เหยื่อ “ไอ้หลอด” เผาตัวประชดเมียโคม่าแผลสาหัสเข้า ICU ญาติซึ้งนายจ้างช่วยรักษา (คลิป)

กรณีหนุ่มขายอาหารอีสานที่ชลบุรี เกิดอาการเครียดเอาน้ำมันราดตัวเองก่อนจุดไฟเผาร้านที่ตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา ต.อ่างศิลา ทำให้คนอื่นดวงซวยไปด้วย เพราะได้รับบาดเจ็บรวม 4 ราย เนื่องจากผู้ก่อเหตุวิ่งชนทำให้ไฟลวกคนที่เข้าไปช่วย โดยมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ได้แก่ นายจัน วงศ์พิมพ์ (สัญชาติลาว) อายุ 25 ปี นายรัชพล อุทธนารมณ์ยากร อายุ 39 ปี น.ส.มัสนา เกิดพันธุ์ และนายหลอด อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อค้าคลั่งราดน้ำมันเผาตัวกลางตลาดเจ็บ 4 เมียแฉหวังเผาร้านขู่แต่ลามถูกตัวเอง

ล่าสุดวันที่ 2 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่นายจัน วงศ์พิมพ์ อายุ 25 ปี ลูกจ้างร้านขายของเบ็ดเตล็ด นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ปลอดเชื้อ เพื่อให้แผลดีขึ้นตามลำดับ

โดยอาการของนายจัน มีบาดแผลถูกไหม้บริเวณใบหน้าซีกซ้าย และเส้นผมทั้งหมด แขนซ้าย เนินอก ลำคอ และเท้าทั้ง 2 ข้าง สภาพบาดแผลเป็นรอยไหม้ ผิวหนังที่แขนไหม้จนหนังชั้นบนหลุดลอกออกมาทั้งหมด ซึ่งแพทย์และพยาบาลจะคอยล้างแผล และขูดเนื้อที่ตายออกจากชั้นผิวหนัง เบื้องต้นนายจัน ทานข้าว ทานน้ำได้ปกติ ให้น้ำเกลือ ล้างแผล และเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด จนกว่าอาการจะดีขึ้น จึงจะให้ออกจากห้องไอซียู

จากนั้นทีมข่าวเดินทางต่อมายังตลาดประมงพื้นบ้าน อ่างศิลา 99 ซอย 8 อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อมาพูดคุยกับเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ โดยนายเกรียงศักดิ์ ศรีทอง อายุ 34 ปี เจ้าของร้านศรีทอง ขายของเบ็ดเตล็ดและอาหารปิ้ง นึ่ง ย่าง เปิดเผยว่า ทันทีหลังเกิดเหตุ ตนมีการติดตามคนเจ็บไปยังโรงพยาบาล เพื่อสอบถามค่ารักษาพยาบาล เบื้องต้นผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ ลูกจ้าง 1 ราย และลูกค้าอีก 2 ราย

โดยค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของพนักงานที่เป็นลูกจ้าง ซึ่งเข้าระงับเหตุโดนไฟไหม้ลวกแขน ตนจ่ายเงินมัดจำค่ารักษาพยาบาล เบื้องต้น 10,000 บาท และพร้อมที่จะจ่ายชำระค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเต็มจำนวน เพราะลูกจ้างเป็นสัญชาติลาว ไม่มีที่พึ่ง และที่พึ่งสุดท้ายก็คือนายจ้าง

ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นลูกค้าอีก 2 รายนั้น คือ นายรัชพล อุทธนารมณ์ยากร และน.ส.มัสนา เกิดพันธุ์ ซึ่งทั้งคู่มีประกันและใช้ในส่วนของประกันรักษาก่อน 25,000 บาท ถ้ามีส่วนต่างของการรักษาพยาบาล ตนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลตรงนี้ให้ทั้งหมด ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยินดี และในวันที่ 3 ธ.ค.63 ตนพร้อมกับพ่อแม่จะเดินทางไป รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อไปเยี่ยมและตั้งใจนำอาหารทะเลไปให้ 

หลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือแม้แต่คำขอโทษจากคู่กรณีที่มาจุดไฟเผาตัวเองในร้าน อีกทั้งยังไม่ทราบชื่อ ไม่รู้จักใบหน้า ไม่รู้มูลเหตุจูงใจที่แท้จริง ซึ่งตนทราบเพียงว่า คนก่อเหตุต้องการมาทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง (ลูกของภรรยาคนก่อเหตุ) ซึ่งวันดังกล่าวมาทำงานรับจ้างที่ร้านของตน คนก่อเหตุเป็นคนขายส้มตำแบบรถเข็นไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่ขายเป็นหลักแหล่ง จึงหาตัวค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตามตนต้องการให้ภรรยาหรือลูกฝ่ายคนก่อเหตุ เข้ามาขอโทษ แม้จะไม่มีเงินชดเชยค่าเสียหาย แต่ก็อยากได้รับการขอโทษ หรือสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำบ้าง

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับน.ส.ขาว สัญชาติลาว อายุ 23 ปี ภรรยาของนายจัน ลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่อีกแห่ง จากนั้นมีเพื่อนร่วมงานของสามีโทรศัพท์บอกว่า สามีถูกราดน้ำมันจุดไฟจนไหม้ตามร่างกาย ตนรู้สึกตกใจมาก รีบมาที่โรงพยาบาลทันที กระทั่งมาเจอตัวสามี นอนร้องด้วยความเจ็บปวดแสบร้อน ตนรู้สึกสงสารสามีมาก และเสียใจที่เกิดเหตุแบบนี้

ทั้งนี้ตนรู้สึกกังวลใจเรื่องความปลอดภัย และอาการบาดเจ็บที่ยังไม่ดีขึ้น ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ และเฝ้าระวังเรื่องบาดแผลที่บริเวณลำแขนซ้าย เป็นแผลไหม้ลึกที่สุด จึงต้องนอนอยู่ในห้องปลอดเชื้อไอซียู เพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ตนยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะต้องนอนรักษาตัวเป็นเวลาหลายวัน แต่เบื้องต้นเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ ก็พร้อมจะดูแลค่าใช้จ่าย ตนก็โล่งใจขึ้นมาบ้าง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ระบุว่า การประเมินบาดแผลไฟไหม้ จะประเมินจากความลึกของบาดแผล และขนาดของบาดแผล ซึ่งความลึกของบาดแผลไฟไหม้ แบ่งได้เป็น 3 ระดับ

ระดับแรก (First degree burn) ผิวหนังมีสีแดง ไม่มีถุงน้ำพองใส มีอาการปวดแสบปวดร้อน และเจ็บเป็นระยะ ๆ 

ระดับที่สอง (Second degree burn) ผิวหนังมีถุงน้ำพองใสเกิดขึ้น ถ้าผนังของถุงน้ำแตก จะเห็นผิวหนังสีชมพูหรือแดง และมีน้ำเหลืองซึม ขนจะติดกับผิวหนัง และมีอาการปวดแสบแผล ความยืดหยุ่นของผิวหนังยังปกติ

ระดับที่สาม (Third degree burn) ผิวหนังจะถูกทำลายตลอดชั้นความหนาของผิวหนัง ซึ่งจะแห้ง แข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น เส้นเลือดบริเวณผิวหนังอุดตัน ขนหลุดจากผิวหนัง ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำนายหลอด ที่ รพ.ชลบุรี เพื่อขอข้อมูลจากแพทย์ผู้รักษา โดยแพทย์ระบุว่า อาการของนายหลอด ยังไม่ดีขึ้น อาการยังหนักอยู่ในระดับ 2 จาก 3 ถือว่ารุนแรง ซึ่งนอนอยู่ในห้องไอซียู และยังเดินไม่ได้ ผิวหนังไหม้เกือบทั้งตัว ต้องผ่าตัดเอาหนังดีมาเปลี่ยนแทนผิวหนังที่เสียหาย อย่างน้อยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานเกือบ 2 เดือน