หนุ่มกร่างชักปืนขู่กลางร้านข้าวต้ม อ้างถูกเหยียบเท้า เหยื่อโต้ไม่เคยรู้จักแต่โดนปืนจ่อหัว (คลิป)

กรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ปรากฎคลิปภาพขณะชายสวมเสื้อสีดำ ทำท่าจะพุ่งเข้าไปทำร้ายชายอีกคน  โดยมีเพื่อนชายและหญิงที่มาด้วยกัน คนที่อยู่ในร้านพยายามเข้าไปช่วยห้ามปราม แล้วบอกให้ใจเย็น จากภาพจะเห็นชายเสื้อดำอีกคนเหน็บปืนไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ก่อนชักปืนออกมาส่ายไปมาทั่วร้าน จากนั้น ได้เก็บปืน แล้วหญิงที่มาด้วยกันก็เข้ามาพาตัวออกไปนอกร้าน เหตุเกิดคืนวันที่ 6 ธ.ค. 63 

วันที่ 7 ธ.ค. 63 นายศิริชัย เดชา อายุ 71 ปี เจ้าของร้านข้าวต้ม เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน โดยมีชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน ได้เข้ามาสั่งอาหารและนั่งโต๊ะที่ติดกับริมถนน โต๊ะ 8 ส่วนกลุ่มของนายโชคอนันต์ คู่กรณีมา 3 คน นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามภายในร้าน โต๊ะ 6 โคยมีโต๊ะคั่นกลางระหว่าง 2 กลุ่ม 1 โต๊ะ

จากนั้นเมื่อช่วงเกือบเที่ยงคืนได้ยินเสียงดังจึงรีบออกมาดูพบว่า นายพงศกรต่อยอยู่กับคู่กรณีจึงเข้าไปห้ามจนแยกออกจากกัน ก่อนที่เพื่อนของคู่ชกจะชักปืนขึ้นมาข่มขู่

ซึ่งผู้หญิงที่มาด้วยกันห้ามไว้ ก่อนพากันออกไปคุยนอกร้าน ะหว่างนั้นก็มีเสียงโวยวายเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันขับรถจักรยานยนต์กลับออกไป ตนไม่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีปัญหาอะไรกัน ซึ่งตนก็ไม่อยากให้มีปัญหากันภายในร้าน เพราะจะทำให้ลูกค้าแตกตื่น

นายพงศกร แจ่มแจ้ง อายุ 44 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งกินอาหารอยู่ในร้านข้าวต้ม จากนั้นได้เดินออกไปสูบบุหรี่ ก่อนที่ชายรายหนึ่งจะเดินเข้ามาถามว่า "มึงมองหน้ากูทำไม" ด้วยอาการคล้ายคนเมา ก่อนง้างมือทำท่าจะต่อยตน แต่ตนล็อกเอาไว้ได้ จากนั้นก็ชุลมุนจนมีเพื่อนและเจ้าของร้านเข้ามาห้าม

โดยตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย เพราะไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าคู่กรณีนั่งโต๊ะไหน รวมถึงไม่ได้เหยียบเท้าฝ่ายคู่กรณีตามที่มีการกล่าวอ้างเ พราะไม่ได้เดินผ่านจุดที่คู่กรณีนั่ง ส่วนช่วงที่ชักปืนขู่ ตนไม่ได้อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว เพราะวิ่งไปหลบ หลังจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ตนยืนยันไม่เคยรู้จักคู่กรณีและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน

นายไพรวัลย์ ผลมา อายุ 52 ปี เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนนี้พวกตนไปนั่งกินข้าวต้ม และดื่มเหล้าที่ร้านริมถนนเฉลิมพระเกียรติ เวลาเกือบเที่ยงคืน เพื่อนของตนเดินออกไปนอกร้านจะออกไปสูบบุหรี่ จากนั้นตนได้ยิงเสียงดังจึงวิ่งออกไปดูพบว่านายกรกำลังต่อยกับผู้ชายอีกคน ตนจึงเข้าไปห้ามพร้อมเจ้าของร้าน จากนั้นทั้ง 2 คนแยกกัน นายกรวิ่งเข้าไปในร้าน คู่กรณีวิ่งตามเข้าไปจะทำร้าย ตนจึงเข้าไปห้ามอีกรอบ ก่อนที่เพื่อนของคู่กรณีจะตามเข้าไปพร้อมชักปืนขึ้นมา ลักษณะคล้ายขู่คนในร้านให้อยู่เฉย ๆ โดยไม่ได้หันกระบอกปืนมาทางตน ก่อนที่ผู้หญิงซึ่งมาด้วยกันจะห้ามและนำตัวทั้ง 2 คนออกไปจากร้าน

ส่วนสาเหตุที่ชกต่อยกันตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากการมองหน้ากันหรือไม่ เพราะตนนั่งหันหลังให้ฝ่ายคู่กรณีก่อนเกิดเหตุ แต่ยืนยันไม่รู้จักอีกฝ่ายมาก่อน โดยร้านที่เกิดเหตุตนเข้าไปนั่งกินเป็นประจำ ไม่เคยเจออีกฝ่ายมาก่อน ทั้งนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลใด ๆ เพราะคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับตนโดยตรง จึงไม่น่าจะมีปัญหา