สเปนยึดพระราชวังคืนจาก "เผด็จการฟรังโก" ชี้ใช้เงินหลวงซื้อ

11 ธ.ค. 63

สเปนล้างมรดกเผด็จการ ยึดพระราชวังฤดูร้อนคืนจากนายพลฟรังโก อดีตผู้นำเผด็จการและขับไล่ทายาทออก ชี้ใช้เงินหลวงซื้อ

วานนี้ (10 ธ.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน รัฐบาลสเปนสั่งยึดคืน Pazo de Meirás พระราชวังฤดูร้อนซึ่งเป็นของนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก ผู้นำเผด็จการฟาสซิสต์ของสเปนซึ่งเรืองอำนาจในช่วงปี ค.ศ.1938–1973 และขับไล่ทายาทของเขาออกจากอาคารดังกล่าว เพื่อเป็นการล้างมรดกของจอมเผด็จการผู้นี้

กอนซูเอโล กาสโตร อัยการสูงสุด ได้เดินทางมาที่วังดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นกาลิเซีย เพื่อเข้าตรวจสอบครั้งสุดท้ายและประกาศยึดคืนสิทธิการครอบครองอย่างเป็นทางการ โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนชุมนุมอยู่ด้านหน้าพร้อบแบนเนอร์ที่เขียนว่า "ให้พวกเขาคืนทุกสิ่งที่ขโมยไป ไม่มีอีกแล้วสเปนใต้อำนาจฟรังโก"

vlcsnap-2020-12-11-08h38m25s3

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการย้ายที่ฝังศพของฟรังโก จากสุสานหุบเขาของผู้วายชนม์ใกล้กรุงมาดริดเมื่อปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลระบุว่าต้องการให้หุบเขาของผู้วายชนม์เป็นสถานที่แห่งการระลึกถึงและเคารพผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมือง การที่ศพของนายพลฟรังโกถูกฝังไว้ที่นี่ถือเป็นการสร้างความเสื่อมเสียต่อการมีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ รวมถึงอีกหลายโครงการที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลฝ่ายซ้ายในการล้างมรดกจากยุคเผด็จการฟรังโก หลังเขาได้เสียชีวิตลงเมื่อปี ค.ศ.1975

พระราชวังดังกล่าวถูกสร้างขึ้นช่วงค.ศ. 1893-1907 โดยเอมิเลีย ปาร์โด-บาซาน นักเขียนชาวสเปน ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ 5 ล้านยูโร (ราว 182 ล้านบาท) โดยฟรังโกซื้อพระราชวังนี้ในปี ค.ศ.1938 ด้วยเงินบริจาคของประชาชน แม้สเปนจะอยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง มีผู้คนล้มตายจากน้ำมือของรัฐบาลฟรังโกกว่า 1.5 แสนคน ก่อนที่เขาจะโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของตนเองในปี ค.ศ. 1941 และใช้เป็นบ้านพักตากอากาศฤดูร้อน 

vlcsnap-2020-12-11-08h38m20s7

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งตัดสินว่าการถ่ายโอนกรรมสิทธิ์พระราชวังให้เป็นทรัพย์สินของฟรังโกนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเงินบริจาคที่ใช้ซื้อวังแห่งนี้มีไม่ได้มีเพื่อตัวเขาแต่เพื่อตำแหน่งประมุขของรัฐ และไม่มีสิทธิส่งต่อให้ทายาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพระราชวังดังกล่าวทรัพย์สินซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เกือบ 700 ชิ้น ซึ่งรวมถึงรูปปั้น 2 ชึ้น จากซานเตียโกเดกอมโปสเตลา และหนังสืออีก 13,000 เล่ม

เอมิโอ ซิลวา หัวหน้าสมาคมฟื้นฟูประวัติศาสตร์ ระบุว่า การยึดคืนพระราชวังครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสืบสวนทรัพย์สินชิ้นอื่นๆ ของครอบครัวฟรังโกต่อไป

ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองซาดาซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังแห่งนี้ ระบุว่าจะนำพระราชวังไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์อุทิศให้เอมิเลีย ปาร์โด-บาซาน นักเขียนผู้สร้างพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกสำคัญของสเปนในหลายๆ สาขา และยังถูกเข้าใจผิดในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่

vlcsnap-2020-12-11-08h38m25s3

advertisement

ข่าวยอดนิยม