หนุ่มเมากร่างขับปาดหน้ารถพยาบาล ทำไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่ทันการณ์ สิ้นใจกลางทาง

22 ธ.ค. 63

ตร.รวบตัวถึงบ้าน หนุ่มเมากร่างขับรถปาดหน้ารถพยาบาลจะไปรับผู้ป่วยฉุกเฉิน สุดท้ายผู้ป่วยไปไม่ถึง รพ.เสียชีวิตระหว่างทาง เจ้าตัวพอเห็นหน้า ตร.ถึงกับสร่าง ด้านครอบครัวผู้ตายเตรียมแจ้งความเอาผิดเพิ่ม

เกิดเหตุสุดสลดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. 63 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยาบาลกู้ชีพของโรงพยาบาลสมุทรปราการ ไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินหมดลมหายใจ ที่บ้านพักหลังหนึ่งในซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ ระหว่างทางบนถนนสุขุมวิท รถพยาบาลซึ่งเปิดสัญญาณและเสียงฉุกเฉินเพื่อขอทาง แต่ปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนึ่ง ซ่งทราบภายหลังว่ามีนายสัมฤทธิ์ มณีฤทธิ์ อายุ 38 ปี เป็นคนขับ ได้ขับขวางทางรถพยาบาลอยู่นาน จนเจ้าหน้าที่ตัดสินใจเปลี่ยนเลน เพื่อเร่งไปรับผู้ป่วยให้เร็วที่สุด  แต่นายสัมฤทธิ์ไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว กลับขับรถปาดเข้าซ้ายขวางทาง พร้อมเปิดกระจกควักมือเรียกรถพยาบาลให้จอดข้างทาง ก่อนจะเดินลงมาต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เจ้าหน้าที่พยามอธิบายและร้องขอให้รถพยาบาลเข้าไปรับผู้ป่วยก่อนเนื่องจากอาการวิกฤตและหยุดหายใจ แต่นายสัมฤทธิ์ไม่สนใจ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉ! นาทีเจอกระบะขับขวางรถพยาบาล ส่อคุกเจตนาให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ญาติให้อโหสิกรรม 2 คนขับรถตู้ขวางรถพยาบาลทำคนตาย เชื่อเป็นชะตากรรม
โซเชียลแห่จองกฐิน "แว้นล้อลอย" โจ๋ซิ่งปิดเลนรถพยาบาล ทำผู้ป่วยดับ

ขณะที่คลิปวิดีอีกคลิปหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ทั้งทีมกู้ชีพและกู้ภัยพยามช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตผู้ป่วยชายวัย 46 ปี ระหว่างที่รอรถพยาบาลกู้ชีพจากโรงพยาบาลสมุทรปราการมารับตัว แต่สุดท้ายผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตระหว่างทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้นหลังจากที่แยกย้ายกันระหว่างรถนายสัมฤทธิ์ กับรถพยาบาล นายสัมฤทธิ์ได้โทรศัพท์เข้าไปยังศูนย์สั่งการระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน จ.สมุทรปราการ เพื่อร้องเรียนกล่าวหารถพยาบาล อ้างว่ารถพยาบาลคันดังกล่าวไม่มีเหตุฉุกเฉิน แต่เปิดสัญญาณไฟและเสียง เพราะไม่ได้ขับเร็วแต่อย่างใด หากมีเหตุจริงจะต้องขับเร็วกว่านี้

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตครั้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมกู้ชีพได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าจับกุมนายสัมฤทธิ์ ที่บ้านพักพร้อมกับพบรถคันก่อเหตุจอดอยู่ที่หน้าบ้าน เจ้าตัวทันทีที่พบตำรวจและรู้ว่าจะต้องถูกคุมตัวส่งโรงพักดำเนินถึงกับหน้าซีด ฝ่ายมารดาถึงกับเอ่ยปากร้องขอเจ้าหน้าที่ไม่ให้จับกุมตัวลูกชาย เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว ตำรวจยังได้คุมตัวนายสัมฤทธิ์ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด พบว่าสูงถึง 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงถูกคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา, ขับรถกีดขวางเส้นทางรถพยาบาลนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 76  นอกจากนั้นอาจถูกแจ้งข้อหาหนักอีกกระทงคือ เข้าข่ายกระทำความผิดโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือกระทำโดยเจตนาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางด้านพนังสอบสวนแล้ว ขณะที่มีรายงานว่าทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเตรียมแจ้งความเอาผิดเพิ่มด้วยเช่นกัน

ด้าน น.ส.สุเบญจา บวรพรเกษม พยาบาลวิชาชีพที่อยู่ในรถพยาบาลคันเกิดเหตุ เล่าว่าขณะที่รถพยาบาลกำลังเดินทางกลับจากส่งผู้ป่วยเคสแรก เมื่อมาถึงหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์สั่งการได้วิทยุเรียกแจ้งว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉินกำลังทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอยู่ จึงรีบเดินทางไปยังบ้านผู้ป่วยโดยการเปิดสัญญาณไฟวับวาบและเสียงฉุกเฉิน เมื่อรถพยาบาลผ่านพ้นแยกโค้งโพธิ์สังเกตเห็นว่ามีรถคู่กรณีพยามขับตีคู่แข่งกับรถพยาบาล ก่อนจะปาดหน้ากะทันหัน จึงตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่นายสัมฤทธิ์ผู้ก่อเหตุ หลังถูกจับกุม ได้ออกมายอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษสาเหตุที่ทำไปเพราะอ้างว่ารถพยาบาลจี้ตูดมา ยอมรับว่าเห็นไฟฉุกเฉินแต่อ้างว่าไม่ได้ยินเสียง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งเข้าห้องขังเพื่อรอสอบปากคำดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ