"แกร็บ" ประเทศไทย ออกหนังสือชี้แจงหลังพบสาวไทยติดโควิด-19 ใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ ใน จ.เชียงใหม่
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ย.มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.เชียงใหม่ มาจากประเทศเมียนมา 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี และออกตระเวนทั่วเมืองเชียงใหม่ และใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันดังนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรายชื่อสถานที่เสี่ยง "โควิดเชียงใหม่" หลังพบสาวไทยติดเชื้อร่อนทั่วเมือง
- คนเดียวพา-ิบหายทั้งจังหวัด! "อีเจี๊ยบ" จวกยับสาวติดโควิดร่อนเชียงใหม่ จี้จับเข้าคุก
- "ผู้ว่าเชียงราย" ตั้งวอร์รูมถกแผนรับมือโควิด-19 หลัง "ท่าขี้เหล็ก" ระบาดหนัก
- เปิดไทม์ไลน์สาวเชียงใหม่ พบผู้สัมผัส 326 ราย เที่ยวห้าง-ผับ-นั่งแกร็บหลายครั้ง
ความคืบหน้าล่าสุด (29 พ.ย.) แกร็บ ประเทศไทย ได้ออกหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวภายหลังรับทราบข้อมูล ว่า บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ รวมถึงสิ่งที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการในทันทีภายหลังรับทราบข้อมูล ดังนี้
1)บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 โดยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลังเพื่อระบุตัวตนของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว
2)ขณะนี้พาร์ทเนอร์คนขับที่ได้ให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวได้รับการติดต่อจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการเป็นการชั่วคราวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3)ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับกรมอนามัย นำหลักปฏิบัติและมาตรการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขมาใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งยังส่งเสริมให้ทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและผู้โดยสารสวมหน้ากากทุกครั้งในระหว่างการเดินทาง โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ หากผู้โดยสารพบว่าพาร์ทเนอร์คนขับ “ไม่สวมหน้ากาก” หรือ “มีอาการป่วยหรือไม่สบาย” สามารถยกเลิกบริการได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก ในขณะเดียวกันพาร์ทเนอร์คนขับก็สามารถยกเลิกการรับงานได้เช่นกันหากพบว่าผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากหรือมีอาการป่วย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้งสองฝ่าย
4)บริษัทฯ ยังคงให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น บริการเรียกรถ บริการจัดส่งอาหาร (GrabFood) บริการจัดส่งสินค้าและพัสดุ (GrabExpress) ตลอดจนบริการทางการเงิน และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขภาพและความปลอดภัยพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ