แฉเพิ่ม! ร่างทรงลวงถอนคุณไสยเหยื่ออึ้งรู้ป่วยอัมพฤกษ์ พระดึงสติยึดกฎแห่งกรรม (คลิป)

กรณีแม่ครู มาริษา อดีตร่างทรง อ้างว่าถูกร่างทรงย่านปทุมธานีที่ชื่อว่า ร่างทรงภา กล่าวหาว่าไปทำของใส่ครอบครัวอดีตพระที่ป่วย และร่างทรงย่านปทุมธานีจึงออกอุบายเรียกเงินถอนของจากผู้เสียหาย จำนวน 210,000 บาท จึงออกมาแฉร่างทรงที่หากินกับความทุกข์คนอื่น และอยากเตือนสติประชาชนอย่าหลงเชื่อร่างทรงง่าย ๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ร่างทรงแฉยับรุ่นน้องลวงเหยื่อสูบ 2 แสนโยนขี้ใส่เล่นคุณไสย วัดซวยใช้ที่ทำพิธี

ล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.ทราย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ผู้เสียหายที่เคยถูกร่างทรงภา โน้มน้าวว่าถูกน้องสาวและญาติทำของใส่ ต้องทำพิธีปั้นหุ่นจากว่านเพื่อถอนของออก ซึ่งเหตุเกิดเดือนก.ค.61 ที่ผ่านมา แต่เพิ่งเดินทางไปแจ้งความเมื่อปลายเดือน พ.ย.63 พร้อมผู้เสียหายอีกรายที่เพิ่งถูกหลอกโอนเงินไปเมื่อกลางเดือนพ.ย.63

น.ส.ทราย บอกว่า ตนรู้จักกับนางภา ตอนไปบวชและปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ถ้ำบ่อยา หรือวัดเทพนิมิตรทรงธรรม ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ตอนนั้นตนและครอบครัวกำลังเจอปัญหา น้องปวดท้องคล้ายประจำเดือนมามากกว่าปกติ ร่างทรงทักว่าถูกคนทำของใส่อย่างไม่รู้สาเหตุ ญาติที่ดูแลอยู่ก็ เป็นอัมพฤกษ์ แฟนเก่าทำของใส่ มีวิญญาณเด็กตาม

นางภาร่างทรงจึงทักว่า โดนคนทำของใส่ ปัญหาจุกจิกจะตามมาไม่จบ ให้รีบทำพิธีถอนของออกโดยการปั้นหุ่น ซึ่งตนเชื่อเพราะปัญหาที่กำลังเจอมีมาพอดี จึงรีบตัดสินใจแก้ไข ซึ่งของน้องสาวจะได้หุ่นที่สูงประมาณ 40 ซม. ลักษณะตัวเป็นฤๅษีเศียรเป็นพญานาค

ส่วนของญาติอีกคน ร่างทรงอ้างว่า ใช้หุ่นเดียวกับน้องสาวไม่ได้ ต้องใช้หุ่นใหญ่ขึ้น เป็นองค์คล้ายปู่ฤๅษี ทำจากเนื้อว่าน 2 คนใช้ค่าทำพิธี 30,000 บาท จากนั้นขึ้นราคาเพิ่มอีก 20,000 บาท เป็น 50,000 บาท แต่ฝ่ายนั้นอ้างตลอดว่า ต้องจ่ายเงินเพิ่นหุ่นมีปัญหา ต้องซ่อม ต้องหาว่านเพิ่ม ต้องมีค่าขึ้นของ ค่าบายศรี และค่าเคลื่อนย้าย ก่อนจะมาจบที่ 71,000 บาท แต่สุดท้ายไม่จบจะขอเพิ่มอีก 11,000 บาท แต่ยอดนี้ตนไม่ได้โอน และทวงถามว่าทำไมถึงคิดเพิ่มไปเรื่อย ๆ แบบนี้ จึงยกเลิกไป ทั้งที่เดือดร้อน เงินก็ไม่ค่อยจะมี และมารู้ทีหลังว่านางภา ใช้หุ่นตัวเดียวกันกับของตน ไปหากินกับผู้เสียหายคนอื่น

โดยอ้างเหมือนกันว่าหุ่นปั้นจะถอนของได้ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ จากนี้ตนมองว่านางภา ใช้ความทุกข์ และปัญหาของคนที่แย่อยู่แล้วมาทับถม และที่ออกมาพูดวันนี้เพราะเห็นว่านางภา ไม่หยุดพฤติกรรม หลอกคนใหม่ไปเรื่อย ๆ ตนจึงต้องออกมาพูด และไปแจ้งความ แม้ตนจะไม่หวังจะได้เงินคืน แต่อยากให้นางภาเลิกทำแบบนี้ และอยากให้ออกมายอมรับ และเลิกหลอกเงินคนเดือดร้อนและแอบอ้างวัด ส่วนน้องสาวและญาติก็เจ็บป่วยทั่วไป ไม่ได้โดนของอะไร บทเรียนนี้สอนตนว่าให้ใจเย็น บางอย่าง บางปัญหา ต้องใช้เวลา แต่บางครั้งตนก็หวังพึ่งร่างทรงให้ชีวิตดีขึ้นโดยเร็วก็แค่นั้นเอง

ทีมข่าวสอบถาม นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เปิดเผยว่า ตนมองว่าเป็นการหลอกลวง ซึ่งตนอยากบอกไปถึงร่างทรงต่าง ๆ ขอให้หยุดพฤติกรรม เพราะตนยืนยันว่าคนมีองค์มีเทพในตัวไม่มีอยู่จริง การที่มาทักมาโดนของต่าง ๆ ตนยืนยันว่าไม่มีจริง เพราะหากมีจริง ให้ไปเสกเงิน เสกทองมาแจกคน ทางกลับกันร่างทรงทุกวันนี้กลับเอาคำพูด วิธีทางจิตวิทยามาหลอกคนที่กำลังมีความทุกข์

บางร่างทรงก็อ้างว่าที่ต้องมาทำเช่นนี้ คือ การลงมาสร้างบารมี ตนมองว่าขอทาน เพราะหากเป็นเทพ ก็คงไม่มาเรี่ยไรและหากินกับคนที่มีจิตใจบุญ คนที่กำลังทุกข์ และที่ร่างทรงเหล่านี้ทำ คือการเล่นกับความเชื่อของคนไทยที่มีความเชื่อเรื่องบาปบุญ ตนอยากฝากไปถึงคนที่ยังเชื่อเรื่องเหล่านี้ อยากเตือนสติว่าตัวคุณก็เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ยังมาให้คนเหล่านี้หลอกลวงซ้ำอีก

เมื่อทีมข่าวไปตรวจสอบที่บ้านร่างทรงดังกล่าว เวลา 13.00 น. จากนั้นกดกริ่งหน้าบ้าน 14 ครั้ง ก็ไม่มีคนออกมาพบ แต่พบว่ามีคนอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นบ้านขนาด 2 ชั้นใหญ่โต 

พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ กล่าวว่า คนไทยที่ชอบเชื่อคำพูดของร่างทรง จนต้องเสียเงินในการทำพิธีต่าง ๆ ถือเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง พระพทุธเจ้าสอนให้เชื่อกรรมแห่งกรรม และความเพียรของตัวเอง หากคนมีความเพียรแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยพึ่งพาใคร

นอกจากนี้อาตมาอยากจะให้คนไทยสังเกตร่างทรงดี ๆ ว่าบางคนก็เอาตัวเองไม่รอด มีถูกฆ่าตาย มีเป็นหนี้มากมาย แล้วทำไมประชาชนถึงยังจะเชื่อร่างทรง ยกตัวอย่างอย่างคดีน้องชมพู่ ทุกวันนี้หาคำตอบได้หรือยัง “ร่างทรง หมอดู ถูกบ้างผิดบ้าง เราควรดูตัวเราให้ดี ดีกว่าเอาตัวไปให้คนอื่นดู เรามีความเพียรที่จะอยู่กับความดีหรือไม่”