หลังจากเปิดสำมะโนครัวว่าเป็นนักแสดงอิสระ ตูมตาม ยุทธนา กลายเป็นพระเอกเนื้อหอมทั้งในจอแก้วและจอเงินทีเดียว ล่าสุดขึ้นแท่นเป็นพระเอกหนังครั้งแรกในชีวิตที่เจ้าตัวได้มาโชว์ลูกคอร้องเพลง เต้ยสาวจันทร์กั้งโกบ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง อีหล่าเอ๋ย ในรายการต้มยำอมรินทร์ สำหรับหนังเรื่องนี้ของ ตูมตาม นั้นเจ้าตัวได้มานั่งเคลียร์ถึงข่าวที่ถูกมองใช้เต้าไต่ จากนักร้องเวทีประกวดสู่การเป็นพระเอกหนัง พร้อมควงแขนคนสนิท “ตั๊กแตน ชลดา” และ “นก พงศกร” เล่าเรื่องราวสนุกๆหลังกองถ่ายภาพยนตร์ อีหล่าเอ๋ย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ตูมตาม เชิญยิ้ม" เคยลุ่มหลงในความดัง จนชีวิตดิ่งลงเหว!
- ดีว่าตัวแม่ "ตุ๊ก วิยะดา" รับเข็ดมากกับความรัก!! ชีวิตนี้ไม่ขอมีใครอีกแล้ว
- รุ่นนี้บ่มีคำว่าเหงา เพลงจากชีวิตจริง "ตั๊กแตน ชลดา" ถูกบูลลี่หนักในโลกออนไลน์แต่ไม่เอามาใส่ใจ
- ล้วงความรัก "ปู BLACKHEAD" สุดหวานชื่น แต่ยังไม่คิดแต่งงาน
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม สำหรับภาพยนตร์เรื่อง อีหล่าเอ๋ย เป็นเรื่องแรกที่ ตูมตาม รับบทเป็น พระเอกหนัง
ตูมตาม : ใช่ครับ เป็นจอเงินเรื่องแรกของผมเลยที่เป็นพระเอก เรื่องอีหล่าเอ๋ย เป็นคำที่ใช้เรียก ลูกสาว น้องสาว คนรัก ที่คนทางภาคอีสานเขาใช้กัน ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนอีสาน และเป็นเรื่องจริงด้วยครับที่คนอีสาน หรือกลุ่มคนต่างจังหวัดทุกคนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ หาเงินสร้างฝันเพื่อทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้น แต่ในระหว่างทางพวกเราก็ต้องฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อเอาตัวรอด จะมีบรรยากาศคนต่างจังหวัดเหมือนกัน ใช้ชีวิตเหมือนกัน เป็นสังคมอีกด้านหนึ่งที่เราจะได้เห็น
ตั๊กแตน ชลดา : คือมันเป็นเรื่องจริง เวลาส่วนใหญ่คนหาเช้ากินค่ำจะไม่มีเงิน แต่ก็ใช้วิถีชีวิตที่ว่ามันไม่ได้มีแค่เศร้า แต่ว่ามุมสุขเล็กๆ ตรงนั้นมันมีอยู่เยอะ แต่บางคนอาจจะนึกไม่ถึง ก็เลยนำเอามุมตรงนั้นมาตีแผ่เป็นภาษาอีสาน มุกก็จะแบบภาษาอีสาน แต่ว่าไม่ได้เป็นมุกที่ลึกมากจนคนดูแล้วไม่เข้าใจนะคะ หนังเป็นแนวโรแมนติก - คอมเมดี้
ถาม ตูมตาม อยู่วงการมาขนาดนี้ ทำไมถึงเพิ่งได้มาเป็นพระเอกหนัง
ตูมตาม : จริงๆ แล้วผมเพิ่งได้ออกมาดูแลตัวเองเป็นฟรีแลนด์ โอกาสในการรับงานก็หลากหลายขึ้น เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน แล้วก็เริ่มเล่นหนังอะไรมาเรื่อยๆ เล่นหนังครั้งแรกเริ่มต้นเข้ามาเล่นเป็นตัวอื่นๆก่อน จนครั้งนี้ได้มาเป็นพระเอกเลยค่อยๆ แบบเต้าไต่จริงๆ (หัวเราะ)
ถาม ในเรื่องรับบทเป้นอะไรบ้าง
ตูมตาม : รับบทเป็น พง
นก พงศกร : รับบทเป็น บักหำ
ตั๊กแตน ชลดา : รับบทเป็น เจ๊เขียว เป็นพี่สาวของ อีหล่า (น้องไข่มุก) เรามาเป็นสาวโรงงานทำงานด้วยกัน เป็นสองครอบครัว ในเรื่องเราเป็นคนที่รักแฟนมาก ขี้หึง เป็นคนที่แบบว่ามั่นใจ แล้วก็แต่งตัวเก่งที่สุดในโรงงาน แต่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่ว่าคิดว่าฉันสวยแบบนี้ แล้วก็ขี้โวยวาย ซึ่งในเรื่องแฟนเรา (บักหำ) ไม่เจ้าชู้เลยกลัวเราด้วยซ้ำ
ตูมตาม : ไข่มุก จะเป็นเหมือนสาวโรงงานที่มาทำงาน พอเรามาแสดงหนังเรื่องนี้เราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่เขามาทำงานเขาก็ไม่ได้อยากจะทำงานแบบนั้นอยู่ตลอดนะครับ เขาก็มีความฝันที่อยากมีชีวิตที่ดีกว่า เขาก็จะดิ้นรนหาอาชีพเสริมกัน
ถาม เพลงประกอบหนังก็คือ เต้ยสาวจันทร์กั้งโกบ เห็นว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เจ้าของลิขสิทธิ์หวงมาก
ตูมตาม : คือเราเป็นเจนใหม่ๆ แล้ว เราก็ยังได้ยินเพลงนี้ผมได้มีโอกาสมาร้องเพลงเต้ยสาวจันทร์กั้งโกบใหม่ ตอนแรกผมรู้สึกว่า ทำไมเขาถึงอยากให้ร้องเพลงนี้มากจังเลยเพราะอะไร พอเราได้ไปศึกษาประวัติเพลงนี้จากป๋าเอกชัย เล่าให้ฟังว่าเพลงนี้เมื่อ 30 ปีก่อนคือเพลงดังระดับโลกก็ว่าได้ เพราะคือเพลงหมอลำเพลงเดียวที่ขึ้นไปร้องคู่กับพี่เบิร์ด ธงไชย ในเวทีคอนเสิร์ต ซึ่งถ้าเป็นสมัยนี้คงเป็นหลักหลายร้อยล้านวิว
ถาม ในหนังเรื่องนี้มีนักร้องโด่งดังแล้วยังมี ตัวพ่อของหมอลำ ที่โด่งดังมากในภาคอีสาน ที่งานแน่นมาก
นก พงศกร : ไม่ได้ขนาดนั้นครับ วงของผม คือ วงหมอลำนามวิหค นก พงศกร ครับ ในวงจะมีแดนซ์เซอร์ 2 ทีมคนที่อยู่ในวงทั้งหมด 100 ชีวิต เวลาเราไปงานรถทั้งหมดที่ไปคือ 15 คัน รถบัสมี 4 คันครับ เสื้อผ้าจะเป็นรถสิบล้อต่างหาก หมอลำจะเป็นศิลปะของคนอีสาน สมัยก่อนไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้เท่าไหร่ครับ แต่พอมาสมัยนี้ก็ต้องมีอะไรเสริมเข้ามานิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับสมัยนี้ ให้มี มุก มีความขำเข้ามาช่วย คล้ายๆ กับเดอะมิวสิคัล
ถาม แต่ในเรื่องนี้ ตั๊กแตน เกือบจะไม่รับเล่นเรื่องนี้
ตั๊กแตน : ต้องบอกแบบนี้ค่ะ เพราะเมื่อก่อนคอนเสิร์ตเยอะมาก คิวงานแน่นมาก หนังเรื่องไหนที่ติดต่อมา แตนก็จะไม่ค่อยเล่นเพราะเรากลัวที่จะไม่มีคิวให้เขาเพราะคิวเราแน่นอยู่แล้ว แล้วบังเอิญหนังเรื่องนี้ถ่ายช่วงที่โควิดมาพอดี แล้วเป็นช่วงที่คอนเสิร์ตยกเลิกหมดทั่วประเทศเพราะเขาห้ามจัดงาน เลยเป็นความโชคดีของเราก็เลยรับเลย ดีใจมากตอนนั้นที่ได้เล่นเรื่องนี้ แล้วพอได้เล่นคือ ดีใจมากเพราะมันแตกต่างจากงานที่เราทำอยู่มันได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ตอนแรกเราก็คิดว่าเราจะทำได้ไหมแต่เราทำได้
ถาม แปลว่าสำหรับหนังเรื่องนี้เป็นการมารวมตัวกันครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง
ตูมตาม : เป็นการสนิทกันอย่างรวดเร็วมากครับ อย่างบอกไม่ถูกด้วยความที่เราเป็นคนอีสานด้วยกัน พี่แตน เป็นคนที่เขาก็มีสายงานของเขา ผมก็มีสายงานของผม นกเขาก็มีสายงานของเขาแต่ว่าสิ่งที่ผูกพันกันโดยง่ายเพราะเราเป็นคนอีสานเหมือนกัน ทำให้เกิดความผูกพัน สนุกสนานมากๆ เลย ทำให้ทุกคนมีความสุขกับการมาถ่ายหนังมาก ซึ่งคนที่คัดเลือกเรามาเล่นหนังเรื่องนี้ คือ พี่เอกชัย ศรีวิชัย ครับ
ถาม แต่พี่เอกชัย เป็นคนคนใต้ แต่มาทำภาพยนตร์ของคนอีสาน
ตั๊กแตน ชลดา : ทุกคนจะยิ่งงง!! ว่าทำได้ยังไงแม้แต่นักแสดงอย่างเรายังนั่งงงเลยว่าคำศัพท์ลึกๆ เกี่ยวกับภาษาอีสานพี่เอกแกรู้มากกว่าพวกเราอีก
ตูมตาม : และซึ่งป๋าเอก เขามีความซีเรียสกับวัฒนธรรมมากๆ เขาเลยสอดแทรกเข้ามาในหนังเรื่องนี้เยอะมากครับ
ตั๊กแตน : ส่วนของไข่มุก คือ น่ารักมาก
ตูมตาม : อยากจะให้หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนของขวัญปีใหม่ของทุกคน ให้ย้อนไปเห็นชีวิตตัวเองเทียบเคียงได้เหมือนกัน เชื่อว่าผ่านจุดนี้มาทำงานอยู่จุดนี้ ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก
ตั๊กแตน ชลดา : แล้วสิ่งที่ทุกคนจะได้รับในการที่ไปดูหนังเรื่องนี้คือ ทุกคนจะผ่อนคลาย ได้ความสุขและเสียงหัวเราะกลับไปแน่นอน ทุกคนยังจะได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมของคนภาคอีสาน ซึ่งเป็นมรดกที่พวกเราคนไทยน่าจะต้องอนุรักษ์ไว้ แล้วทุกคนจะต้องนึกถึงถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเองแน่นอน จะนึกถึงสมัยที่คุณเข้ามาเป็นวัยทำงานแล้วก็สอดแทรกไปด้วยเรื่องราวหาเช้ากินค่ำ และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ทำงานทุกท่านค่ะ