น้องสาวร้องสายไหมต้องรอด พี่ชายป่วยไข้หวัด แต่พยาบาลฉีดยาผิด ทำอาการโคม่านอนในห้องไอซียู
วันที่ 23 ก.ย.67 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กทม. น.ส.ภรณ์ณภัส ม่วงสกุล อายุ 33 ปี เดินทางมาจาก จ.ชัยนาท เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีพี่ชาย ป่วยเป็นไข้ทางครอบครัวจึงพาไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 ทางโรงพยาบาลได้ให้นอนพักรักษาตัว 1 คืน
จากนั้นวันรุ่งขึ้นหมอแจ้งว่าคนไข้มีอาการดีขึ้นแล้ว แต่มีน้ำตาลตกเล็กน้อย เดี๋ยวหมอจะฉีดกลูโคสให้ ช่วงบ่ายๆก็สามารถกลับบ้านได้ จากนั้นพยาบาลได้นำเข็มฉีดยามาฉีดให้พี่ชาย ระหว่างฉีด จู่ๆพี่ชายก็เกิดอาการชักกระตุกอย่างรุนแรง ทีมแพทย์จึงได้รีบนำพี่ชายเข้าห้อง ICU ทันที
ต่อมาหมอได้ออกมาแจ้งญาติว่า พยาบาลฉีดยาผิด คาดว่าสาเหตุเกิดจากพยาบาลเข้าเวรติดต่อกันหลายวันโดยไม่ได้พัก ครอบครัวพยายามสอบถามหมอว่ายาที่ฉีดผิดคือยาอะไร ทำไมพี่ชายถึงชักตาตั้งขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ต่อมาอาการพี่ชายได้ทรุดหนัก ทางโรงพยาบาล จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ห้อง ICU โรงพยาบาลชัยนาทเมื่อพี่ชายไปถึงโรงพยาบาลชัยนาท หมอได้เข้ามาสอบถามว่า ญาติรู้ไหมว่าผู้ป่วยเป็นอะไรมา ทางครอบครัวจึงแจ้งว่าทราบเบื้องต้นว่าทางพยาบาลฉีดยาผิด แต่ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร ทางหมอ รพ.ชัยนาท ถึงแจ้งว่าถ้าอยากรู้ต้องกลับไปถามโรงพยาบาลแรก ตอนนี้ทางหมอ รพ.ชัยนาท มีหน้าที่รักษาเท่านั้น
ทำให้จนถึงปัจจุบันครอบครัวก็ยังไม่ทราบเลยว่าพี่ชายถูกฉีดยาอะไรเข้าไป จนทำให้ต้องเข้าพักรักษาตัวที่ห้อง ICU นานกว่า 10 วัน วันนี้พี่ชายก็ยังอาการไม่ดีขึ้น ยังเหม่อลอย ลิ้นแข็ง ถามตอบยังไม่ได้ จากพี่ชายไม่เคยมีโรคประจำตัว ตอนนี้เกิดอาการแทรกซ้อนที่ตรวจพบตอนนี้คือปอดบวม หมอบอกต้องรักษาระยะยาว ยังไม่รวมกับการมีอาการแทรกซ้อนอื่นอีก ไม่รู้ว่าหลังจากได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วจะเดินได้ปกติไหม เพราะขาคนไข้ไม่มีแรง
จึงตัดสินเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อให้สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คดีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้ในนำเรื่องดังกล่าวมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังรับแจ้ง ได้ประสานไปยัง ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป.
Advertisement