เมื่อเอ่ยชื่อ "ฟอร์ด สบชัย" หลายคนต้องนึกถึงภาพนักร้องเสียงดี อารมณ์ดี มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์ แต่หลายๆ คนอาจยังไม่รู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ผู้ชายคนนี้ยอมหันหลังให้กับอนาคตการเป็นนักกฎหมายที่คุณพ่อขีดเส้นให้เดิน เพื่อได้เป็นศิลปินนักร้องตามความฝันจนประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่วัย 20 ปีต้นๆ โดยมีผลงานขึ้นชาร์ตติดอันดับท็อปเท็นนานกว่า 50 สัปดาห์ เป็นที่ยอมรับและเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จได้เป็นอย่างดี แต่ล่าสุด "ฟอร์ด สบชัย" มาเยือนรายการต้มยำอมรินทร์ ให้ล้วงชีวิตจากนักดนตรีแบ็คอัพสู่เจ้าพ่อเพลงรักยุค 90 พร้อมเปิดใจโค้งสุดท้ายในอาชีพศิลปิน ปล่อยเพลงใหม่ ทิ้งทวนวงการเพลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เจจินตัย" เปิดใจวางแพลนเตรียมทิ้งงานในวงการ ย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตที่อเมริกาแบบถาวร!
- "ไอซ์ อมีนา" เผยปมในใจ เคยเกือบยอมแพ้เพราะถูกวิจารณ์หนักเรื่องการแสดง
- "กอล์ฟ เบญจพล" เคลียร์ประเด็นไม่รับบทตลก หลังเสริมหล่อ!
- "ตูมตาม ยุทธนา" เคลียร์ถูกมองใช้เต้าไต่ จากนักร้องเวทีประกวดสู่การเป็นพระเอกหนัง
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เพลงที่เปลี่ยนชีวิตของ ฟอร์ด สบชัย คือเพลง รักเธอ ใช่ไหม
ฟอร์ด สบชัย : รักเธอ ครับ อันนั้นคือซิงเกิ้ลแรกเลย ตอนนั้นน่าจะประมาณปี 2538 นะครับ ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เป็นแนวเป็น Power POP ที่มีกลิ่น R&B เป็น POP ที่ใช้แรงร้องพอสมควร เพราะโน๊ตต่ำยันโน๊ตสูง เพลงสมัยนั้นยังไม่ค่อยมี
ถาม ซึ่งก่อนจะมาเป็นนักร้องที่ยืนอยู่ข้างหน้า เคยเป็นนักร้องแบ็คอัพ ทำงานอยู่เบื้องหลังศิลปินดังมากมาย
ฟอร์ด สบชัย : ใช่ครับ ตอนนั้นเราก็ทัวร์คอนเสิร์ตกับพี่คริสติน่า พี่แอม พี่บิลลี่ และน้องทาทา ยัง เราเล่นดนตรี คีย์บอร์ด เครื่องเป่า แล้วก็คอรัส พอพักคอนเสิร์ตช่วงกลางเราก็ออกไปร้องอีก ทำงานอยู่ 5 ปี ได้เดินทางตลอดเวลา ระหว่างที่เราทำงานอยู่เบื้องหลัง เราก็ไปประกวดด้วย เพราะพลังเรามันเยอะมากในตอนนั้น ซึ่งในระหว่างที่ประกวด ทางค่ายสโตน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็มีพี่ๆ ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเขาเห็น เลยให้เราลองทำเองบ้าง ทำได้ไหม เลยลองทำ พอทำเรียบร้อย ส่งเดโม่ตอนแรกต้องส่ง 10 เพลง แต่เพราะเราทัวร์เยอะ ไม่มีเวลา เลยส่งและปล่อยออกมาแค่ 3 เพลง คือ ตาม / รักเธอ / ง่วง ซึ่งพอเราปล่อยเพลงออกไป เราก็ไปทำงานทัวร์เหมือนเดิม ซึ่งไม่รู้เลยว่าเพลงเราดัง เพราะไม่ได้ถ่ายรูปเรา หรือทำให้รู้เลยว่าคือตัวเราร้อง พอเพลงเราดัง พี่อู๋ก็ให้คนโทรมาบอกเราว่าเพลงดังแล้ว กลับมาทำอัลบั้มให้จบด่วน เพราะเพลงดังแล้ว กำลังเริ่มไต่ชาร์ต หลังจากนั้นเราก็เริ่มติดตามฟังวิทยุว่าเขารายงานชาร์ต เพลงเราอยู่อันดับไหน ซึ่งก็ใช้เวลานานมากเลยนะครับ 3-4 เดือน กว่าเราจะขึ้นไปอยู่อันดับที่หนึ่ง
ถาม เราฟังเพลงตัวเองแล้วไม่รู้เหรอว่ามันดีมาก หรือไม่กล้าเข้าข้างตัวเอง
ฟอร์ด สบชัย : เรามีความรู้สึกว่าพอใจ ณ ตรงนั้นเฉยๆ แต่เราไม่รู้เลยว่าเพลงจะดังหรือไม่ดัง
ถาม หลังจากเพลงดังก็ขยับตัวเองไปอยู่ค่ายเพลงดัง
ฟอร์ด สบชัย : ชุดแรกที่เราทำ ไม่มีใครช่วยเลย มีแต่เพื่อนๆ ในกลุ่มที่เราเล่นดนตรีกลางคืนด้วยกัน แล้วก็เพื่อนๆ ชาวต่างชาติที่เล่นด้วยดนตรีด้วยกัน เขาเป็นโปรดิวเซอร์อยู่แล้ว ไปปรึกษากัน พอหลังๆ สโตนปิดตัวลง เราก็หาที่อยู่ใหม่ ก็ได้ที่อาร์เอส ตอนนั้นเขาบอกว่าให้อิสระในการทำงานของเราเต็มที่เหมือนเดิม ก็เลยโอเค
ถาม แต่หลังจากนั้นก็ผันตัวเองไปทำหลายสิ่งหลายอย่างมาก บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร
ฟอร์ด สบชัย : ใช่ครับ เป็นสายเนื้อ จริงๆ อยู่บ้านเราก็ตั้งเตา เอาเนื้อมาย่าง เลยคิดว่าอยากจะเปิดร้านขึ้นมา ซึ่งมันก็ไปได้ดีนะครับ เราก็สนิทกับพี่ชายท่านหนึ่งเขาเปิดร้าน กิวกิวเต้ ซึ่งดังมาก ผมก็ได้หัวแบรนด์ของ กิวกิวเต้ มาตั้งเป็นร้านของตัวเองแล้ว By ฟอร์ด ทำอยู่ประมาณ 5-6 ปี เพราะเรื่องของสัญญาเช่า พอหมด เราเลยเบรค เพราะมันเหนื่อยมาก เราใช้ชีวิตดับเบิ้ลมา หมายถึงว่าดูร้านก็ต้องดูเหมือนลูก ไปทัวร์ก็ต้องไป รับงานหมดทุกอย่าง มันเหมือนดับเบิ้ลตัวเอง พอมาถึงจุดนั้นเราตัดสินใจหยุดเลย เพราะว่าเราไม่มีแรงใจหรืออะไรที่จะทำแล้ว แต่ว่าแฟนๆ ของร้านก็ยังอยู่ในเพจอยู่ทุกวันนี้ ยังขายสเต็กออนไลน์อยู่เลย
ถาม นอกจากเปิดร้านอาหารแล้ว ก็ยังเปิดค่ายเพลงของตัวเองอีก
ฟอร์ด สบชัย : ตอนที่ออกจากอาร์เอส ออกมาทำบริษัทของตัวเองชื่อแฟตบอยซ์สตาฟ ไฟแรงมาก ทำไม่รู้กี่อัลบั้ม ในค่ายตอนนั้นมีนักร้องเยอะมาก มีจากเกาหลีด้วยมารวมๆ กัน ปล่อย 2-3 อัลบั้ม แต่แรงของการโปรโมทเรามันไม่ถึงจริงๆ เพราะว่าเราเป็นค่ายเล็กมากๆ ไม่รู้จะไปแทรกอยู่ตรงไหนของตลาด พอมาสักพักหนึ่งเราเลยหยุดไว้ก่อน เพื่อรอให้สภาพของบริษัทเรียบร้อย แล้วก็เปิดใหม่อีกอันหนึ่ง ปัจจุบันคือไนน์ ฟ็อกซ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เล็กๆ เลยรับผลิตอย่างเดียว รับจ็อบที่ว่างานมา ทำเสร็จเรียบร้อยโยนไป เป็นงานที่เรียกว่าไลน์ซิงค์ งานโฆษณา เราเน้นเรื่องการขึ้นงานเป็นโชว์ คล้ายๆ งานละครเวที
ถาม ทำงานเยอะจนงานห่างหายการทำงานเพลงของตัวเอง กระทั่งต้นปีได้ทำเพลงออกมาตอนรับโควิดพอดี
ฟอร์ด สบชัย : คือเพลงเสร็จตั้งแต่ตอนปลายปี ทำ MV ไว้เรียบร้อย แล้วช่วงมกราคมเดินทางไปเยอรมัน 1 เดือน ระหว่างนั้นเราก็ส่งเพลงกันไปมา พอเรากลับมาก็ปล่อยเพลงได้แค่สองอาทิตย์ โควิดมาเลย พื้นที่สื่อและความสนใจของทุกคนหายไป เพราะทุกคนรออัปเดตสถานการณ์อย่างเดียวเลย เพราะถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่และน่ากลัวสำหรับทุกคน ซึ่งเพลงที่ปล่อยมาตอนนั้น ชื่อเพลงว่าที่รักครับ เพลงอุ่น เกิดมาจากความรู้สึกว่าคนเราบางทีรักกันนะมันชินจนลืมที่จะหวานกัน เพลงนี้เลยเป็นเพลงที่จะบอกว่าเวลาที่จะทะเลาะ หรือเวลาที่คิดจะเลิกกัน ลองมาคุยกันก่อน
ถาม แต่ทุกคนอาจจะรู้สึกใจหาย เหมือนนี่จะเป็นโค้งสุดท้ายในการทำเพลงของ ฟอร์ด สบชัย
ฟอร์ด สบชัย : ต้องบอกว่ามันเป็นโค้งของธรรมชาติมากกว่า ด้วยอายุ ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เด็กรุ่นใหม่เขาก็จะมีไอดอล ฮีโร่ของเขารุ่นใหม่มา ส่วนเราก็จะค่อยๆ หายไป แล้วอีกอย่างคือเวลาออกเพลงต้องใช้พลังเยอะมาก เลยคิดว่าระหว่างตอนนี้ เราก็จะทำเต็มที่ แล้วก็วางมือ ไปทำอย่างอื่นบ้าง