เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Microsoft ประกาศเปิดตัวข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพใหม่และ เครื่องมือ AI รวมถึงคอลเลกชันของโมเดลภาพทางการแพทย์ บริการตัวแทนด้านการดูแลสุขภาพ และโซลูชันการจัดทำเอกสารอัตโนมัติสำหรับพยาบาล
จุดประสงค์ของการเปิดตัวในครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อช่วยให้องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ สามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้เร็วขึ้น และประหยัดเวลาของแพทย์ในการทำงานด้านธุรการ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเหนื่อยล้าในอุตสาหกรรม สอดคล้องตามรายงานจากสำนักงานศัลยแพทย์ทั่วไปที่ระบุว่า พยาบาลใช้เวลามากถึง 41% ไปกับงานเอกสาร
Mary Varghese Presti รองประธานฝ่ายพัฒนาและบ่มเพาะ Microsoft Health and Life Sciences กล่าวว่า ”เป้าหมายของเรา คือ การลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของทีมงานด้านสุขภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบดูแลสุขภาพทั่วประเทศ ด้วยการบูรณาการ AI เข้ากับการดูแลสุขภาพ”
เครื่องมือใหม่นี้ ถือเป็นตัวอย่างล่าสุดของความพยายามของ Microsoft ในการสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำด้าน AI ด้านการดูแลสุขภาพ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวฟีเจอร์ด้านสุขภาพ บนแพลตฟอร์มคลาวด์ Azure และ Fabric analytics
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เข้าซื้อ Nuance Communications ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน AI ที่แปลงคำพูดเป็นข้อความสำหรับการดูแลสุขภาพและภาคส่วนอื่นๆ ในข้อตกลงมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 533,600 ล้านบาทในปี 2021
โซลูชันจำนวนมากที่ Microsoft ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี อยู่ในระยะเริ่มต้นของการพัฒนา หรือมีให้บริการในรูปแบบพรีวิวเท่านั้น องค์กรด้านการดูแลสุขภาพจะทดสอบและตรวจสอบโซลูชันเหล่านี้ก่อนที่บริษัทจะนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ทั้งนี้ Microsoft ปฏิเสธที่จะเปิดเผยราคาของเครื่องมือใหม่เหล่านี้
ปัจจุบัน ประมาณ 80% ของการไปโรงพยาบาลและระบบสาธารณสุข จะต้องมีการตรวจและวินิจฉัยโรคผ่านภาพเอ็กสเรย์ หรือภาพชิ้นเนื้อ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย แต่บางครั้ง การแปลงรูปเข้าสู่ระบบดิจิทัล ต้องใช้เวลาและต้องการพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อ
Microsoft กำลังเปิดตัวคอลเล็กชันโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สหลายโหมด ที่สามารถวิเคราะห์ประเภทข้อมูลได้มากกว่าแค่ข้อความ เช่น ภาพทางการแพทย์ ข้อมูลบันทึกทางคลินิก และข้อมูลจีโนม เพื่อให้องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ สามารถใช้โมเดลเหล่านี้เพื่อสร้างแอปพลิเคชันและเครื่องมือใหม่ๆ
เช่น สไลด์พยาธิวิทยา หากต้องการแปลงรูปตัวอย่างเข้าสู่รูปแบบดิจิทัลเพียงสไลด์เดียว อาจต้องใช้พื้นที่จัดเก็บมากกว่า 1 กิกะไบต์ แต่โมเดลพยาธิวิทยา AI ที่มีอยู่มากมาย ได้รับการฝึกฝนจากสไลด์ชิ้นเล็กๆ ทีละชิ้น
Microsoft และ Providence Health & Services ได้สร้างโมเดลสไลด์ทั้งหมด ซึ่งปรับปรุงการคาดการณ์การกลายพันธุ์ และการแบ่งประเภทย่อยของมะเร็ง ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถสร้าง และปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้
Sara Vaezy หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัลของ Providence กล่าวกับ CNBC ว่า “การได้แบบจำลองพื้นฐานแบบสไลด์ทั้งหมดสำหรับพยาธิวิทยาเป็นความท้าทายในอดีต... และตอนนี้เราสามารถทำได้แล้ว นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ”
ทั้งนี้ โมเดลต่างๆ มีอยู่ในแค็ตตาล็อกโมเดลใน Azure AI Studio ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการพัฒนา Generative AI ของ Microsoft
นอกจากนี้ Microsoft ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ ตัวแทน AI ด้านสุขภาพ หรือ AI Healthcare Agent ซึ่งมีความซับซ้อนแตกต่างกันไป แต่สามารถช่วยให้ผู้ใช้ตอบคำถาม ทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ และดำเนินการงานเฉพาะต่างๆ ได้
โดยองค์กรต่างๆ สามารถสร้างตัวแทนที่มีระบบป้องกันเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ ได้ผ่าน Microsoft Copilot Studio เมื่อคำตอบมีการอ้างอิงถึงหลักฐานทางคลินิก ระบบจะแสดงแหล่งที่มา และจะมีหมายเหตุระบุว่า “คำตอบนั้นสร้างขึ้นโดย AI” และยังระบุด้วยว่า มีการปลอมแปลงหรือละเว้นข้อมูลด้วยหรือไม่
ตัวอย่างเช่น แพทย์สามารถพิมพ์คำถามว่า “การทดลองทางคลินิกใดสำหรับผู้ชายวัย 55 ปีที่เป็นโรคเบาหวานและโรคปอดเรื้อรัง” และรับรายการตัวเลือกที่เป็นไปได้ วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลา และความพยายามของแพทย์ในการค้นหาการทดลองกับผู้ป่วยในแต่ละครั้ง
ในเดือนสิงหาคม Microsoft ประกาศว่า ขั้นตอนต่อไปของการเป็นพันธมิตรกับ Epic Systems หรือผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการดูแลสุขภาพ ที่เก็บข้อมูลจากกว่า 280 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา คือ การสร้างเครื่องมือจัดทำเอกสารที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับพยาบาล
เมื่อปีที่ผ่านมา Microsoft เคยเปิดตัวเครื่องมือจัดทำเอกสารอัตโนมัติสำหรับแพทย์ที่มีชื่อว่า DAX Copilot โดย AI จะแปลงข้อมูลเป็นบันทึกทางคลินิกและจัดทำสรุปโดยอัตโนมัติ ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในปีนี้ เพราะช่วยประหยัดเวลาและลดภาระงานด้านการบริหาร
แต่จนถึงขณะนี้ DAX Copilot เปิดให้ใช้งานเฉพาะแพทย์เท่านั้น ทำให้การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น กำลังสร้างเครื่องมือที่คล้ายกันซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับพยาบาลด้วย ตามที่ Microsoft กล่าว
Presti กล่าวว่า เวิร์กโฟลว์ของพยาบาลแตกต่างจากเวิร์กโฟลว์ของแพทย์มาก และโซลูชันใดๆ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับพยาบาล จะต้องบูรณาการกับวิธีการทำงานของพวกเขา ทีมงานของ Microsoft ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการติดตามพยาบาลในระหว่างกะงาน เพื่อดูว่าพวกเขาทำงานอย่างไร และค้นหาว่า จุดไหนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดตลอดทั้งวัน
ทั้งนี้ Microsoft กำลังทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น Stanford Health Care, Northwestern Medicine, และ Tampa General Hospital เพื่อพัฒนาระบบดังกล่าว
ที่มา CNBC