ภายหลังจากเกิดเหตุบอลลูน ตกกระแทกหลังคาโกดังกระจายสินค้าบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หนองขาม หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังนำนักท่องเที่ยวบินขึ้นชมความงามของงานเทศกาลอาหารอร่อย โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นครอบครัว พ่อ แม่ และลูกวัย 3 ขวบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ควบคุมบอลลูน อีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด วันนี้ (3 เม.ย.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณสนามบินเครือสหพัฒน์ ศรีราชา พบว่าในวันนี้ไม่มีการจัดแสดงโชว์บอลลูน มีเพียงถังแก๊ส แอลพีจี ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 6 ถัง กระเช้าบอลลูน และตัวฐานวางเชื้อเพลิงที่จะนำบอลลูนขึ้นวางอยู่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า เชือกที่ยึดบอลลูนที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมนั้น กระเด็นหลุดออกมา เนื่องจากกระแสลมที่พัดแรง แต่สุดท้ายเชือกก็กระเด็นขาดไป ทำให้บอลลูนหลุดลอยไปเกี่ยวกับต้นไม้ ซึ่งจะเห็นว่าต้นไม้ได้หักจากการถูกบอลลูนเกี่ยว ส่วนหลังคาก็มีรอยบุบ เนื่องจากบอลลูนได้หล่นไปที่จุดดังกล่าว
ด้าน
นายกอล์ฟ (นามสมมติ) นักบินบอลลูนที่อยู่ในเหตุการณ์ นำทีมข่าวไปดูจุดที่มีการตั้งบอลลูน โดยตั้งอยู่ในพื้นที่สนามโล่งกว้าง ส่วนจุดที่มีการยึดตัวบอลลูนไว้ จะใช้เชือกที่มีความหนาแข็งแรงมาก โดยยึดเชือกไว้กับโครงเหล็ก แต่เชือกที่พบจะเห็นได้ว่ามีรอดขาด
นายกอล์ฟ เปิดเผยว่า ข่าวที่มีการนำเสนอไปว่า ได้มีการนำบอลลูนลอยในช่วงที่เกิดฝนตกและลมกระโชกแรงนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะก่อนจะให้นักท่องเที่ยวขึ้นบอลลูน ต้องมีการตรวจสภาพอากาศก่อน ซึ่งวันเกิดเหตุได้มีการทดสอบทิศทางลมจำนวน 2 ครั้ง ทุกครั้งสภาพลมก็นิ่ง จนเมื่อนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปได้ชั่วครู่ ลมก็พัดมา นักบินบอลลูนจึงนำบอลลูนลง แต่ก็ไม่ทัน เพราะลมได้พัดบอลลูนไปพร้อมกับคนที่อยู่ในตะกร้า เมื่อบอลลูนลอยไปถึงหลังคา ก็ได้หล่นบนหลังคา ประกอบกับพื้นที่บนหลังคา อาจมีวัตถุบางชิ้นที่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ ถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสุดวิสัย
ส่วนสาเหตุที่เชือกขาด เพราะลมแรง ทำให้เกิดแรงกระชากจนทำให้เชือกที่มีการยึดไว้ทั้งหมด 3 จุดนั้นขาด ไม่สามารถยึดตัวบอลลูนได้ ทั้งที่ความจริงเชือกนี้สามารถลากรถ 10 ล้อได้เสียด้วยซ้ำ โดยยอมรับว่า ตนทำงานนักบินบอลลูนมาหลายที่ แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
ทั้งนี้ ตนไม่ได้เป็นนักบินบอลลูนในวันเกิดเหตุ แต่การเป็นนักบินบอลลูนต้องมีชั่วโมงบินประมาณ 30-100 ชั่วโมง ถือว่าทุกคนมีประสบการณ์หมด และมีการสอนว่า หากเกิดเหตุเช่นนี้นักบินควรอยู่ในตะกร้าเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ นายกอล์ฟ อยากบอกกับทางสังคมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คนเจ็บก็แค่หัวแตก แต่ตนไม่ทราบว่าทำไมข่าวถึงออกไปน่ากลัว จึงอยากบอกว่า หากลมแรง ตนจะไม่มีการนำบอลลูนขึ้นบินอยู่แล้ว เพราะฝนเพิ่งมาตกตอนที่มีการนำคนเจ็บไปโรงพยาบาล และตนได้เข้าไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ซึ่งพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ขณะที่ นายมงคล (สงวนนามสกุล) ผู้ที่มาเที่ยวงาน เปิดเผยว่า เมื่อตนเห็นข่าวที่มีบอลลูนตก ก็รู้สึกว่าอันตราย เนื่องจากมีคนได้รับบาดเจ็บ โดยวันนี้ตนก็ได้ชวนลูกมางาน แต่ก็ไม่กล้าพาลูกขึ้นบอลลูน เพราะรู้สึกกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายละเอียดให้มากขึ้น
ขณะที่บรรยากาศภายในงานวันนี้ จะไม่มีการจัดบอลลูนให้นักท่องเที่ยวขึ้นชม เนื่องจาก สภาพอากาศไม่ดีเท่าที่ควร แต่ประชาชนก็ยังเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก