กรณีความคืบหน้าหวย 30 ล้าน ที่นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วย นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้องต่อ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในข้อหายักยอกทรัพย์สินหาย และรับของโจร ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน:
“ครูปรีชา” ฟ้องศาลเอง! เอาผิด “ลุงจรูญ” ยักยอกทรัพย์ – รับของโจร)
วันนี้ (5 เม.ย.)
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของครูปรีชา กล่าวถึงกรณีที่มีการแพร่ภาพลงในเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพของนายวรยุทธถ่ายรูปในสถานที่คล้ายกับห้องพิจารณาคดี โดยนายวรยุทธ ยอมรับว่า เป็นรูปของตัวเองจริง ซึ่งดูแล้วก็หล่อดี แต่ตนจำไม่ได้ว่าใครถ่ายหรือถ่ายที่ใด หากใครจะมองว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมก็คงอยู่ที่แล้วแต่คน หากคนรักตนก็คงมองว่าเหมาะสม ส่วนคนที่ไม่รักก็คงมองว่าไม่เหมาะสม
ตนเห็นภาพแล้วแต่ไม่ได้ติดใจอะไรกับคนที่เอาไปโพสต์ และคงไม่ไปฟ้องร้องเอาผิด อีกทั้งภาพส่วนตัวของตนไม่ได้มีผลต่อการเป็นทนายความให้กับคดีครูปรีชา เพราะไม่มีผลต่อรูปคดี ส่วนตัวมองว่าคนโพสต์ลักษณะนี้ตั้งใจที่จะดิสเครดิตตน เพราะคนที่รักตนก็คงไม่ทำแบบนี้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้คิดจะฟ้องร้องใคร แต่อย่าให้มากกว่านี้
สำหรับเพจเฟซบุ๊กที่มีการก่อตั้งเพื่อโจมตีครูปรีชานั้น ตนได้แต่งตั้งทีมเทคโนโลยีไอทีขึ้นมาเพื่อที่จะรวบรวมภาพทางสื่อออนไลน์ทั้งหมด และจะดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่มีเจตนาร้ายกับครู ซึ่งจำเป็นต้องมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น และจะมีการฟ้องร้องกับพิธีกรชายช่องหนึ่งด้วย
ส่วนกรณีคลิปเสียงที่ทางเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาโพสต์เป็นคลิปที่ 10 นั้น ตนมองว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อ ซึ่งใครได้รับความเสียหายก็ให้เขาไปใช้สิทธิ์ฟ้องร้องเอา แต่ตนได้พูดคุยกับครูปรีชาแล้วว่า ถ้าคลิปเสียงดังกล่าว ไม่กระทบต่อรูปคดีหรือทำให้ครูเสียหาย เราก็จะไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินการใดๆ เพราะเสียงผู้หญิงในคลิปบุคคลนั้นก็ยังรักกันดีอยู่
นอกจากนี้ เรื่องซองลอตเตอรี่ที่พนักงานสอบสวนได้อ้างว่าทำหายไป แม้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี จะถูกโยกย้ายไปทำงานที่กองปราบแต่ความผิดก็เกิดขึ้นแล้ว และความผิดสำเร็จที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงจำเป็นต้องฟ้องที่ศาลจังหวัด แต่ขณะนี้ยังพิจารณาและขอตรวจสอบเจตนาของเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดอยากจะฟ้องใครก็ฟ้องได้ หากฟ้องเท็จก็มีสิทธิ์ที่จะถูกฟ้องกลับเช่นกัน
กรณีที่คลิปเสียงตัวที่ 10 ของเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่มีการกล่าวถึงพนักงานสอบสวนรายหนึ่งถูกกองปราบกันไว้เป็นพยาน นายวรยุทธ กล่าวว่า คลิปเสียงนั้นไม่ได้มีผลต่อคดีหวย 30 ล้าน เพราะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คนเขาพูดกันเอง หากใครได้รับความเสียหายก็คงไปโต้แย้งกัน ตอนนี้แม้จะเป็นคลิปที่ 10 แล้ว ตนยังไม่เห็นว่ามีผลต่อรูปคดี แต่หากมีคลิปใดที่มีผลต่อรูปคดี ตนจะดำเนินการทันที
นายวรยุทธ ยังระบุถึง กรณีพยานบุคคลรายใหม่ที่ถูกกล่าวถึง เป็นพยานที่ไม่เคยมีการออกตามหน้าสื่อ แต่เป็นพยานที่ตนเข้าไปตรวจสอบเอง แล้วหาก่อนที่จะมารับทำคดี ซึ่งเป็นการสืบข้อเท็จจริงในเฉพาะส่วนของทนายความ และเป็นความมั่นใจ เชื่อใจ ที่บุคคลดังกล่าวพร้อมจะเข้ามาเป็นพยานในเฉพาะชั้นศาลเท่านั้น และยืนยันว่า พยานรายนี้จะไปขึ้นศาลแน่นอน ถ้านักข่าวไม่ไปกวนก่อนวันที่ 4 มิ.ย. ที่จะมีการขึ้นศาล ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าทำงานอาชีพใด แต่เป็นประจักษ์พยานในวันเกิดเหตุ ที่เชื่อว่ามีการเบิกความในชั้นศาล จะเป็นพยานที่น้ำหนักให้ศาลพิจารณาได้
สำหรับนายแผน หรือ ฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม ตนยังพิจารณาดูก่อนว่าในความรู้เห็นของนายแผน มีความสำคัญและศาลเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนที่จะนำขึ้นสู่ศาล ซึ่งส่วนตัวยังไม่เคยคุยกับนายแผนเลย ทั้งนี้ พยานทุกปากไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของครู พยานก็ส่วนพยาน หากพยานจะมีทนายส่วนตัวก็ดำเนินคดีของตัวเองไป ซึ่งขอว่าอีกฝ่ายอย่าดึงเวลา เพราะจะได้ทราบผลคดีโดยเร็ว ส่วนคดีความทางแพ่งจะแล้วเสร็จเร็วหรือไม่ก็อยู่ที่ทนายของส่วนแพ่ง
สำหรับกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า "ตอนนี้ผมกลัวอยู่อย่างเดียวครับ กลัวว่าครูจะไป....ถอนฟ้อง" ซึ่ง นายวรุยทธ บอกว่า ตนไม่คิดจะตอบโต้อะไรกลับ แต่จะไม่มีการถอนฟ้องแน่นอน เพราะตนไม่ใช่ นายแผน หรือ นางสาวฟ้า ตนมีแต่จะฟ้องเพิ่ม ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการฟ้องเพิ่มในคดีอาญา แต่ยังไม่ขอตอบว่าจะฟ้องใครในข้อหาใด ขอให้รอติดตามว่าจะเป็นช่วงก่อนหรือหลังวันสงกรานต์ เพราะทีมงานกำลังรวบรวมข้อมูล
ด้าน
นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า ตนเองก็ขอชื่นชม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ที่นำสิ่งดีๆ มาสู่ประชาชนจนตอนนี้เป็นคลิปที่ 10 แล้ว แต่คลิปดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล จะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน หากขออนุญาตก่อนก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่จากที่ตนได้ดูเขาออกรายการต่างๆ ตนเชื่อว่าเขาก็มีเหตุผล ตนเองขอชื่นชม เพราะบางคลิปก็เป็นประโยชน์กับบุคลคลอื่น ให้เป็นบทเรียนกับคนที่คุยโทรศัพท์กันโดยพาดพิงบุคคลสาม เมื่อพูดไปก็ทำให้เขาเสียหาย เรื่องนี้จึงจะเป็นบทเรียนกับหลายๆ คน ที่ต้องใช้คำว่า "ติฉินนินทา"
ส่วนตัวกำลังตรวจสอบเรื่องที่ถูกละเมิดในหลายๆ ด้าน เพราะที่ผ่านมาตนถูกละเมิด ทั้งที่มีเจตนาและไม่เจตนา ทีมทนายก็กำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าท่านลบทันก็ลบนะครับ แต่ถ้าลบไม่ทันก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับคลิปเสียงฟ้า ยืนยันว่ายังไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ให้ถือเป็นบทเรียนในสิ่งที่พวกตนเคยเตือนแล้วให้เขาคิดก่อนพูด
นอกจากนี้ กรณีซองลอตเตอรี่ ทีมทนายของตนกำลังประชุมและวางแผนว่าละเมิดสิทธิ์ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะตนเสียผลประโยชน์ ส่วนซองที่หายไปต้องมีผู้รับผิดชอบ ติดตามให้ได้ว่าใครเป็นคนขโมย ตนจึงอยากฝากให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย