ศบค. เผย พิจิตร-พะเยา-เชียงราย-ราชบุรี ปลอดภัยแล้ว หลังไม่พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มใน 14 วัน ระบุ กรณีพยาบาล ASQ ติดเชื้อ ตรวจสิ่งแวดล้อมเจอเชื้อที่ลูกบิดประตู
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย 15 ธ.ค.ป่วยใหม่ 9 ราย
- สถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย 14 ธ.ค. พบติดเชื้อในประเทศ 1 ราย
- กทม.พบบุคลากรแพทย์ติดโควิด 1 ราย กินข้าว-พักอาศัย กับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า
วันที่ 16 ธ.ค. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และ นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19
ในกรณีท่าขี้เหล็กหากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ภายใน 14 วัน จะถือว่ากลับสู่สถานการณ์ปกติ โดย จ.พะเยา และ จ.พิจิตร ครบกำหนด 14 วัน เข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้วเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา จ.เชียงรายและ จ.ราชบุรี ครบกำหนดวันนี้ 16 ธ.ค.
จ.สิงห์บุรี วันที่ 18 ธ.ค. / จ.เชียงใหม่ วันที่ 19 ธ.ค. และ กทม.วันที่ 20 ธ.ค.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ขณะที่กรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 จากการทำงานใน ASQ กทม. จากการสำรวจสิ่งแวดล้อมใน ASQ พบเชื้อโควิด-19 บนลูกบิดประตู จึงขอให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ นอกจากพื้นผิวด้วย
ด้าน นพ.วิชาญ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของไทย ภาพรวมยังเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ากักกันตามระบบ ยังไม่มีติดเชื้อในประเทศเพิ่ม และไม่มีจังหวัดใดที่พบกลุ่มก้อนการระบาด ทุกพื้นที่มีความปลอดภัย ปีใหม่สามารถท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมได้ แต่ขอให้คงมาตรการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก และล้างมือ เพื่อป้องกันตนเอง และสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทยปลอดภัยจากโควิด-19
นพ.วิชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีผู้ป่วยโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับท่าขี้เหล็ก วันนี้มีรายงานเพิ่มเติม 3 ราย ตรวจพบใน LQ เชียงราย ยอดสะสมรวมเป็น 67 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อภายหลังเข้า LQ 48 ราย ลักลอบเข้ามา 17 ราย และติดเชื้อในประเทศ 2 ราย ทั้ง 7จังหวัดที่มีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับท่าขี้เหล็กนับว่าปลอดภัยแล้ว เนื่องจากผู้ป่วยรายใหม่เป็นการพบเฉพาะในระบบกักกัน โดยผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"สำหรับเชียงรายมีผู้เดินทางกลับมาจากท่าขี้เหล็กเข้าสู่ระบบกักกัน 248 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 35 ราย รักษาหายแล้ว 20 ราย มีการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจพื้นที่ โดยตรวจแล็บ 26,360 ตัวอย่าง ไม่พบเชื้อทั้งหมด ขอย้ำว่าคนเดินทางกลับมาจาก 7 จังหวัด ไม่ต้องกักตัว เนื่องจากไม่มีความเสี่ยง ไปเรียนและทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้ โรงเรียนหรือสถานประกอบการบางแห่งที่ให้นักเรียน ครู หรือพนักงานที่กลับมาจากเชียงรายและเชียงใหม่กักตัว เป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น ขอให้ทบทวน เนื่องจาก สธ.ไม่ได้มีคำแนะนำ หากสงสัยสอบถามสายด่วนกรมควบคุม 1422" นพ.วิชาญกล่าว
นพ.วิชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 7 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม จากการสอบสวนโรคพบว่า เป็นการติดเชื้อจากการปฏิบัติงานใน ASQ ไม่ใช่ในโรงพยาบาล ข้อสันนิษฐาน คือ มีบุคลากร 1 คนที่ไปสัมผัสผู้เข้าพักที่มีเชื้อ และนำไปแพร่กระจายในกลุ่มเพื่อนใกล้ชิดที่คลุกคลีกันนอกเวลางาน ไม่ได้แพร่กระจายต่อให้บุคลากรทางการแพทย์กลุ่มอื่นและเจ้าหน้าที่ ASQ
นพ.วิชาญ กล่าวอีกว่า ดังนั้น การระบาดจึงอยู่ในวงจำกัดและควบคุมได้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายได้รับการ
กักตัวและตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งตามมาตรฐาน ขณะนี้ตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้ง ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และนำไปสู่การทบทวนมาตรการของ ASQ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ตรวจสอบมาตรฐานและการบริหารจัดการของ ASQ อย่างเคร่งครัด และให้ รพ.เอกชนคู่สัญญาต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของบุคลากร (Safety officer) เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และแนวทางการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในระหว่างปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
Advertisement