กรณีชายคลั่งยาจุดไฟเผาบ้านหลังหนึ่ง ในเขตพื้นที่ หมู่ 6 ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ส่วนคนก่อเหตุ เป็นลูกชายเจ้าของบ้าน ภายหลังทราบชื่อ นายนพดล สุขสมบท หรือ แบงค์ อายุ 23 ปี ก่อเหตุเพราะเมายาบ้าอย่างหนัก ก่อนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาห้องนอนชั้นล่างของบ้าน และยังตัดสายถังแก๊สนำมาวางใต้บันได หวังให้แก๊สระเบิดอีกด้วย แต่โชคดีที่ชาวบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน
ทั้งนี้หลังก่อเหตุ นายนพดล ได้วิ่งหนีออกจากบ้านไปขโมยมีดชาวบ้าน เป็นมีดดาบยาวกว่า 1 ศอกติดมือไปด้วย จากนั้นตำรวจ สภ.ท่าวุ้ง จึงนำกำลังไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจจำนวนหนึ่ง และอุปกรณ์สำหรับควบคุมการปราบจราจล เนื่องจากผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งและมีมีด ก่อนจะช่วยกันล้อมจับได้สำเร็จ ขณะนี้ส่งรักษาอาการคลุ้มคลั่งและระงับโรคประสาทจากอาการหลอนยาเสพติดที่ รพ.ศรีธัญญา
ล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ไม่มีรั้ว ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 6 ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี น.ส.เพ็ญศรี กล่อมสุวรรณ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายนพดล และพ่อเลี้ยงที่เลี้ยงดู นายนพดลมาตั้งแต่อายุ 1 ขวบ พาทีมข่าวชี้ดูจุดที่ได้รับความเสียหาย
สำหรับจุดแรกเป็นห้องนอนของนายนพดล ได้รับความเสียหายทั้งหมด ในห้องมีเขม่าควันไฟเกาะเต็มห้อง ที่พื้นที่เศษฝ้าเพดานตกลงมา และมีเศษผ้าไหม้เกรียม รางตากผ้า ไม้แขวนเหลือแต่โครง รีโมตทีวี และลำโพงถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ที่เต้าเสียบปลั๊กไฟละลาย
ถัดไปอีกจุด คือ บันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน พ่อเลี้ยงพาทีมข่าวดูความเสียหาย หลังนายนพดล ราดน้ำมันจุดไฟเผาถังสีที่อยู่ใต้บันได ก่อนจะตัดสายส่งแก๊สและลากถังที่มีน้ำหนัก ประมาณ 15 กม. ออกมาจากในครัวแล้ววางใต้บันไดที่ไฟไหม้หวังจะให้ระเบิด โชคดีที่มีคนมาช่วยทัน
น.ส.เพ็ญศรี เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนทุกข์ใจมาก ลูกชายติดยาเสพติดมาตั้งแต่ ป.5 เลิกไม่ได้ และประสาทหลอน คุยคนเดียวก็มี ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้าย หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใครในบ้าน กรทั่งเมื่อปี 62 จนถึงปัจจุบัน ลูกชายมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก จะพูดขู่ทุกวันว่าจะเผาบ้าน "ถ้ามึงไม่ให้เงินกูนะอีแก่ กูจะเผาบ้านมึง" ตนก็ไม่คิดว่าจะเผาจริง ๆ คิดว่าลูกชายแค่ขู่เอาเงิน
ทั้งนี้ที่ผ่านมา เวลาตนไม่มีเงินให้ลูกชาย เขาจะใช้มีดปอกผลไม้ที่พกติดตัวไว้มาขู่ ซึ่งถ้าหยิบเงินให้ไป 100 บาท ก็จะยังไม่ยอม เพราะทุกครั้งลูกชายต้องการ 200-300 บาท บางครั้งใช้มีดจี้คอยายแท้ ๆ อายุ 70 ปี ก็ทำมาแล้ว อีกทั้งในห้องของลูกชาย ยังมีแต่มีดเก็บไว้เต็มไปหมด
นอกจากนี้ลูกสาวของตน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพี่แท้ ๆ ของนายนพดล ก็อยู่บ้านไม่ได้ ต้องหนีไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะน้องชายมักจะมาบีบคอเวลาพี่สาวเผลอ ตนต้องอยู่อย่างหวาดผวา กินข้าวไปก็ต้องหันหน้าหันหลัง กลัวลูกจะใช้มีดแทง ตนระแวงทุกอย่าง แต่คนนอกบ้านอาจไม่รู้ว่าตนเจออะไรบ้าง และลูกชายชอบไปบอกคนอื่นว่าตนไปกดดัน ตนเจอลูกข่มขู่มาตลอด พยายามกั้นห้องให้เป็นสัดส่วน ล็อกประตูเหล็กชั้น 2 ไว้
เพราะลูกชอบขโมยของในบ้านไป ทั้งน้ำมันพืช ข้าวสาร น้ำปลา ครก และไข่ ไม่มีเหลือ ขโมยเอาไปหมด ก็ไม่ก็ทุบโอ่งน้ำแตก แต่ไม่เคยไล่ลูกไปไหนเพราะเห็นว่าเป็นลูก แต่ถ้าลูกมองว่าคนอื่นดีกว่า มองว่าตนไม่ดี ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกตนทำลายบ้านมา 3 ครั้งแล้ว ชอบทุบทีวี กระจก แต่ครั้งที่ 3 ลูกทำหนักมาก จุดไฟเผาบ้านและชอบใช้มีดขู่ เพราะรู้ว่าตนกลัวมีด ลูกสาวที่หนีไป ตนก็ไม่ให้กลับมา กลัวว่าจะถูกทำร้าย
ขณะเกิดเหตุ ลูกชายอาศัยช่วงที่ตนอาบน้ำ ใช้มีดตัดถังแก๊สลากมาใต้บันได ก่อนจะราดน้ำมันที่ถังสีใต้บันได และจุดไฟในห้องก็เผาหมด ตนได้กลิ่นไหม้จึงกระโดดออกมา เห็นบ้านไฟไหม้จะไปตามคนช่วย ลูกก็ถือมีดขู่ไว้และพยายามจะขังตนไว้ในบ้านที่ไฟกำลังไหม้ เพราะตนเคยถูกขังไว้ในบ้านมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยดับไฟ และโยนถังแก๊สออกจากบ้านทันป้องกันการระเบิด
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า อยากจะหนีลูกไปอยู่ที่อื่น เพราะแจ้งให้ตำรวจมาจับบ่อยครั้ง จับไปได้ไม่กี่วันก็ปล่อยออกมา เพราะลูกประสาทหลอนต้องรักษาที่โรงพยาบาลบ้าเท่านั้น จึงได้แต่อดทนและอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดให้ปกป้องคุ้มครองตลอด หากตนไม่อยู่บ้านก็จะบอกพระ บอกปู่ พ่อแก่ บอกผีบ้านผีเรือน เป็นประจำทุกวัน
ทั้งนี้ตนบอกตรง ๆ เลยว่า ตั้งแต่เล็กจนโตมา ตนไม่อยากได้ลูกชายคนนี้แล้ว สร้างแต่ความทุกข์ ตนบอกทุกคน ว่าตนไม่อยากได้แล้ว "ถ้าเขาไม่ตายฉันก็ตาย" ส่วนความเสียหายยังประเมินไม่ได้ รอประกันมาตรวจสอบ คาดว่าประมาณ 30,000 บาท ขณะนี้ลูกชายอยู่ รพ.ศรีธัญญา แพทย์กำลังรักษาจนกว่าจะดีขึ้น