จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมาที่ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ระบุว่าไปซื้อทองคำที่ร้านทองย่านบางขุนนนท์ กรุงเทพฯ แล้วมาดูทองที่เก็บไว้ ปรากฎพบว่าเป็นทองปลอม ทำให้ได้รับความเสียหายนั้น
วันที่ 14 ธ.ค. 63 นางกนกวรรณ กรานแก้ว ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวเพิ่งทราบว่าเป็นทองปลอม ตนเองเพิ่งได้รับทองเส้นนี้มาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 63 โดยแม่เอาทองมาให้ตนเป็นของขวัญวันเปิดกิจการร้านอาหารที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแม่ให้ทองเป็นของขวัญ ตนเองก็เก็บไว้ จนกระทั่งเช้าวันที่ 9 ธ.ค. 63 ตนเองให้แม่นำมองคำเส้นดังกล่าวไปเพิ่มน้ำหนัก โดยเดิมน้ำหนักคือ 1 สลึง ตนจะเพิ่มให้เป็น 2 สลึง
เมื่อแม่นำทองไปที่ร้านทองในพื้นที่ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นร้านประจำ ปรากฏว่าร้านทองแจ้งว่าเป็นทองปลอม ถามว่าแม่ตนเอาทองไปถามร้านอื่นหรือยัง แม่ตนก็บอกว่ายัง ทางร้านจึงแจ้งว่า หากนำไปร้านอื่นที่ไม่สนิทกัน เขาอาจแจ้งความจับได้ ทำให้ตอนนั้นแม่ตนตกใจ และเกิดอาการช็อกมาหาตน มาบอกว่าเป็นทองปลอม ทำให้ตนเองและแม่รีบเดินทางขึ้นมาที่ กรุงเทพฯ เพื่อมาสอบถามเรื่องนี้ โดยวานนี้แม่ตนไปโรงพัก สน.บางขุนนนท์แล้ว แต่ตำรวจแจ้งว่าไม่มีหลักฐาน เพราะการซื้อทองของแม่ตน เป็นการซื้อด้วยความคุ้นชินกับร้านมาซื้อทองบ่อย ทำให้ไม่มีใบเสร็จของร้าน มีเพียงกล่องทองเท่านั้น แม่ตนจึงไม่ได้แจ้งความ เพราะก็กลัวจะถูกฟ้องกลับ
โดยวานนี้แม่ตนไปที่ร้านทองที่เกิดเหตุ มีญาติอัดเสียงสนทนาระหว่างคุยในร้านไว้ แม่ตนก็ยืนยันว่าเป็นทองจากที่ร้าน แต่ทางร้านโดยเจ้าของร้านปฏิเสธว่าทองไม่ใช่ของร้าน และไม่รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม พบว่าสีทองใกล้เคียงกับของจริงจนแทบแยกไม่ออก มีห่วงตะขอของทองที่บิดเบี้ยว ไม่เชื่อมติดกัน อีกทั้งยังไม่มีตราชื่อของบริษัทที่ทำทอง ซึ่งแม่ตนตอนไปซื้อก็ไม่ทันสังเกต
ทั้งนี้ ทองเส้นที่แม่บอกว่าซื้อมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมมูลค่า 7,000 บาท โดยแม่ไปซื้อเพียงลำพังที่ร้านทองตรงแยกบางขุนนนท์ซึงไม่ได้บอกใคร ตั้งใจเอาเก็บไว้ให้ตนในวันเปิดธุรกิจ ทางร้านยังแจ้งว่ากล้องวงจรปิดดูไม่ได้ ทำให้ครอบครัวไม่สบายใจ
อีกทั้งยืนยันว่าครอบครัวไม่มีทางโกง เพราะหากโกงหรือตั้งใจเอาทองปลอมไปขายก็ไม่รู้ต้องติดคุกกี่ปี ตนเองพูดมุมความรู้สึก หากตนเองไปซื้อทองคำที่ร้านทอง คงไม่มีใครคิดหรือต้องถามตรวจสอบว่าทองที่ซื้อมาจะเป็นทองปลอมหรือทองจริง อีกอย่างหากคิดมุมคนขาย ลูกค้าที่มาซื้อทองในร้านทอง แล้วถูกถามว่าทองในร้านปลอมหรือไม่ ก็คงรู้สึกไม่ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ แม่ตนยังมีทองคำที่ซื้อจากร้านนี้ติดตัวอยู่ ซึ่งนำไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทองจริงทั้งหมด หลังจากนี้ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาอยางไรต่อ เพราะตนเองก็ไม่มีหลักฐาน นอกจากกล่องของทางร้าน
ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านทองดังกล่าว พบว่าเปิดให้บริการปกติ เป็นร้านทองริมถนน 1 คูหา ร้านค่อนข้างเก่าแก่ นายวินัย ทิชากรสกุล เจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า เรื่องที่มีผู้เสียหายร้องเรียนเรื่องทองปลอมตนเองทราบเรื่องแล้ว โดยผู้เสียหายเข้ามาที่ร้านของตน
ตนเองยืนยันว่าทองที่ลูกค้านำมาเป็นทองปลอม แต่ทองไม่ใช่ของร้าน ลายทองแบบนี้ทางร้านก็ไม่มี โดยทางร้านก็ไม่แน่ใจว่าทองที่ซื้อไป ถูกเปลี่ยนโดยใครหรือไม่
ตนยอมรับว่าลักษณะลูกค้าแบบนี้ทางร้านเคยเจอมา 1 ครั้ง คือกล่าวหาว่าทองที่ร้านเป็นของปลอม สุดท้ายสืบทราบว่าทองคำถูกสับเปลี่ยนโดยญาติกันเอง ตนเองยินดีจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะตนเองเปิดร้านมา 40-50 ปี ไม่เคยมีปัญหา
อีกอย่างร้านตนตกทอดมารุ่นที่ 3 แล้ว ส่วนกล้องวงจรปิดที่ร้านมีแต่บันทึกภาพได้เพียง 7 วันเท่านั้น ซึ่งลูกค้ารายนี้มาที่ร้านตนจริง เคยเป็นลูกค้า ที่นาน ๆ มาซื้อที ไม่ได้มาประจำ