ร่างทรงแฉยับรุ่นน้องลวงเหยื่อสูบ 2 แสนโยนขี้ใส่เล่นคุณไสย วัดซวยใช้ที่ทำพิธี (คลิป)

กรณีผู้เสียหายถูกร่างทรงหลอกให้ทำพิธีล้างคุณไสยมนตร์ดำ และอ้างว่ามีคนทำใส่ให้รีบถอนของ จึงสูญเงินไปนับแสนบาท โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดยเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า "แม่ครูมาริษา ศิวภัทร์" ได้ไลฟ์สดตอนหนึ่ง ระบุว่า อยากเตือนใจคนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในแวดวงของศรัทธา ให้มีสติ ไม่หลงกลโกงของพวกร่างทรงพเนจร ที่หวังแต่ผลประโยชน์จนลืมนึกถึงความเป็นจริง หลอกเอาเงินผู้เสียหายที่มีศรัทธาไปร่วม 2 แสน

โดยเฟซบุ๊กแม่ครูมาริษา ยังโพสต์อีกว่า ร่างทรงที่มีสำนักจาก จ.ปทุมธานี หากินจากความเชื่อความศรัทธาของคน มากล่าวหาพาดพิงว่าไปทำของใส่ลูกศิษย์ ก่อนจะออกอุบายทำพิธีถอนของ บางคนเสียเงินหลักหมื่น บางคนเสียเงินหลักแสน โดยใช้สำนักสงฆ์ถ้ำบ่อยา หรือวัดเทพนิมิตรทรงธรรม ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นสถานที่แอบอ้างทำพิธี ตอนนี้มีผู้เสียหายแล้ว 4 ราย แต่ละรายอยู่ต่างจังหวัด กระทั่งวันที่ 27 พ.ย.63 ที่ผ่านมา แม่ครูมาริษา และผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความแล้ว โดยแม่ครูมาริษาถูกแอบอ้างชื่อ จนทำให้เสียชื่อเสียง ต้องมาแจ้งความหมิ่นประมาทเอาไว้ก่อน

ล่าสุดวันที่ 30 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับแม่ครูมาริษา ศิวภัทร์ อดีตร่างทรงซึ่งเลิกเข้าทรงและหันมาปฏิบัติธรรมถือศีล ที่สำนักสงฆ์ถ้ำบ่อยา หรือวัดเทพนิมิตรทรงธรรม ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยแม่ครูมาริษา บอกกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนเคยเรียนหลักสูตรแพทย์แผนไทยวิถีพุทธมาก่อน จึงนำหลักสูตรที่ศึกษามาแนะนำ แต่ตอนนี้ตนถูกร่างทรงพเนจรคนหนึ่งที่เคยมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวไปอ้างชื่อว่าตนทำของใส่ครอบครัวของพระบวชใหม่ ซึ่งเป็นคนป่วย มีห้องหัวใจแค่ 3 ห้อง ปากม่วงเล็บม่วง ตนจึงแนะนำให้กินอาหารให้ถูกหลัก งดน้ำอัดลม จะได้ไม่ต้องไปผ่าตัด จนเจ้าตัวดีขึ้นหายปากม่วงเล็บม่วง

ทั้งนี้ตนจึงแนะนำว่า ถ้าอยากให้ดีจริง ๆ ให้อธิษฐานต่อองค์พระว่า จะบวชให้พระพุทธเจ้า พระรูปนั้นจึงมาบวชถวายแด่พระพุทธเจ้า และตนก็ไม่ได้ชี้แนะให้มาที่วัดนี้แต่อย่างใด แต่เจ้าตัวมาจำพรรษาที่วัดนี้เอง พออยู่ไปอยู่มาตนก็งานยุ่ง จึงไม่ได้แวะมาพูดคุยกับพระใหม่ พอมาอีกทีเจอพ่อของพระมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ตนจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น พระบอกว่าร่างทรงที่ชื่อภา มาทักและบอกว่า ตนไปทำของใส่ครอบครัวเขา ต้องทำพิธีถอนของต้องปั้นหุ่นเสียเงินทำพิธีหลักแสน 

โดยครั้งที่ 1 ผู้เสียหายหลงเชื่อ เพราะอยากหาย โอนเงินไป 140,000 บาท ครั้งที่ 2 ยอด 70,000 บาท รวมเป็น 210,000 บาท และยอดที่ 3 จะต้องจ่ายอีก แต่ครอบครัวผู้เสียหายเริ่มสงสัยเข้ามาปรึกษาและถามตนว่า น่าจะถูกหลอก เพราะพ่อเป็นคนเชื่อคนง่าย จากนั้น พระจึงสึกก่อนไปแจ้งความ เพราะอยากได้เงินคืน แต่ผู้เสียหายไม่ประสงค์ออกสื่อ เพราะคิดว่าเป็นกรรมที่ชดใช้ อีกอย่างจะทำให้ต่อความยาวสาวความยืด จึงให้ตนมาไลฟ์สดเตือนเป็นอุทาหรณ์

ทั้งนี้พอตนทราบ จึงตั้งคำถามว่า ทำไมร่างทรงคนนั้นต้องมาอ้างชื่อตน ยืนยันว่าไม่ได้ทำของใส่ ไม่มีพราย ไม่มีของอะไรทำใส่ใครทั้งนั้น ตนถือศีล 5 ปฏิบัติธรรม ตนยอมรับว่าอดีตตนเคยอยู่ในวงการทรงเจ้าเข้าผีจริง และเชื่อว่ามีอยู่จริง แต่ตอนนี้หันหลังให้หมดแล้ว นับถือพระพุทธเจ้าแทน เพราะคิดว่าทรงอัไรไม่เท่าทรงศีลทรงธรรม

อย่างไรก็ตาม ที่ตนออกมาพูดและแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท เป็นเรื่องคนเล็กน้อยมาก เพราะตนไม่ได้ทำของใส่ใคร แต่ที่ออกมาพูดผ่านสื่อ แค่อยากเตือนใจคนที่หลงเชื่อร่างทรง ความศรัทธาเป็นเรื่องดี แต่ต้องควบคู่กับการมีสติ จะได้ไม่ถูกหลอกเอาเงิน ซึ่งเคสนี้มีผู้เสียหายเพิ่มมาอีก 3 รวมเป็น 4 แล้ว ตนจึงอยากเตือนใจทุกคน 

นอกจากนี้ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับพระมงคล อุปสนฺโต เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำบ่อยา หรือวัดเทพนิมิตรทรงธรรม ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ กล่าวยืนยันกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า กรณีร่างทรงชื่อภาอ้างว่าใช้สถานที่ประกอบพิธี อาตมาไม่ทราบ เวลาเขามาจะบอกว่าขอไปไหว้พระ ไม่ได้บอกว่ามาทำพิธีถอนของ ถ้ารู้อาตมาก็จะห้าม เพราะทำให้เสียชื่อเสียง เพราะกังวลว่าชาวบ้านจะเข้าใจผิดคิดว่าอาตมาทราบเรื่อง ยืนยันว่าไม่ทราบหรือเกี่ยวข้องอะไรกับร่างทรงชื่อภา