ความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้าน ที่ จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากที่ได้มีชายคนหนึ่ง อ้างตัวว่าสามารถเป็นพยานให้กับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ เนื่องจากตนอยู่ที่ตลาดนัดเรดซิตี้ในวันเกิดเหตุ และยังอ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เดินทางมาที่ตลาดแต่ไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่กลับไป นอกจากนี้ ชายรายนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่ากล้องวงจร ปิดที่ร้านทองฝั่งตรงข้ามกับตลาด น่าจะสามารถจับภาพเหตุการณ์ภายในตลาดไว้ได้
วันนี้ (17 เม.ย.) ทีมข่าวเดินทางมาพูดคุยกับ "
ลุงส้ม" ชายที่อ้างตัวเป็นพยานฝ่ายครูปรีชา ที่ตลาดเรดซิตี้ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่ตนจำได้แม่นเพราะวันที่ 31 ต.ค.60 ตนอยู่ในเหตุการณ์ และการที่ตนจำได้ว่าลุงจรูญแต่งกายอย่างไร เพราะตนเป็นอดีตทหารต้องช่างสังเกตและจดจำ แม้ตนจะอายุ 63 ปีแล้ว แต่ตนไม่ใช่คนความจำเสื่อม นอกจากลุงจรูญ ตนก็ยังจำครูปรีชาได้ว่าเดินสวนกัน แต่เขามาเอาหวยกับแม่ค้าตอนไหนนั้น ตนไม่ทราบ
ลุงส้ม ยังเล่าย้อนถึง ขณะที่ลุงจรูญเดินมาดูหวยที่ฝั่งซ้ายของศาลพระพรหม ซึ่งเป็น 2 สามีภรรยา กำลังตั้งแผงขายอยู่ แต่ลุงจรูญไม่ได้เดินดูแผงหวย ที่ฝั่งเจ๊เกียว, เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ตั้งแผงขาย จากนั้นลุงจรูญก็เดินกลับไปที่รถกระบะ ซึ่งตนเชื่อว่าลุงจรูญไม่ได้มีการซื้อขายหวยกับแผงใด เพราะจำไม่ได้ว่าซื้อกับใคร ตอนไหน ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจดจำเลข 6 ตัวบนสลากได้ แต่จำไม่ได้ว่าขับรถอะไรมาตลาด
ทั้งนี้ เรื่องการไปเป็นพยาน ตนยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากทนายความ แต่หากทนายความครูปรีชาไม่ได้นำตนไปเป็นพยานก็ไม่เป็นไร ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะตนจะได้ไม่ต้องไปขึ้นศาล แต่หากจะให้ไปเป็นพยานตนก็เป็นได้ แม้ตนจะเคยเจอครูปรีชาที่ตลาดเพียง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ส่วนพยานคนอื่นๆ ตนเชื่อว่าหากขึ้นศาลจะมีพยานอีกหลายคน และจะไม่มีพยานเท็จ ส่วนนายแผนนั้นตนไม่รู้จัก ส่วนตัวอยากให้ไปพิสูจน์กล้องวงจรปิดที่ร้านทองในตลาดเรดซิตี้ เพราะกล้องที่ร้านทองสามารถส่องภาพได้ไกล แต่ไม่มีใครได้หลักฐานกล้องจากร้านทองไป
ด้าน
นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 เม.ย. นี้ ตนต้องไปให้การที่กองบังคับการปราบปรามกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ตนต้องให้ปากคำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรมากนัก
ส่วนกรณีที่ตนถูกกล่าวหาว่ากลับคำให้การ ตนก็ยังงงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าตนไม่เคยให้การว่าเห็นคนก้มเก็บลอตเตอรี่ ทั้งนี้ตนไม่เคยคิดจะไปเป็นพยานในคดีนี้ตั้งแต่แรก จนกระทั่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เรียกให้ตนไปให้ปากคำ ตนจึงต้องไป เพราะกลัวว่าจะโดนออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ
นายแผน กล่าวอีกว่า กรณีที่ตนเคยไปบ้านของลุงจรูญ ขณะนั้นเจ้านายของตนไปทำธุระที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้เข้าไปในบ้าน แต่ลูกสาวลุงจรูญเชิญให้เข้าไป เพราะกลัวข้างบ้านจะได้ยินหรือรู้ว่าถูกลอตเตอรี่ ตนก็เข้าไปในบ้าน แต่จับรายละเอียดไม่ได้ว่าเขาคุยอะไรกับผู้บังคับบัญชาตน ทั้งนี้ตนจำได้อย่างแม่นว่าคนนี้คือคนที่ตนได้ยินเขาพูดกับภรรยาที่ตลาดว่าเก็บลอตเตอรี่ได้ ซึ่งตนได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจไม่ได้บอกใคร จนมาเล่าให้คนที่ทำงานฟังในภายหลัง
นายแผน ยังระบุว่า ตนไม่คิดจะไปเป็นพยานตั้งแต่เขาสอบปากคำกันที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี แต่ตนให้การกับภาค 7 อย่างเดียว ส่วนพยานรายอื่นๆ หรือแม้แต่นางสาวกุ้ง ตนก็ไม่เคยได้เจอ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าตนเป็นพยานให้กับครูปรีชาด้วย ตนก็รู้สึก งง และตกใจมากที่ถูกโยงไปว่าอยู่ในขบวนการ ซึ่งหากตนเป็นพยานฝั่งครูปรีชาจริง ก็ตรวจสอบการโทรศัพท์ได้เลยว่าไม่มีการโทรคุยส่วนตัว
นายแผน ยอมรับว่า ช่วงแรกที่ตนไม่อยากเข้ามาเป็นพยานเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาด้านคดีความ ตนกลัวว่าจะกระทบกับงาน ซึ่งตอนนี้ก็มีผลจริงๆ แล้ว ตนต้องออกจากงานและไม่ได้มีงานทำในช่วงนี้ ทำให้ขาดรายได้ ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะลูกสาวก็ยังเรียนอยู่ ต้องมีภาระค่าใช้จ่าย จากเป็นคนทำงานกินเงินเดือน จนตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เพียงเพราะผลพวงจากการเป็นพยานจึงทำให้ตนเดือดร้อน ถ้าหากการมาเป็นพยานแล้วต้องโดนจับแบบตน ต่อไปใครจะมาสมัครใจเป็นพยาน
ซึ่งนายแผน กล่าวกับทีมข่าวว่า สิ่งที่ตนได้ยินในตลาด อาจจะมีคนอื่นๆ ได้ยินก็ได้ ให้ลองสอบถามดู แต่อยู่ที่ใครจะกล้ายอมรับ เพราะในมุมตนมองว่าทุกคนคงกลัว แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเริ่มดีขึ้นแล้ว ส่วนพยาน 10 ปากของฝั่งครูปรีชา ตนไม่ทราบเลย ตนไม่รู้ว่าครูจะให้ตนไปเป็นพยานหรือเปล่า เพราะยังไม่มีใครติดต่อมา แต่หากติดต่อมา ตนก็คงต้องปรึกษากับทนายความและคุยรายละเอียดก่อน
สำหรับคนขายลอตเตอรี่ ตนยอมรับว่ารู้จักกับเจ๊เกียว ตอนที่ตนโดนคดีแล้ว ไปเจอกันที่ศาลไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ส่วน ดร.สุกิจ เขาเป็นญาติห่างๆ กับเจ๊เกียว แต่กับคุณฟ้าตนไม่ได้รู้จักส่วนตัว ทราบเพียงเขาสนิทกับพี่สาวครูปรีชา พอตนเข้ามากรุงเทพฯ เขาก็คอยอำนวยความสะดวกในการพาไปสถานที่ต่างๆ ให้ แต่การที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ตนเองไม่ทราบรายละเอียด
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ร้านทองจิวเจริญดี ซึ่งอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกับตลาดนัดเรดซิตี้ โดยร้านทองแห่งนี้อยู่ห่างจากจุดศาลพระพรหม หรือบริเวณจุดที่ตั้งแผงขายลอตเตอรี่ประมาณ 300 เมตร จากการสังเกตพบว่าที่หน้าร้านมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 7 ตัว ซึ่งมีกล้องหันเข้าหน้าตลาดจำนวน 4 ตัว หันไปบริเวณถนนฝั่งศาลพระพรหม 1 ตัว หันไปฝั่งถนนทางเข้าตลาดอีก 1 ตัว และที่หันไปฝั่งหลังร้าน 1 ตัว ซึ่งกล้องตัวนี้จะไม่หันเข้าตลาด
ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามกับเจ้าของร้านทอง ซึ่งให้ข้อมูลว่าในช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอภาพจากกล้องวงจรปิดไป แต่ตนไม่ทราบว่าได้ข้อมูลภาพอะไรไปบ้าง เพราะกล้องที่ร้านบันทึกภาพได้เพียง 1-2 สัปดาห์ ซึ่งช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอภาพไป เป็นช่วงหลังวันเกิดเหตุไปแล้ว 20 วัน เจ้าของร้านจึงคาดว่าน่าจะไม่มีข้อมูลภาพที่สามารถบันทึกไว้ได้ในวันเกิดเหตุ
นอกจากนี้ เจ้าของร้านยังบอกทีมข่าวด้วยว่า กล้อง 4 ตัว ที่หันหน้าเข้าตลาดทางร้านเพิ่งจะนำมาติดได้เมื่อช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนกล้องที่หันไปที่ถนนฝั่งศาลพระพรหมตลาดเรดซิตี้นั้น ไม่สามารถเก็บภาพได้จนถึงแผงขายลอตเตอรี่ เพราะระยะห่างระหว่างร้านทองกับแผงลอตเตอรี่ มีถนนกั้นอยู่ถึง 2 เลน ประกอบกับระยะห่างของกล้องวงจรปิดกับจุดที่ขายแผงลอตเตอรี่ค่อนข้างห่างกันถึง 300 เมตร
อย่างไรก็ตาม จากการที่ทีมข่าวได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง พบว่า ภาพกล้องวงจรปิดที่หันไปฝั่งศาลพระพรหมนั้น จะเห็นเพียงถนน 2 เลน ที่คั่นกลางระหว่างร้านทองกับตลาด และกล้องสามารถจับภาพถึงเพียงเฉพาะแผงร้านค้าที่ตั้งอยู่ด้านนอกติดกับริมถนน ไม่สามารถจับภาพไปจนถึงบริเวณร้านค้าภายในตลาดได้ และหากในวันที่มีตลาดนัด บรรดาร้านค้าที่นำเต๊นท์ผ้าใบมากาง ทำให้บดบังแผงร้านค้าจนไม่สามารถเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนนัก รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ยังไม่สามารถจับภาพไปไกลถึงแผงลอตเตอรี่บริเวณศาลพระพรหมได้
ส่วนกล้องอีกตัวที่หันไปบริเวณทางเข้าตลาด สามารถบันทึกภาพได้เฉพาะหน้าร้านทอง บริเวณถนนและแผงร้านค้าตลาดนัดเรดซิตี้ที่ติดริมถนนเท่านั้น