ดีว่าตัวแม่ "ตุ๊ก วิยะดา" เจ้าของเพลงดัง เพียงแค่ใจเรารักกัน, ขอจันทร์, ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน และอีกมากมาย ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนอดีตถึงเส้นทางการเป็นนักร้อง เริ่มต้นอาชีพนักร้องเพราะติดแฟนนายร้อย พร้อมเปิดใจเรื่องความรักว่าไม่เคยบอกเลิกใคร ยอมอดทนกับความเจ็บปวด ตอนนี้มีความสุขที่ได้ครองสถานะโสด ได้อยู่คนเดียว ไม่ขออยู่เพื่อใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็คด่วน! "หมอช้าง" เตือน "12 ราศี" เตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
- รุ่นนี้บ่มีคำว่าเหงา เพลงจากชีวิตจริง "ตั๊กแตน ชลดา" ถูกบูลลี่หนักในโลกออนไลน์แต่ไม่เอามาใส่ใจ
- ล้วงความรัก "ปู BLACKHEAD" สุดหวานชื่น แต่ยังไม่คิดแต่งงาน
- "เอี๊ยง สิทธา" รับเครียดหนัก! วินาทีตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระ
- "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มองเห็นสัจธรรมชีวิตหลังผ่านมรสุม โอดเสียดายทิ้งโอกาสเล่นหนังฮอลลีวูด!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ย้อนกลับไป กว่าจะมาเป็น "ตุ๊ก วิยะดา" ที่ทุกคนเรียกว่า ดีว่า ตอนนั้นเริ่มต้นมาจากอะไร
ตุ๊ก วิยะดา : ยังเรียนหนังสืออยู่เลย ตอนนั้นมีแฟนเป็นนายร้อยตำรวจ พอแฟนจบก็ไปอยู่วงดนตรีของบช.น. เป็นวงที่เข้าถึงประชาชน จะไปเล่นตามธรรมศาสตร์ จุฬาฯ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ตามแฟนไปซ้อมดนตรีทุกอาทิตย์
ถาม ซึ่งเรารู้ตัวไหมว่าเราร้องเพลงได้
ตุ๊ก วิยะดา : ไม่รู้ตัวเลย เราติดแฟนแค่นั้น แล้วไปซ้อมเพลงที่บ้านหม่อมหลวงประพันธ์ทุกครั้ง เราก็ตามแฟนไปซ้อมทุกอาทิตย์ จนเขาถามว่าร้องเพลงเป็นหรือเปล่า ไหนลองร้องสิ พอเราร้อง เขาก็บรรจุเข้าวงเป็นนักร้องประจำวงเลย เพราะนักร้องตำรวจผู้หญิง เขาร้องเพลงไทย ส่วนเราร้องเพลงสากล
ตุ๊ก วิยะดา : ด้วยความที่เราอยู่โรงเรียนราชินีมา เราร้องแต่เพลงไทยเดิม เราไม่รู้เลยว่าเราจะร้องเพลงได้ เราไม่รู้เลยว่าเราร้องเพลงสากลชัด เพราะเราโตมากับ THE BEATLES โตมากับ เอลวิส เพรสลีย์ เราก็ไม่รู้หรอกว่าเราร้องเพลงเป็น แต่เนื้อเพลงมันซึมเข้ามาในหัวตั้งแต่เด็กแล้ว
ถาม แล้วตอนนั้นที่เข้าไปร้องเพลงในบช.น. ใช้ความสามารถของเรา หรือใช้เส้นของแฟน
ตุ๊ก วิยะดา : มีบ้าง เราใช้ทางรุ่นพี่เข้ามากกว่า แต่การได้เข้ามาอยู่ในนี้ ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นของนักร้องอาชีพที่กล้าขึ้นเวทีโดยชุดนักเรียน จากนั้นก็เริ่มเป็นขั้นเป็นตอน พอวันตำรวจได้ออกทีวี มันก็เริ่มเคยชินกับการขึ้นเวที มีประสบการณ์เยอะขึ้น จากนั้นแฟนก็ไปเรียนต่อ เราไม่ได้ทำอะไร เราก็หัดร้องเพลงกับแผ่นเสียง พอเรากลับมาที่ไทย เราก็มาร้องเพลงเป็นอาชีพ เริ่มจากการร้องเพลงที่คลับของโรงแรม ร้องมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาอยู่ในบางกอกคอนเนคชั่น ระหว่างที่อยู่ที่นี่ พี่ที่ค่ายก็ส่งเพลงเข้าประกวดที่สยามกลการ หรือ KPN ตอนนั้นที่ประกวดก็จะมี พี่เบิร์ด ธงไชย, พี่อุ้ย รวิวรรณ, พี่ปุ๊ อัญชลี แล้วก็เรา ประกวดมา 2 ปี ปีที่สองประกวดได้ที่สอง แต่เพลงนี้ติด 1 ใน 2000 เพลงที่ญี่ปุ่น พอเขาเลือกเพลงนี้มาเราได้ไปญี่ปุ่น
ถาม ตรงนั้นหรือเปล่าที่ทำให้เราเป็นนักร้อง ออกอัลบั้ม
ตุ๊ก วิยะดา : ยังค่ะ แต่วันดีคืนดีพี่กริช ทอมมัส มาชวนไปทำเทป ใจเราตอนนั้นคือเราดีพอเหรอ สมัยนั้นการออกเทปมันยิ่งใหญ่มาก เราปฏิเสธไป แล้วต่อจากนั้น 2-3 ปี ก็มีคนมาชวนอีกคือพี่แต๋ม ชรัส เราเลยตอบตกลง เริ่มต้นด้วยเพลง เพียงแค่ใจเรารักกัน แต่ก็แปลกที่เพลงเราเหมือนร้องวันนี้ แต่จะดังอีกปีสองปีเลยหลังจากที่ปล่อยเพลงออกมา อย่างพอเราออกเพลง ขอจันทร์ ออกมา แต่เพลงที่ดังกลับเป็นเพลง เพียงแค่ใจเรารักกัน ซึ่งเพลงดังนะคะ แต่ดังช้า
ตุ๊ก วิยะดา : อัลบั้มแรกของวิยะดา ออกมาคู่กับตู่ นันทิดา ฟ้ายังมองเรา พี่ตู่ ขายไปได้ห้าแสน วิยะดา ขายได้ห้าหมื่น เพราะในยุคนั้น เพลงที่เราออกมาคือ POP JAZZ ซึ่งไม่มีใครทำ ในยุคนั้นคนเลยไม่ค่อยฟัง และยิ่งไปกว่านั้นอัลบั้มชุดที่ 3 ออกมาแนว JAZZ เลย คนฟังเขาบอกว่าสูงไป ฟังไม่รู้เรื่อง
ถาม ออกเพลงดังมาก็เยอะ แต่เวลาไปไหนมาไหน คนไม่รู้จักว่าคือตุ๊ก วิยะดา
ตุ๊ก วิยะดา : ส่วนมากคนจะทักผิด อย่างล่าสุดไปงานที่เขาใหญ่ มีแฟนเพลงเอาของมาให้ ในถุงก็จะมีของเยอะแยะมากมาย แต่ที่หน้าถุงที่เขาเขียนมาคือชื่อนัดดา วิยกาญจน์ ไม่ก็ปนัดดา โกมารทัต เคยมีครั้งหนึ่งที่ตรัง ขึ้นลิฟท์มาด้วยกัน แล้วบอกเราว่าชอบมากเลยค่ะ คุณปนัดดา (หัวเราะ)
ถาม ก่อนขึ้นเวที ตุ๊ก วิยะดา จะมีการวอร์มเสียงที่ไม่เหมือนใคร
ตุ๊ก วิยะดา : มีดื่มเล็กน้อยก่อนขึ้นเวที เพื่อทำให้อุ่นคอ แต่ไม่ได้แนะนำให้ทำตามนะคะ เรารู้สึกว่าทำให้เครื่องมันร้อน แต่ก็มีอยู่งานที่เราดื่มจนเกลี้ยงเลย แต่ไม่ใช่ร้องไม่ได้เลย แต่แอมเขาก็มาช่วยประคองเรา ยืนร้องไปด้วยกัน แต่ว่าเจ้าของงานเขาก็โอเคนะคะ เพราะว่ามันสนุก ซึ่งการที่เราดริ๊งก์ก็เป็นข้อดีเหมือนกันนะ เพราะเวลาคนที่เขาติดต่องานแล้วหานักร้องที่ไม่ต้องรีบกลับ เขาก็โทรมาหาเรา (หัวเราะ) แต่ก็มีค่ะ ที่เราขึ้นร้องแล้วไม่ได้ดื่ม คือช่วงเข้าพรรษา แต่เพื่อนๆ ก็จะบอกเราว่าวิยะดา เธอไม่ต้องมีเข้าพรรษาก็ได้นะ เพราะทุกอย่างรู้สึกว่าไม่อัตโนมัติ
ถาม แถมยังมีบางงานไม่ยอมลงจากเวที
ตุ๊ก วิยะดา : อย่างที่เขาใหญ่ให้เราขึ้นร้องหนึ่งทุ่ม แล้วร้องอีกทีสุดท้ายเลย แล้วระหว่างรอให้ทำอะไร ก็ดริ๊งก์รอไป จำได้เลยวันนั้นได้ขึ้นอีกทีตีสามพร้อมพี่มัม แล้วเป็นเพลงต่อกันๆ เราก็ร้องวนท่อน HOOK อยู่ห้ารอบ จนพี่บอย พี่ดี้ ต้องมาพาลงเวทีจากงานนี้มันเลยเป็นภาพติดตัวมา
ถาม และอีกเรื่องคือตุ๊ก วิยะดา มีเพื่อนคู่ซี้จนคนเรียกว่า ดับเบิ้ลตุ๊ก
ตุ๊ก วิยะดา : ตุ๊ก ญาณี คบกันมานาน แต่มาสนิทกันมากๆ น่าจะสักประมาณ 10 ปี เวลาเราถ่ายละคร เราเป็นคนไม่กล้าดริ๊งก์ในกองแต่ผู้จัดเปิดให้ เราก็ตาม แต่ผู้จัดเป็นคนสั่งไว้ให้ด้วยนะคะ แล้วถ้าเราไปร้องเพลงที่ไหน แล้วไม่ชวนเขา ก็จะงอน พี่ตุ๊กก็จะขึ้นแจมร้องเพลงด้วยกับเรา และที่เหมือนกันอีกอย่างคือไม่ยอมลงเวทีเหมือนกัน
ถาม อีกเรื่องที่คงไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือเรื่องของความรักที่ผ่านมาอย่างมากมาย
ตุ๊ก วิยะดา : ใช้ชีวิตคุ้มค่ะ เพราะบางทีเราทำอะไรคนเดียว ใช้ชีวิตลำบากหน่อย แต่สำหรับตอนนี้ไม่ต้องมีแล้ว ตอนนี้โสดมานานแล้ว รู้สึกว่าโลกนี้เป็นของเรา ไม่อยู่เพื่อใครแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพื่อใคร อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมีคนมาถามว่ากลับกี่โมง กลับเมื่อไหร่ เสร็จงานหรือยัง แต่ที่ผ่านมา พอเลิกกับคนหนึ่งเสียใจ มีใหม่ มีความเสียใจนะคะ หลายคนมักบอกว่าเราไม่เสียใจในความรัก แต่จริงๆ เสียใจนะ ที่รีบมีคนใหม่เพราะจะได้ลืมความเสียใจจากคนเก่า แต่เราเป็นคนที่ไม่เคยทิ้งใคร อดทนกับความเจ็บปวดจนถึงที่สุด ให้เขาเป็นคนเลิกกับเราเอง อย่างคนสุดท้ายที่เราคบคือเขาค่อยๆ หายไป และเราก็ไม่ตามเขา
ตุ๊ก วิยะดา : แต่ในวันที่เรารู้สึกว่าจบแล้ว ไม่อยากมีใครแล้ว เพราะว่าเราถึงวัยที่อยากอยู่คนเดียว อยากมีเพื่อน อยากปาร์ตี้ ให้ความสำคัญกับตัวเอง ให้ความสำคัญกับครอบครัว เรามีความสุขที่ได้โสด ได้อยู่คนเดียว
ถาม ไม่ใช่เป็นนักร้องสายปาร์ตี้เท่านั้น แต่ ตุ๊ก วิยะดา ยังเป็นสายบุญอีกด้วย
ตุ๊ก วิยะดา : เราก็ไม่ใช่สายบุญแต่เต็มร้อย แต่ แม่ก้อย ทาริกา ก็จะชวนเราตลอดไปไหน เราก็ไปตลอด