พยานเด็ด แฉ "จรูญ" มั่ว ชี้จุดผิดไม่มีแผงหวย - แม่ค้าร้านนม ยันอีกเสียง ย้ำ เห็น "ปรีชา" ซื้อเลขเด็ด (คลิป)

ความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้าน ที่ จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากที่ได้มีชายคนหนึ่ง อ้างตัวว่าสามารถเป็นพยานให้กับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ เนื่องจากตนอยู่ที่ตลาดนัดเรดซิตี้ในวันเกิดเหตุ และยังอ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เดินทางมาที่ตลาดแต่ไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่กลับไป นอกจากนี้ ชายรายนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่ากล้องวงจร ปิดที่ร้านทองฝั่งตรงข้ามกับตลาด น่าจะสามารถจับภาพเหตุการณ์ภายในตลาดไว้ได้นั้น

วันนี้ ( 18 เม.ย.) ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ตลาดเรดซิตี้อีกครั้ง โดยได้พบกับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งได้กล่าวกับทีมข่าวว่า วันนี้ตนมาซื้อกับข้าวเพราะตอนเย็นจะทำน้ำพริกปลาทอด ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็ทักทายให้กำลังใจตนเป็นอย่างดี หลายคนก็เป็นแฟนคลับตนด้วย ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดจะไปเป็นพยานหรือไม่ เพราะทางทนายความจัดการให้ ส่วนกระแสที่มีข่าวมาว่ามีการจ้างพยานนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง และขอยืนยันว่าไม่มีการจ้างวานกัน เพราะตนไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง ก่อนขึ้นศาลทีมทนายก็ไม่ได้ให้เตรียมความพร้อมอะไรเป็นพิเศษ เพราะอย่างไรก็ต้องพูดความจริง สงกรานต์ปีนี้ตนก็สรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนตัวได้ขอพรให้ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ให้เป็นกัลยาณมิตรที่ดีแก่กัน หลังจบคดีไม่มีการโกรธเคืองใคร ตนอโหสิกรรมให้ทุกคน แต่ด้านคดีก็ต้องดำเนินไปหากใครหมิ่นประมาทตน และช่วงหลังสงกรานต์ ทีมทนายก็เตรียมที่จะฟ้องร้องแก่ผู้ที่ละเมิดตนเอง ส่วนตัวยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง แต่มีหลายคนที่ตนอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะคนเหล่านี้ไม่รู้ว่าใครผิดหรือถูกก็ออกมาต่อว่าเขา ทั้งที่เขายังไม่มีความผิด ส่วนจะมีทนายษิทราหรือไม่ตนยังไม่ทราบ ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีขบวนการนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีเพราะแม่ค้าทุกคนพูดตามความจริง ขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะมีใครไปให้กำลังใจตนที่ศาลหรือไม่ แต่ตนมีกำลังใจที่ดีคือครอบครัวส่วนใครจะตำหนิติเตียนตน ตนก็ไม่ว่าเพราะทุกคนมีเหตุผลตนยอมรับความเห็นทุกคน นอกจากนี้ครูปรีชายังกล่าวถึงหนังสือที่กำลังเขียนอยู่ว่า แม้ท้ายที่สุดตนจะแพ้หรือชนะคดี ตนก็จะเขียนหนังสือออกมาเป็นความรู้และประสบการณ์ในการเตรียมความพร้อมให้กับคนที่มีคดี โดยครูปรีชาระบุว่าได้ตั้งชื่อหนังสือ เรื่อง คำพิพากษาของสังคม (Social Sanction) แรงบรรดาลใจ รวมความรู้ ความคิดเห็นและประสบการณ์ในการต่อสู้คดีหวย 30 ล้าน

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาคุยกับ ลุงส้ม บุคคลที่อ้างตัวเป็นพยานฝ่ายครูปรีชา ยืนยันว่า ตนเป็นพยานตั้งแต่แรก และไม่เคยมีใครมาจ้างตนไปเป็นพยาน การที่ตนออกมาเป็นพยานก็เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมรับสารภาพ ว่าตัวเองเก็บลอตเตอรี่ได้ ซึ่งในตอนแรกตนก็ตั้งใจจะให้ข่าวในเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อตน ตนจึงหยุดออกมาพูดและไม่เคยไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี หรือ ที่ตำรวจภาค 7 โดยขณะนี้เห็นว่าเรื่องถึงศาล ตนจึงกล้าออกมาพูด ทั้งนี้ตนไม่ได้เห็นว่าใครเก็บได้ เพียงแต่ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเขาซื้อลอตเตอรี่ในวันนั้น ซึ่งขณะที่ตนเห็นเป็นช่วงที่ตนเอาของที่ซื้อจากตลาดไปวางไว้ใกล้ศาลพระพรหม ขณะเดียวกันก็เห็นว่าลุงจรูญมาเดินดูลอตเตอรี่พอดี แล้วภรรยาลุงจรูญก็เดินมาดึงตัวเข้าไปในตลาด จากนั้นตนลืมของไว้ที่ร้านค้าก็กลับเข้าไปเอาของในตลาด พอออกมาจากตลาดอีกครั้งตนก็กลับนั่งที่ศาลพระพรหม ก่อนที่จะเห็นลุงจรูญและภรรยาออกมาจากตลาดเพื่อเดินทางไปขึ้นรถกลับ ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดของร้านทอง ไม่สามารถจับภาพไปถึงหน้าศาลพระพรหมนั้น ตนก็ไม่แน่ใจ เพียงเห็นว่ามีกล้องอยู่เท่านั้น ส่วนภาพที่ถูกบันทึกไว้ก็คงลบไปหมดแล้วเพราะเกินระยะเวลา 3 เดือน อย่างไรก็ตามตนมองว่าลุงจรูญไปชี้จุดซื้อหวยผิดแน่นอน เพราะไปชี้จุดที่หน้าศาลพระพรหมตรงจุดร้านขายนมดัชมิลค์ ซึ่งจุดที่ขายหวยต้องขายข้างๆศาลพระพรหมเท่านั้น ซึ่งการชี้จุดผิดตนมองว่าย่อมมีผลต่อรูปคดี อีกทั้งก่อนหน้านี้ลูกสาวลุงจรูญ ก็เคยมาถามแม่ค้าละแวกนั้นว่าเขาขายหวยกันบริเวณไหนอีกด้วย

ด้าน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด มาร่วมพูดคุยใน “รายการต่างคนต่างคิด” กล่าถึงกรณีที่พยานจำเหตุการณ์ว่า ร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่ได้ เพราะขณะนั้นคดียังไม่เป็นข่าวดังจน ร.ต.ท.จรูญ เป็นที่รู้จัก และไม่มีเหตุการณ์จูงใจที่จะสามมารถจำ ร.ต.ท.จรูญ ได้เลย ทั้งนี้ ในการสักพยาน ถ้าจำ ร.ต.ท.จรูญ ได้ ก็ต้องจำได้ด้วยว่า วันที่ 30 ต.ค. 60 ใครมาดูลอตเตอรี่แล้วซื้อหรือไม่ซื้อ ทั้งยังต้องจำไปถึงวันอื่นๆ ได้ด้วย เพราะในศาลต้องสักพยานอย่างละเอียด เพื่อเปรียบเทียบความเป็นจริง

ด้าน น.ส.ปาณภัสสรณ์ พิมพ์พัฒน์ หรือ "เจี๊ยบ" แม่ค้าร้านขายนมดัชมิลค์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ตั้งร้านขายนมอยู่ที่บริเวณหน้าศาลพระพรหม ตรงพื้นกระเบื้องของศาลแต่พอหลังเกิดคดีหวยทางตลาดได้จัดระเบียบใหม่ให้ลงมาขายที่พื้นคอนกรีตของตลาดแทน ซึ่งปกติแล้วบริเวณหน้าศาลพระพรหมจะไม่มีแผงลอตเตอรี่มาตั้งขาย เพราะแผงลอตเตอรี่จะขายเฉพาะบริเวณขวามือและซ้ายมือฝั่งทางเข้าตลาดของศาลพระพรหมเท่านั้น ส่วนแผงลอตเตอรี่ในตลาดตนไม่ทราบว่ามีกี่แผง ส่วนตัวก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมตอนลุงจรูญมาชี้จุดขายหวยนั้น จึงชี้มายังจุดที่ตนตั้งรถเข็นขายนมอยู่หน้าศาลพระพรหม เพราะตรงจุดนั้นไม่ได้มีแผงขายลอตเตอรี่ ซึ่งในวันที่ลุงจรูญมาจำลองเหตุการณ์เป็นวันที่ไม่มีตลาดนัดเรดซิตี้ คุณเจี๊ยบ ยังเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า วันนั้นตนเห็นครูปรีชาเดินทางมาที่ตลาดเพื่อมาเอาหวยที่สั่งไว้ ซึ่งตนได้ยินครูถามเจ๊บ้าบิ่นว่า "หวยที่สั่งไว้ได้หรือเปล่า" แต่ตนไม่รู้ว่าเจ๊บ้าบิ่นได้ส่งสลากให้ครูกับมือหรือไม่ เพราะตนขายของอยู่และไม่ได้หันไปมอง ก่อนหน้านี้ตนก็ได้ยินเจ๊บ้าบิ่นถามเจ๊พัชว่ามีหวยลงท้ายเลข 26 หรือไม่ ลูกค้าจะเอา จากนั้นเจ๊พัชก็นำสลากให้เจ๊บ้าบิ่นไป แต่ตนไม่ทราบว่าสลากที่ส่งให้นั้นมีเลขอะไรบ้าง เพราะตนไม่เห็นตอนยื่นให้เพราะตนกำลังขายของอยู่ เพียงแต่ได้ยินว่าคุยกันเรื่องนี้ จากนั้นประมาณ 16.00 น. ครูปรีชาก็มารับลอตเตอรี่ไป

อย่างไรก็ตาม ทาง ตร.ภาค 7 เคยมาขอความร่วมมือให้ตนไปเป็นพยานแวดล้อม เพราะตนอยู่ใกล้กับบริเวณนั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สอบปากคำตนไปว่า เคยเห็นครูปรีชาและลุงจรูญ มาที่ตลาดนัดหรือไม่ รู้จักกับใครในสองคนนี้เป็นพิเศษหรือไม่ นอกจากนี้ คุณเจี๊ยบยังบอกกับทีมข่าวว่า ทั้งสองคนไม่ใช่ลูกค้าประจำของตน และไม่เคยเห็นลุงจรูญมาที่ตลาด อาจเป็นเพราะว่าตลาดนัดมีทางเข้าหลายทาง ซึ่งหากลุงจรูญเข้ามาทางศาลพระพรหมที่ตนขายของอยู่ ตนก็น่าจะต้องเห็นว่าเขาเดินผ่านไปมาบ้าง และตนยืนยันว่าไม่เคยเห็นลุงจรูญเดินผ่านร้านตน ส่วนภรรยาลุงจรูญ อาจจะเคยมาแต่ตนก็ไม่เคยเห็นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ตนไม่ได้รู้จักกับครูเป็นการส่วนตัว หากครูปรีชาให้ตนไปเป็นพยานหรือให้ปากคำเฉพาะในส่วนที่ตนเห็น ตนก็สามารถที่จะไปให้ข้อมูลได้ เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น เพียงแต่ไม่ได้เห็นตอนที่เขาส่งสลากให้กันเท่านั้น