วันที่ 17 ธ.ค. 63 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครสมุทรสาคร นำรถน้ำเข้าทำการฉีดทำความสะอาดบริเวณตลาดกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมฉีดยาน้ำฆ่าเชื้อพื้นถนน แพกุ้งในตลาดทั้งหมดกว่า 30 แพ ภายหลังพบเจ้าของแพกุ้งรายหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวที่ รพ.สมุทรสาคร
เบื้องต้น ได้ข้อมูลว่าเจ้าของแพกุ้งมีอาการป่วยจึงไปตรวจที่ รพ.มหาชัย ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด จึงแจ้งผู้ป่วยให้ทราบ พร้อมนำตัวส่งยัง รพ.สมุทรสาคร เพื่อกักตัว ก่อนรายงานจังหวัดทราบ ขณะที่ทางด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร จึงสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดฯ เร่งสอบสวนโรค และตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยอย่างละเอียด
เปิดไทม์ไลน์เคสดังกล่าว พบผู้ป่วยเป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย เจ้าของแพกุ้ง ตลาดค้าอาหารทะเล จ.สมุทรสาคร เริ่มป่วยวันที่ 13 ธ.ค.63 ด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น วันที่ 17 ธ.ค.ยืนยันพบเชื้อ
วันที่ 1 -13 ธ.ค.63
ผู้ป่วยขายของที่แพกุ้ง เวลา 06.00-11.00 น. ทุกวัน
1.ลูกชายคนที่ 1 (ชาย 39 ปี) (รอผลกักกันที่ รพ.)
2.ลูกจ้างพม่า 1 (ชาย 40 ปี)
3.ลูกจ้างพม่า 2 (ชาย 48 ปี)
(อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน) เริ่มป่วยวันที่ 13 ธ.ค.63 ด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น
วันที่ 16 ธ.ค.63
บุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย (เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลไม่พบเชื้อ)
วันที่ 17 ธ.ค.63
เวลา 02.30 น. ผู้ป่วยมาแยกกักกันที่ รพ.สมุทรสาคร
เวลา 08.00 น. ส่งตรวจยืนยันอีกครั้ง ผลพบเชื้อ
ส่วนผู้ใกล้ชิดที่ถูกกักกันตัวไว้เพื่อเฝ้าดูอาการด้วยนั้น มีด้วยกัน 4 กลุ่ม ทั้งหมดรวม 18 คน ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ลูกชายคนที่ 2 (ชาย 31 ปี) กับเพื่อนลูกชาย (หญิง 25 ปี) ผลไม่พบเชื้อ กักกันที่ รพ.สมุทรสาคร
กลุ่มที่ 2 มารดาผู้ป่วยติดเตียง (หญิง 95 ปี), น้องชายผู้ป่วย (ชาย 57 ปี), น้องสะใภ้ (หญิง 57 ปี), พี่สาวคนโต (หญิง 73 ปี), แม่บ้าน (หญิง 56 ปี) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลกักกันที่บ้าน
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยในช่วงขายของ คือ ลูกชายคนที่ 1 (ชายอายุ 39 ปี) กักกันตัวที่โรงพยาบาล, ลูกจ้างพม่าชาย 40 ปี กับลูกจ้าพม่าชาย อายุ 48 ปี อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่าง และกักกัน
กลุ่มที่ 4 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวดินทางไปยังตลาดมหาชัย ซึ่งเป็นคนละตลาดกับที่ติดโควิด พบว่าช่วงค่ำยังมีร้านขายอาหารทะเลเปิดอยู่บางร้าน แม่ค้าต้องคอยตะโกนบอกว่าให้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย
จากการสอบถามแม่ค้าร้านอาหารทะเล บอกว่า หลังมีข่าวแบบนี้ตนเองก็กลัว แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เพราะเราก็ต้องทำมาหากิน ก็ต้องออกมาขายของ ซึ่งที่ร้านมีกระปุกเจลแอลกอฮอล์ตั้งไว้ให้สำหรับล้างมือ และหากลูกค้าคนไหนไม่ได้ใส่แมสก์มา ทางร้านก็มีแมสก์ให้ และถ้าให้แล้วเขาไม่ใส่ ก็จะไม่ขายของให้ เพราะเราก็ต้องป้องกันให้ดีที่สุด
ทีมข่าวอมรินทร์เข้าตรวจสอบตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร บริเวณร้านแพฤดีที่มีเจ้าของร้านติดโควิด-19 ซึ่งจะเห็นได้ว่าปิดไปแล้ว อีกทั้งยังปิดไฟและเก็บของภายในร้านทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย
นายศุภร อายุ 59 ปี เพื่อนผู้ติดเชื้อโควิด กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ติดโควิด-19 แต่เนื่องจากตนไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว เพราะทางผู้ติดโควิด-19 ไม่ได้เข้ามายังแผงที่ตนอยู่ อีกทั้งผู้ติดโควิด-19 จะอยู่ตลาดกุ้งป็นตลาดที่อยู่ห่างออกไปจากตลาดที่ตนอยู่ ส่วนตนกลัวระแวงเรื่องการติดโควิด รู้สึกว่าใกล้ตัวเราขึ้นมาแล้ว ไม่ค่อยปลอดภัย จากที่ระยะหลังมาตรการป้องกันค่อนข้างผ่อนคลายกำลังดีขึ้น แต่ระยะหลังเมื่อทราบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ในละแวกนี้กังวลเรื่องการใช้ชีวิต เพราะกลัวว่าจะขาดรายได้ค่อนข้างเยอะ
ส่วนร้านตนมีการป้องกันเบื้องต้นโดยการใช้แมสก์และใช้เจลล้างมืออยู่ตลอด เป็นการป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้มในเรื่องมาตรการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากก่อนออกจากบ้าน โดยใช้มาตรการตามที่ จ.สมุทรสาครเคยประกาศใช้ คือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
เวลาประมาณ 18.30 น. ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สสจ.สมุทรสาคร, รพ.สมุทรสาคร และกรมควบคุมโรค (สคร.5 ราชบุรีกองระบาดวิทยา) ได้นำห้องตรวจปลอดเชื้อเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์ตรวจเชื้อโควิด-19 ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ขณะที่เข้าตรวจนั้นมีจำนวนกว่า 100 คน ส่วนที่เหลือได้แยกย้ายกันกลับห้องพักที่เช่าอยู่ที่อื่นไปแล้ว แต่ทั้งนี้ทีมปฏิบัติการฯก็จะได้เข้าตรวจอีกครั้งในช่วงเช้ามืดของวันถัดไป เพื่อตรวจหาเชื้อในกลุ่มแรงงานที่เข้ามาทำงานแต่เช้าและยังไม่ได้รับการตรวจคัดกรองโรคต่อไป