมกันวันนี้ ได้ผ่านการฝึกอบรม 2 ชั่วโมง โดยฝึกทั้งเนื้อหาทฤษฎีและปฏิบัติกรณีการป้องกันตัวจากอาวุธมีด หรือเหตุเผชิญหน้า ด้วยวิธีการรับมืออย่างไรให้ปลอดภัย และหากเกิดเหตุปะทะ จะดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร
ทั้งนี้ครูพลาม ยืนยันกับทีมข่าวว่า การเดินทางมาช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ ไม่ได้รับการว่าจ้างจากใครเป็นกรณีพิเศษ มาด้วยใจและช่วยเหลือผู้ชุมนุม แล้วยังพูดติดตลกว่า หากมีการถูกว่าจ้างก็คงต้องบินไปรับเงินจากต่างประเทศแล้ว หลังจากนี้ยืนยันว่ายังคงช่วยเหลือกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมไปเรื่อย ๆ และหากวันไหนติดงานก็จะมีคนที่มีตำแหน่งรองจากตน เข้ามาควบคุมดูแลความเรียบร้อยต่อไป
ในเวลา 21.03 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า จะยกระดับการชุมนุมในการรวมตัวกัน วันที่ 27 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. ซึ่งจะประกาศสถานที่ที่แน่ชัดอีกครั้งผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กหลักของคณะราษฎร เพื่อชี้ชะตาและกดดันให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง
ขณะที่ เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ ระบุว่า วันนี้พิสูจน์แล้วว่าม็อบมากันจำนวนมาก ไม่เหมือนที่หน่วยงานความมั่นคงปรามาสไว้ การชุมนุมหลังจากนี้คือนัดชี้ชะตาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ตนทราบข่าวมาว่า ตำรวจจะจับแกนนำทั้งหมดภายในคืนนี้ จึงขอให้ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. ให้มืดฟ้ามัวดิน เพราะไม่รู้ว่าตนนั้นจะได้ออกมาร่วมชุมนุมหรือไม่
จากนั้นในเวลา 21.13 น. นายพริษฐ์ ได้ชักชวนมวลชนเปิดแฟลชเล่นทะเลดาว ร้องเพลงเพื่อมวลชน ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 21.17 น.