Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"แจง วราพรรณ" ใช้ธรรมะเยียวยาใจ ต่อสู้มะเร็งเต้านมกว่า 5 ปี

"แจง วราพรรณ" ใช้ธรรมะเยียวยาใจ ต่อสู้มะเร็งเต้านมกว่า 5 ปี

11 ธ.ค. 63
11:35 น.
|
2.3K
แชร์

นักแสดงรุ่นใหญ่หน้านิ่งแต่มากไปด้วยอารมณ์ขัน "แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล" เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ถึงช่วงที่ต้องต่อสู้กับมะเร็งเต้านมมากว่า 5 ปี เผยใช้ธรรมะเยียวยาใจ เพราะไม่รู้จะกลับมาเป็นอีกเมื่อไหร่ พร้อมขอเคลียร์ข่าวลือหนาหู หลังถูกเมาท์ว่าเลือกรับละคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แอริน ยุกตะทัต" สัมผัสลี้ลับแรง โดนทักมีผีตามขี่คอไม่ยอมปล่อย!
- "แม่ขวัญจิต" เผยเคยถูกแฟนเพลงเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเมียของ "พ่อไวพจน์"
- "ฟอร์ด สบชัย" เปิดใจโค้งสุดท้ายในอาชีพศิลปิน ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ทิ้งทวนวงการเพลง!
- "เจจินตัย" เปิดใจวางแพลนเตรียมทิ้งงานในวงการ ย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตที่อเมริกาแบบถาวร!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
 
  

s__65749261

ถาม จุดแจ้งเกิดในวงการบันเทิงคืออะไร

แจง วราพรรณ : จากละครเวที เพราะตอนนั้นแสดงอยู่ที่โรงแรมมณเฑียร เป็นเรื่องแรกเลยที่เล่นชื่อว่า คุณหญิงอมราภา ซึ่งหนึ่งเรื่อง เล่นเป็นเดือนค่ะ เราเล่นทุกวันหยุดแค่วันเดียวเอง แต่ว่าเวทีที่เราเล่น จะประชิดคนดูมาก ลักษณะคนเข้าไปดูในบาร์ แล้วก็ซื้อดริ้งค์เพราะทุกคนที่ไปแสดง ก็ตั้งใจไปเอ็นเตอร์เทนอยู่แล้ว ด้วยความที่เราเป็นเด็กนักศึกษาตอนนั้นอยู่ประมาณปี 4 เราก็จะตื่นเต้นมาก เพราะเราได้อยู่ใกล้ทุกคนที่ไปดูเรามากๆ


ถาม เข้าไปสู่ตรงละครเวทีนั้นได้ยังไง

แจง วราพรรณ : เพราะพี่อุ้ย เกรียงไกร อุณหะนันทน์ เป็นอาจารย์พิเศษที่ไปสอนแอคติ้งที่นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เราคงไปเข้าตาพี่อุ้ย แล้วพี่อุ้ย เขาทำละครเวทีอยู่ เรียกให้ไปลองแสดง เราก็ทำได้เลยได้เล่น


ถาม เรื่องนี้ทำให้เราแจ้งเกิดเลยเหรอ

แจง วราพรรณ : เพราะมันเป็นบทขยี้ ในบทเราเล่นเป็นคนที่แก่สุดนะ แต่จริงๆ ในทุกคนที่เล่นเรื่องนี้ เราอายุน้อยที่สุด ตอนนั้นเรายังเป็นนักศึกษาอยู่เลย เราเล่นเป็นท่านผู้หญิงกึ่งไทยกึ่งจีน ซึ่งในบทก็จะมีความขำๆ อยู่แล้ว พูดออกมาก็จะไม่ชัด แต่ก็ทำให้เราได้รับรางวัลหน้ากากทองคำ บทสมทบหญิง พูดว่าแจ้งเกิดก็ได้ เพราะเล่นเรื่องแรกแล้วก็เข้าตา


ถาม ซึ่งนิสัยจริงๆ เป็นคนตลกอยู่แล้วหรือเปล่า เพราะละครเรื่องแรกที่ไปเล่นก็เป็นคอมเมดี้นิดๆ

แจง วราพรรณ : เป็นคนที่ชอบคิดอะไรตลกๆ หน้าอาจจะดูนิ่งๆ แต่ว่าระหว่างคุยกันก็จะมีสมองส่วนหนึ่งที่คิดอะไรตลกตลอดเวลา เราโชคดีที่พอเราได้แสดงจริงๆ มันเลยได้ถ่ายทอดออกมา


ถาม ที่บอกว่าเข้าตาเมื่อกี้ คือ เข้าตาหม่อมน้อย

แจง วราพรรณ : หม่อมน้อยก็ทำละครอยู่ตรงนั้นด้วย พอหม่อมน้อยทำหนัง ก็เรียกให้เราไปเล่น เราก็ไม่ได้โดนเด่นอะไรมาก แต่ท่านน่าจะเอ็นดูเรา เห็นถึงความตั้งใจ เรื่องที่เราได้เล่นคือ มหัศจรรย์แห่งรัก เป็นภาพยนตร์นะคะ ได้เล่นกับคุณนก สินจัย และอีกหลายๆ ท่าน อันนั้นก็ได้รางวัลตุ๊กตาทอง สมทบหญิงยอดเยี่ยม ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ทั้งหลายที่มีคุณูปการกับเรา หลังจากนั้นก็ได้เล่นละครทีวีด้วยค่ะ ไนท์ สปอตโปรดักชั่น ก็เล่นมาเรื่อยๆ แล้วก็เป็นดีเจ เหมือนเป็นงานประจำ พอพักร้อนเราก็ไปเล่นหนัง เล่นละครเวที

แจง วราพรรณ : แต่สิ่งที่เราชอบที่สุดคือละครเวทีค่ะ มันสดมาก เวลาเราส่งอะไรไป เราจะเห็นรีแอคทันที แล้วเราจะรู้ว่าเราจะไปแบบไหนต่อ แต่ทางของเรามาทางคอมเมดี้ แต่กลับเป็นว่างานละครทีวีเยอะ ตอนนี้ก็เยอะอยู่ ประมาณ 4 เรื่องค่ะ 

s__65749259

ถาม เป็น 4  เรื่องที่เขาเมาท์กันว่าขนาดเป็นคนที่เลือกมาก เรื่องมาก ถ้าละครอันนี้ไม่ได้ให้ข้อคิดที่ดีกับคนดู แจง วราพรรณ จะหยิ่ง เชิดใส่ ไม่รับเล่น

แจง วราพรรณ : ไม่ๆ ค่ะ ส่วนใหญ่ละครทุกเรื่องให้ข้อคิดอยู่แล้ว แต่แค่พอเราสนใจเรื่องธรรมะ เราจะรู้สึกว่าอะไรที่เราทำออกไป ไป ทำให้เป็นอกุศล ละครทุกเรื่อง ตอนจบจะมีข้อคิดให้ แต่ก็มีบางเรื่องก็นานไป เพราะระหว่างทางคนดูมันเป๋ไปหมดแล้ว กว่าจะได้ข้อคิด แล้วบางคนไม่ได้ดูตลอด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะชีวิตก็ต้องมีความเสี่ยงนิดๆ ถ้าสมมติว่าตอนนี้เราไม่ได้งานเยอะมากแล้ว เราก็อยากจะเลือกนิดหน่อย


ถาม นอกจากงานแสดงแล้ว อีกสิ่งที่ แจง วราพรรณ ทำคือเป็นเจ้าแม่ออแกไนซ์ แต่ล่าสุดเป็นยูทูบเบอร์ด้วย

แจง วราพรรณ : (หัวเราะ) คนที่เป็นยูทูบเบอร์ต้องมีคนติดตามเยอะ แต่ของเราคือไก่กามาก ทำกับพี่ใหม่ ณัฐฐา เราคิดกันเล่นๆว่าในวัย 50 อัพแล้ว คนเรียกป้า เราก็อยากทำอะไรที่แบบไม่ต้องเป็นรายการอะไรที่จริงจัง เราชอบกิน ชอบไปวัด เป็นการถ่ายทอดวิถีชีวิต ไลฟ์สไตล์ ด้วยวัยแบบนี้ไม่อยากให้รู้สึกว่ามันถดถอย ยังทำอะไรได้เหมือนเดิม เราต้องดูแลตัวเองตรงไหนบ้าง คือรายการเป็นแบบพากิน พาเที่ยว แล้วก็มีอะไรสนุกๆ การรีวิวถุงผ้า เพราะช่วงนี้ทุกคนรณรงค์การใช้ถุงผ้า เราก็จะมาบอกว่าการใช้ถุงผ้าดียังไง ใช้ยังไง พกพายังไง เพื่อช่วยในการลดโลกร้อน


ถาม แล้วในรายการรับลูกค้าเพื่อ Tie-in ไหม

แจง วราพรรณ : รับค่ะ พี่ใหม่พูดอยู่ตลอดเวลาว่าอยากรีวิวสินค้า แต่จริงๆ เราไม่ได้คิดว่าจะได้เงินอะไรมากมาย แต่ถ้าอันไหนดีเราบอกต่อให้ฟรีๆ เลย ชื่อ ซุปป้า มาGET เพราะคนที่มาดูเราก็น่าจะ GET อะไรสักอย่าง เราเองก็ต้อง GET อะไรจากการที่เราทำตรงนี้ด้วย


ถาม ซึ่ง พี่ใหม่ กับ พี่แจง ถึงว่าสนิทกันมาก ซึ่งพี่ใหม่เรียกพี่แจง ว่า แจง เทพลีลา

แจง วราพรรณ : เพราะเราเป็นคนเลท ชอบไปช้า เป็นเฉพาะกับเพื่อนๆ กลุ่มเพื่อนเราที่เราสนิท ที่เราไปช้า เพราะเรารู้ว่ากลุ่มนี้ยังไงก็ต้องรอ เพราะกลุ่มนี้เวลาร่วมตัวกันก็ต้องเมาท์ ก็ให้คุยกันไปก่อน กินกันไปก่อน เพราะว่าทุกครั้งที่ไปถึงอาหารก็จะเย็นหมดแล้ว ก็กินได้ พอเสร็จงานแล้วเราตามไป เพราะสนิทกัน เราเลยลีลาหน่อยได้ แวะซื้อกาแฟ เพราะชอบมีของไปฝากเพื่อนๆ แต่มีหลายๆคนที่เป็นแบบเรา แต่เพราะเขามาเร็วกว่าเรา แต่มาช้าก็หารเท่า เพื่อนเลยยังคบ


ถาม และในตอนนี้ชีวิตคือมุ่งหน้าเข้าสู่ทางธรรมมากขึ้น แต่เหล้าก็กิน

แจง วราพรรณ : ไม่ค่ะ วัดเข้า เหล้าชงให้คนอื่น แต่ที่ยังเห็นว่าไปเที่ยวอยู่เพราะว่าเพื่อนไปกัน เราก็ไป แค่เราไม่ดื่มเหล้าแต่กินกับเปลืองนิดหน่อย ไปสนุกๆ กับเพื่อน ก็มีไปคาราโอเกะ ร้องเพลงกับเพื่อนๆ

s__65749258

ถาม สามีเป็นคนอารมณ์ดีมาก

แจง วราพรรณ : จริงๆ เขาเป็นคนตลก แต่ถ้ามารายการเขาจะไม่มา แต่เขาจะไม่แสดงออกว่าตัวเองเป็นคนตลก จะเก็บภาพลักษณ์ ตอนที่อยู่บ้านด้วยกัน เปิดเพลงสนุกๆ ก็ชวนกันเต้น ปิดม่าน


ถาม ทางโลกก็ใช้ชีวิต ทางธรรมก็ใช้

แจง วราพรรณ : เราก็พยายามทำให้พอดีกัน เพราะจริงๆ ก็ไม่ควรไปทางไหนสุดไปในวัยแบบนี้ แต่อีกสักพักก็ไม่แน่ เราวางในเรื่องธุรกิจของเราได้บ้างแล้ว


ถาม เพราะด้วยที่เคยผ่านวิกฤตที่หนักมากในชีวิตมา ตอนนั้นเป็นอะไร

แจง วราพรรณ : ตอนนั้นเป็นมะเร็งเต้านม เราปฏิบัติธรรมมาก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่ได้ไปเข้าคอร์สสำนักอะไรนะคะ เราไปปีละครั้งสองครั้ง จริงๆ แล้วเราไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเรา มันก็ประมาณ 10 ปีได้แล้วที่ตอนนั้นเป็นมะเร็งเต้านม ใครเป็นก็จะต้องกระทบใจมาก ตอนที่เราเป็น เราฝึกสติมา เป็นก็ยอมรับความจริง ไปก็รับการรักษา ผมร่วง อะไรมันจะเกิดก็เกิด เราแค่อยู่กับความจริง ซึ่งเราเป็นต้นปี พอปลายปีก็กลับมา จริงๆ พอผ่าตัดแล้ว คุณหมอบอกว่าเราหายแล้ว ตรวจเช็คแล้ว ไม่มีเซลล์เนื้อร้ายในร่างกาย เราก็รับเคมีบำบัด คุณหมอพูดว่าจุดนี้คือหายแล้ว ซึ่งคำนี้มันก็สอนอะไรเราบางอย่าง ปัจจุบันหาย แต่ก็อยู่ที่เราจะกลับไปใช้ชีวิตเปลืองแบบเมื่อก่อนไหม ทำงานหนัก นอนน้อย กินอาหารไม่มีประโยชน์หรือเปล่า แต่สิ่งเหล่าเราถ้าเราดูแลตัวเองดี มันก็ไม่น่าจะกลับมา

 

Advertisement

แชร์
"แจง วราพรรณ" ใช้ธรรมะเยียวยาใจ ต่อสู้มะเร็งเต้านมกว่า 5 ปี