เป็นนักแสดงตลกชั้นครูอยู่ในวงการสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มมายาวนานกว่า 40 ปี ล่าสุด "ตูมตาม เชิญยิ้ม" ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าถึงบทเรียนชีวิตราคาแพงที่ทำชีวิตเกือบพัง เป็นหนี้เป็นสินเพราะเปย์สาว ติดหรู หลงแสงสี ได้เงินมากแต่ไม่เหลือเก็บ จนเกือบคิดสั้นหนีหนี้ พร้อมเคลียร์ข่าวลือเป็นตลกตกอับ เงินหมดตัว จนต้องขอข้าววัดกิน ปัจจุบันขอใช้ชีวิตอยู่บนความพอดี พอเพียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็คด่วน! "หมอช้าง" เตือน "12 ราศี" เตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
- ดีว่าตัวแม่ "ตุ๊ก วิยะดา" รับเข็ดมากกับความรัก!! ชีวิตนี้ไม่ขอมีใครอีกแล้ว
- รุ่นนี้บ่มีคำว่าเหงา เพลงจากชีวิตจริง "ตั๊กแตน ชลดา" ถูกบูลลี่หนักในโลกออนไลน์แต่ไม่เอามาใส่ใจ
- ล้วงความรัก "ปู BLACKHEAD" สุดหวานชื่น แต่ยังไม่คิดแต่งงาน
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม จริงๆ ตลกแต่ละคนจะมีมุกตลกแล้วก็หมัดเด็ดของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้ชมติดใจ
ตูมตาม เชิญยิ้ม : มันเป็นอาวุธของการแสดง ทำให้คุณผู้ชมที่ดูเราที่คาเฟ่ติดเรา อย่างผมคือจะพูดช้า
ถาม ก่อนที่จะมาเป็น ตูมตาม เชิญยิ้ม เป็นคนที่พูดช้าแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า
ตูมตาม เชิญยิ้ม : เมื่อก่อนเราอยู่กับทีมเล็กๆ แล้วเราก็มาอยู่กับพี่เป็ด เชิญยิ้ม เขาชวนมาทำงานด้วย คุณเป็ดก็บอกเราว่าจะทำยังไงให้มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง เราก็มานั่งคิดว่า หนังเรื่องตี๋ใหญ่ พ่อตี๋ใหญ่พูด เราเลยเอาเสียงที่เขาพูดมาลองหัดเป็นเสียงเรา แล้วใส่มุกตลกลงไปในเสียงพูด เลยเป็นที่มาของคาแรคเตอร์ของเรา เพราะว่าบางคณะไม่มีเสียงนี้
ตูมตาม เชิญยิ้ม : หลังจากที่จำเขามา เราก็เอาไปหัดพูดในห้องน้ำ พูดกับกระจก แต่ชีวิตจริงเราก็พูดปกตินะครับ แต่ถามว่าฝึกอยู่นานไหม ไม่นาน ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เราก็ค้นหาตัวเองเจอ ถ้าเราพูดกับกระจกแล้วเราขำเราเองได้ เก็บไว้ไปเล่นกับคนดู
ถาม มีงานประจำอยู่แล้ว แต่พออาเป็ดมาชวน ทิ้งงานไปเลยหรือยังไงตอนนั้น
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ทิ้งงานประจำไปเลยครับ ตอนนั้นเราตัดสินใจทิ้งงานประจำก็เพราะว่าอยากจะมีชื่อเสียงกับเขา เพราะอยากให้ครอบครัวสบายบ้าง เลยลาออกไปเลย
ถาม แล้วอะไรคือสิ่งที่วัดว่าคนนี้เล่นตลกได้
ตูมตาม เชิญยิ้ม : วัดจากเสียงหัวเราะของคนดู แต่ผมไม่ได้คิดว่าคนดูจะขำ เพราะว่าเสียงที่ตัวเองพูดออกไปมันช้า แต่คนดูกลับชอบ เราได้รับเสียงหัวเราะของคนดูเยอะ
ถาม เห็นว่าอยู่กับพี่เป็ด เชิญยิ้ม 5 ปี แล้วหลังจากนั้นก็แยกออกมาเปิดคณะตัวเอง แต่ยังใช้นามสกุล เชิญยิ้ม อยู่
ตูมตาม เชิญยิ้ม : เป็นนามสกุลที่พี่เขาให้ไปใช้หากินในวงการ
ถาม ตอนนั้นเป็นตลกที่ดังมาก โกอินเตอร์ไปเล่นที่ต่างประเทศถึง 14 ประเทศ
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ใช่ครับ ไปกับพี่เป็ด เราก็ไปพูดเสียงช้าๆ ยานๆ ของเรา ฝรั่งถึงกับงงเลย
ถาม ในช่วงที่โด่งดัง ได้เงินเป็นแสนต่อเดือนเลย
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ได้มาจากการเล่นตามคาเฟ่ 1 คืน เล่น 9 รอบ คือ วิลล่า 2 รอบ ดารา 2 รอบ พระราม 9 2 รอบ เราขึ้นเล่นหนึ่งรอบคือครึ่งชั่วโมง พอเราจบจากที่นี่ เราก็วิ่งไปอีกที่ แล้วก็กลับมาที่เดิม เข้าๆ ออกๆ แต่เราไปเล่นแต่ละที่ เราก็เปลี่ยนมุกไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำเดิม เราก็ดูจากแขก แล้วก็วงที่เขาขึ้นก่อนคณะเรา จะได้เล่นไม่ซ้ำกัน เริ่มเล่น 21.00 - ตี 4 ทุกวัน แต่พอเราเล่นตลกเสร็จก็ไม่กลับบ้าน ไปเล่นสนุ๊กเกอร์ต่อ แต่ ณ ตอนนั้นพอเราทำงานเสร็จในทุกๆ วัน พอแบ่งเงินกันแล้วก็ตาสว่างแล้ว ตีว่าวันละ 4,000 บาท แต่เราแทบไม่มีเงินเก็บ เพราะเราไปหมดกับสนุ๊กหมด เล่นตั้งแต่ตี 4 ถึงบ่ายโมง
ถาม แบบนี้เสียงานไหม
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ไม่เสียงานครับ พอเราเล่นเสร็จก็กลับไปนอน หกโมงทุ่มหนึ่งก็ไปเล่นต่อ ส่วนมุกเราก็ไปเล่นที่หน้าคาเฟ่
ถาม ณ ตอนนั้นหลงแสงสีไหม
ตูมตาม เชิญยิ้ม : หลงครับ หลงระเริง หลงแสงสี
ถาม ในยุคนั้นที่ได้เป็นแสนๆ เป็นยุคที่ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ประมาณ 10 บาท เราเคยมีคิดๆ ไหมว่าจะเก็บเงิน
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ก็มีคิดว่าจะเก็บครับ แต่พอเรานัดเขาไว้แล้ว เราต้องไป เงินที่จะเก็บก็หายไป ไม่ได้เก็บ แต่พอมาระยะหลัง นึกขึ้นได้ เราต้องเก็บ พอแต่งงานมีครอบครัว เราก็รู้สึกว่าเราต้องดูแล ไหนจะครอบครัว ไหนจะภรรยา ลูก
ถาม เคยอยู่จุดสูงสุด แต่ไปหลงแสงสี มีเท่าไหร่ใช้หมด
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ทางบ้านไม่ได้เลย ครอบครัวไม่ได้สักบาท เราติดหรู ติดแบรนด์เนมดังๆ พอเราเห็นเขาใช่รถบีเอ็ม เราก็เปลี่ยนไปใช้แบบเขา เขาก็ยึดไปตั้งหลายคัน ตอนที่เรามีเงินมากๆ ตอนนั้นติดผู้หญิง การพนันไม่ได้เล่น แต่เราติดสนุ๊ก พอเราไม่มีเงินเราก็ยืม จดหนี้มันทวีคูณขึ้นมา แต่เราใช้เงินเกินตัว ทั้งๆ ที่ตอนนั้นคาเฟ่ยังรุ่งเรืองอยู่
ถาม แต่จุดหนึ่งที่ทำให้ชีวิตพลิกผันคือคาเฟ่ยุครุ่งเรืองหายไป ตอนนั้นชีวิตเป็นยังไงบ้าง
ตูมตาม เชิญยิ้ม : งานไม่มี คาเฟ่ค่อยๆ หายไป ตอนนั้นเราปรับตัวไม่ทัน พอคิดว่าจะใช้หนี้ ผู้หญิงก็โทรมาอีกแล้ว ติดหญิงของเราคือเราไม่ได้เลี้ยงดูเขา เราพาเขาไปทานข้าว เราเป็นคนจ่ายให้ตลอด แต่เพราะผู้หญิงหลายคน มันเลยหมดเยอะ แล้วตอนนั้นเรายังลงไม่ได้
ถาม ซึ่งสุดท้ายชื่อไปอยู่ในรายชื่อตลกตกอับ ขนาดที่เอาเสื้อผ้าเก่าไปขาย หมดจนต้องขอข้าววัดกินตามข่าวที่ออกมาไหม
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ไม่ได้ตามข่าวขนาดนั้น เสื้อผ้าที่ผมเอาไปขายที่ตลาดนัด เป็นเสื้อที่ผมใส่ไม่ได้ แล้วที่ผมไปวัด ไม่ได้ไปขอข้าวกิน ไปหาพระอาจารย์ ท่านก็ให้ของที่เขาใส่บาตรมา เอาไปให้หลานกิน เพราะอีกคนถาม อีกคนเอาไปลง มันคนละแบบ มันเลยเป็นข่าวออกมาว่าตูมตาม ตลกตกอับ ไม่มีข้าวจะกิน
ถาม ตอนที่เราลงต่ำสุด สุดขนาดไหน
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ลงถึงขั้นไม่มีเงินเฉยๆ ไม่มีงาน มีหนี้ 3 อย่าง
ถาม ถึงไม่ได้ตกอับตามข่าว แต่ก็เคยคิดสั้น
ตูมตาม เชิญยิ้ม : เครียดมาก เพราะเราไม่มีงานเลย ไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ เครียดจนขนาดที่ว่าไปซื้อยาเบื่อหนู จะกินทีเดียว แล้วก็ลาเป็นบางคน ตอนนั้นไปลาอาจารย์ (ท่านเป็นร่างทรง) อาจารย์ท่านก็บอกว่าเอาไปทิ้งซะ ตอนนั้นมรสุมมันเยอะ หนี้เยอะ ทั้งเรื่องรถ ขึ้นศาล ท่านก็บอกว่าให้เราไปตั้งสติ อารมณ์ดีแล้วค่อยโทรมา เราก็เชื่อท่าน นั่งร้องไห้ แล้วคิดใหม่ ไม่หมิ่นเงินน้อยไม่รอวาสนา ใครให้งาน ให้ทำอะไรทำหมด แล้วเงินให้ที่บ้านเก็บ
ถาม ณ ตอนนั้นเรามองตัวเองยังไงบ้างในสิ่งที่เราทำผิดพลาดไป
ตูมตาม เชิญยิ้ม : มองตัวเองว่าทำแบบนั้นได้ยังไง ถ้าเราตายแล้วคนข้างหลังจะอยู่ยังไง เลยเริ่มต้นใหม่ พอสักระยะหนึ่งก็ดีขึ้น เราก็ไปของาน ทำทุกงานที่ทุกคนให้ ให้เท่าไหร่ก็ไป เพื่อให้ครอบครัวของเรารอด ซึ่งหนึ่งในผู้มีพระคุณที่ช่วยเราคือพี่เป็ด ช่วยเราใช้หนี้ ตอนที่เราหลงอยู่ตอนนั้น มีคนเตือนแต่เราไม่ฟัง เพราะเราคิดว่าอันนี้ของฉันอย่ามายุ่ง แต่พอมาตอนนี้คือไม่ใช่แล้ว
ถาม ชีวิตรอดกลับมาเพราะความเชื่อความศรัทธาในตัวของพระอาจารย์ แต่ที่รอดอีกครั้งคือถ้าวันไหนไม่มีเงินจริงๆ จะจุดธูปขอใคร
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ขอพ่อปู่อาจารย์ บอกว่าพ่อผมไม่มีเงิน เราก็จุดธูป 16 ดอกกลางแจ้ง แล้วบอกว่าผมไม่มีเงินกินข้าวเลย ขอให้มีงานเข้ามาเยอะๆ นะ แล้วก็สวดมนต์บ้าง ตอนเย็นก็มีคนที่เขายืมเงินเราสมัยก่อน เอาเงินมาคืน เราคิดว่าที่เราได้เงินมาคือปาฏิหาริย์ ก็เป็นความเชื่อของแต่บุคคลนะครับ
ถาม ตอนนี้กลับมามีบทบาทมากขึ้น รับงานละคร ถึงจะเป็นบทคนขับรถ แต่ก็ภูมิใจมากๆ
ตูมตาม เชิญยิ้ม : เป็นคนขับรถ เป็นตำรวจ ตอนนี้ละคร 4 เรื่อง เราไม่ได้ใช้บุคลิกที่เราพูดช้าๆ ทุกเรื่องนะครับ แต่เราจะถามผู้กำกับก่อนว่าอยากให้เราพูดแบบไหน เล่นแบบไหน
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ตอนนี้เราก็เลิกเจ้าชู้แล้ว ส่วนเงิน แม่บ้านก็เป็นคนเก็บหมดเลย
ถาม ส่วนลูกๆ ก็ได้เลือดศิลปินจากพ่อไปหมดเลย
ตูมตาม เชิญยิ้ม : กิ๊ฟ ชวนชื่น ก็อยู่กับคณะจิ้ม ชวนชื่น ส่วนลูกสาวแสตมป์ ก็ออกเพลง ฝากชีวิตไว้ผิดคน
ตูมตาม เชิญยิ้ม : ขอฝากด้วยนะครับ ดูผมเป็นตัวอย่างเป็นบทเรียนที่ไม่ควรทำตาม เพราะฉะนั้นตอนนี้ใครที่หลงไปทางที่ไม่ดีกลับมาหาตัวเองนะครับ