กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "สุดารัตน์ สุระเสียง พุฒทา" โพสต์รูปถ่ายเงาสีขาว รูปร่างคล้ายคนยืนอยู่ดูเด็กเล่นโทรศัพท์มือถือ และเชื่อว่าเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณ จนเกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 27 พ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่กลางทุ่งนา ในพื้นที่บ้านหนองห้าง ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ บริเวณใต้ต้นจั้วะ สูง 8 เมตร ที่ยืนต้นอยู่กลางทุ่งนา โดยวันนี้ชาวบ้านได้นำขันธ์ 5 ประกอบด้วยดอกไม้และเทียนมาไหว้ขอขมาที่ใต้ต้นจั้วะ เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยคุ้มครอง
นายศุภกิจฐิติ พุฒทา ผู้ที่ถ่ายภาพ เปิดเผยว่า เหตุเกิดช่วงวันที่ 25 พ.ย. 63 เวลา 20.00 น. ขณะที่ตนไปช่วยเพื่อนบ้านเกี่ยวข้าว โดยบริเวณรอบ ๆ จุดเกิดเหตุ ก็มีคนนั่งพักอยู่ประมาณ 20 คน ตอนเกิดเหตุรถไถได้จอดหันหลังให้ต้นจั้วะ และหลานชาย 2 คน วัย 13 ปี และวัย 12 ปี ก็นอนอยู่ที่ท้ายรถไถ ด้วยแสงไฟที่สาดส่องไปที่ต้นจั้วะนั้นสวยงาม ซึ่งตนอยู่ห่างจากต้นจั้วะ ประมาณ 4 เมตร จึงได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเอาไว้
แต่เมื่อนำรูปในโทรศัพท์มาขยายดู กลับเห็นบุคคลที่ 3 ที่ไม่คุ้นหน้าเข้ามาอยู่ในรูปด้วย ลักษณะคล้ายคนร่างสูงใหญ่ สวมชุดขาว ทั้ง ๆ ตอนที่ถ่ายนั้นตนไม่เห็นว่าใครอยู่ตรงนั้น ทันทีที่เห็นรูปก็รีบเข้าไปถามหลานชายทั้ง 2 คนว่า มีใครเดินมาตรงจุดดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหลานชายทั้ง 2 คนก็ยืนยันว่าไม่มีใครเดินมาที่บริเวณนั้น หลังจากนั้นตนก็ไปถามคนที่มาเกี่ยวข้าวที่นั่งพักผ่อนอยู่บริเวณรอบ ๆ ทุกคนก็ยืนยันว่าไม่มีใครเดินไปจุดดังกล่าว และไม่มีใครแต่งกายด้วยชุดขาว
นายศุภกิจฐิติ กล่าวต่อว่า ตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ จึงได้นำรูปให้ภรรยาดู ภรรยาจึงนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กและเกิดการวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นข่าว ซึ่งตนเชื่อว่ารูปที่เห็นอาจจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางที่ดูแลทุ่งนาปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็น และดูแลรักษาคนที่มาเกี่ยวข้าว เพราะบริเวณดังกล่าวเคยเป็นหมู่บ้านเก่า ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะไปทำบุญ อย่างไรก็ตาม หลังจากตนนำรูปให้เพื่อน ๆ ดู ทุกคนก็ถึงกับนอนไม่หลับ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอุ่นใจ บุตรชน อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองสะพัง ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า บริเวณทุ่งนาดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้างมาก มีหลานทุ่งนาติดกัน โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นนาโพธิ์เชื่อมกับนาหินแป้น โดยตนเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าเดิมทีทุ่งนาดังกล่าวเคยเป็นหมู่บ้าน แต่ชาวบ้านติดโรคห่าและล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงนำศพฝังดินในทุ่งนา และย้ายไปตั้งรกรากที่อื่น จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน พื้นที่ดังกล่าวก็ถูกบุกเบิกและทำเป็นพื้นที่นาอีกครั้ง
นางอุ่นใจ กล่าวต่อว่า เมื่อ 4-5 ปีก่อน มีชาวบ้านมานอนเถียงนาตอนกลางคืน ก็สังเกตเห็นดวงไฟสีชมพู กลม ขนาดใหญ่ ลอยสูงเท่าต้นตาล และลอยลงมากินกบกินเขียดในนา ทำให้เกิดความตกใจจนต้องวิ่งหนี ซึ่งทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่มีความเฮี้ยน เมื่อเข้ามาก็จะรู้สึกเย็น และเสียวสันหลังตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปที่ชาวบ้านถ่ายได้ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นอะไร แต่ก็ค่อนข้างน่ากลัว
ทีมข่าวลงพื้นที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ได้พูดคุยกับพระอธิการสิงห์ ถิรปฺญโญ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย (หนองห้าง) เปิดเผยว่า อาตมาได้เห็นภาพที่ถ่ายแล้ว ก็ไม่เชื่อว่าภาพนั้นจะเป็นการถ่ายติดวิญญาณ คิดว่าคนที่ถ่ายน่าจะจิตอ่อน จนเห็นเป็นภาพต่าง ๆ
เพราะตั้งแต่เกิดมาอาตมาก็ยังไม่เคยเห็นผี แต่หากโยมคนที่ถ่ายรู้สึกไม่สบายใจ อาตมาก็ขอแนะนำให้ทำตามหลักพระพุทธศาสนา คือ ทำบุญ กรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญกุศลให้กับสิ่งที่เจอ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่คิดว่ารูปดังกล่าวเป็นเจ้าที่นั้น อาตมาก็มองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่อาตมาไม่เชื่อเรื่องแบบนี้
รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพถ่ายระยะไกล และมีแสงสปอร์ตไลท์สาดจากมุมซ้ายของภาพ ซึ่งเมื่อภาพถูกถ่ายในระยะไกล ก็อาจจะเกิดการสะท้อนของแสง สามารถทำให้เกิดภาพต่าง ๆ ตามจินตนาการ ซึ่งเมื่อแสงไปเกิดการกระทบและสะท้อน เนื่องจากตามธรรมชาติของแสงจะเกิดการสะท้อนและรวมแสง จึงทำให้เกิดภาพดังกล่าว แต่ตนขอยืนยันว่า ไม่ใช่ผีอย่างแน่นอน