จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาของหญิงสาว โดยในคลิปได้กล่าวพาดพิงถึงบุคคลทั้งนายตำรวจระดับสูง, อัยการ, ทนายความ, พิธีกรชื่อดัง รวมทั้งสื่อมวลชน ซึ่งเวลาต่อมา น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ “ฟ้า” ได้ออกมายอมรับว่า ตนเป็นหนึ่งในหญิงสาวเจ้าของเสียงในคลิปดังกล่าว
วันนี้ ( 2 เม.ย. 61)
“รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ
น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ
“ฟ้า” พร้อมด้วย
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ และ
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความครูปรีชา ร่วมพูดคุยในรายการ
น.ส.กนกพรรณ กล่าวว่า คลิปดังกล่าวถูกนำไปตัดต่อบางช่วงบางตอนออก และผู้ที่นำคลิปออกมาเผยแพร่นั้นไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิด
ส่วนกรณีที่ในคลิปเสียงมีการพาดพิงถึง ดร.สุกิจ นั้น น.ส.กนกพรรณชี้แจงว่า ไม่เคยได้ยินจากปากดร.สุกิจ พูดว่าเคยเป็นทนายของนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ตนเคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้วก็พูดไป เพราะต้องการอยากจะบอกว่าท่านเก่งจริงเท่านั้น เนื่องจากตนนับถือ ดร.สุกิจ เหมือนพ่อคนหนึ่ง ล่าสุดได้พิมพ์ข้อความไปขอโทษ ดร.สุกิจ เป็นการส่วนตัวแล้ว
ส่วนกรณีกล่าถึงอัยการท่านหนึ่ง น.ส.กนกพรรณบอกว่า ตนอยากขอโทษต่อสิ่งที่ได้พูดออกไป ที่พูดไปเพราะอยู่ในอารมณ์ที่กำลังโกรธ ซึ่งยอมรับว่าไม่ชอบในการออกมาให้สัมภาษณ์ของท่าน เพราะมีความรู้สึกว่าไม่มีความเป็นกลาง แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ติดใจอะไร
สำหรับกรณีของหนุ่ม กรรชัย พิธีกรและนักแสดงที่ถูกพูดถึงในคลิปนั้น เป็นเพียงการพูดคุยกันสนุกๆ เท่านั้น ไม่ได้มีการมาก้อล้อก้อติกตามที่ได้พูดออกไป ยืนยันว่าพิธีกรคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับตน และทุกอย่างที่ตนได้พูดออกไป เป็นเพราะความคะนองปากเท่านั้น
ส่วนกรณีกล่าวถึงพล.ต.ท ฐิติราช ในคลิปเสียงด้วยนั้น ตนอยากกราบขอโทษท่าน อยากบอกว่าไม่มีเจตนาที่จะไปเอ่ยต่อว่าให้ท่านได้รับความเสียหาย ครั้งนี้ที่มันเป็นข่าวออกมาเป็นเพราะคนที่เอาคลิปมาปล่อย และหากท่านจะเสียหายก็เสียหายเพราะคนที่เอาคลิปดังกล่าวมาปล่อย
ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาเรื่องตนขึ้นคอนโดกับผู้ชายนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งเรื่องที่บอกว่ามีคนซื้อคอมพิวเตอร์ให้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้ใช้เงินค่าตอบแทนที่ได้มาจากการออกรายการทีวีซื้อ
ด้าน
ทนายเกิดผล กล่าวว่า กรณีคลิปดังกล่าวนั้น หากผู้ที่ถูกพาดพิงคิดว่าตัวเองได้รับความเสียหาย ก็สามารถฟ้องดำเนินคดีอาญาได้ เพราะเป็นการกล่าวหาที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะความผิดสำเร็จตั้งแต่ตอนที่มีการใส่ความ การใส่ความ คือ การใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคลิปหลุด เพราะความผิดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่มีการพูดจาใส่ความผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายแล้ว
ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าคนที่พูดเป็นใคร แต่พูดถึงใครต่างหากที่เป็นสาระสำคัญ เช่น หากพูดถึงอัยการท่านหนึ่ง แล้วคนที่ฟังเข้าใจว่าสิ่งที่พูดออกไปหมายถึงใคร และข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความที่ใส่ความให้ผู้นั้นได้รับความเสียหาย ก็จะเป็นความผิดหมิ่นประมาท แต่คนที่นำออกมาเผยแพร่นั้น จะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยคนที่นำไปเผยแพร่ต่อหรือแชร์ ก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน
ด้าน
ทนายวรยุทธ กล่าวว่า คลิปที่ถูกนำออกมาเผยแพร่นั้น ตนมองว่า ไม่มีผลกระทบต่อกับของคดีหวย 30 ล้านบาทของครูปรีชาแต่อย่างใด และตนก็ไม่ทราบว่าคนที่ปล่อบคลิปเสียงดังกล่าวมีเจตนาอะไร โดยตนคาดว่าอาจจะเป็นการกระทำเพื่อทำร้ายหรือแก้แค้นกันเป็นการส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ช่วงระหว่างพักเบรกรายการ น.ส.กนกพรรณ ได้กล่าวทั้งน้ำตา แสดงความอัดอั้นที่เจอปัญหาว่า “ฟ้าแค่อยากหยุดพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้เท่านั้น การที่มาละเมิดฟ้า แล้วฟ้าเป็นผู้หญิง แล้วถูกคนทั้งประเทศด่า ทำกับฟ้าแบบนี้ได้อย่างไร หาว่าฟ้าขึ้นโรงแรมกับผู้ชาย ทุกวันนี้ยังไม่โดนกฎหมายเล่นงานสักที ทำไมสื่อถึงไปสนับสนุนเขา หาว่ามีคนซื้อโน้ตบุ๊กให้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าลูกเราเห็นเขาจะคิดอย่างไร”