"แซนวิช ปภาดา" รับโล่งอกหลังศาลพิจารณายกฟ้องคดีหมิ่น "อีฟ แม็กซิม" เหตุพฤติการณ์จากหลักฐานไม่เข้าข่ายความผิดที่ตั้งไว้ เล็งปรึกษาทนายคำนวณความเสียหายด้านชื่อเสียงตลอดเวลา 1 ปีที่ต้องขึ้นศาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “อีฟ แม็กซิม” เปิดใจหลังศาลนัดสืบพยาน ยันไม่รับเงิน ขอดำเนินคดีกับ “กานต์-แซนวิช” ถึงที่สุด
- ศาลพิพากษาสั่งปรับ"กานต์ วิภากร" 3 หมื่น พร้อมโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี
สืบเนื่องกรณีทางศาลอาญามีนบุรี ได้มีการอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่5360/2562 กรณีที่น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ “อีฟ แม็กซิม" เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "กานต์ วิภากร" ในฐานะจำเลยคนที่ 1 และ "แซนวิช ปภาดา" ในฐานะจำเลยคนที่ 2 กรณีฝ่ายจำเลยร่วมมือกันไล่ "อีฟ" ออกจากบ้าน พร้อมทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กให้ประชาชนรับรู้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 โดยฟ้องทั้งหมด 2 ข้อหา คือ 1.ข้อหาข่มขืนใจ ในส่วนที่มีการร่วมกันบุกไปที่บ้านและไล่อีฟออกจากบ้าน 2.ข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา
ทั้งนี้ศาลได้มีตัดสินและอ่านคำพิพากษาโดยระบุให้ทางจำเลยที่ 1 "กานต์ วิภากร" จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน รอลงอาญา และปรับเป็นเงินจำนวน 30,000 ในสองข้อหาข้างต้น ขณะที่ทางจำเลยที่ 2 "แซนวิช ปภาดา" ศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากพฤติการณ์ของจำเลยไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามที่จำเลยมีการกล่าวหา
อย่างไรก็ตามล่าสุดทางทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยถึงความรู้สึกของ "แซนวิช ปภาดา" หลังที่ศาลยกฟ้อง โดยทางเจ้าตัวเล่าว่า ส่วนตัวรู้สึกโล่งใจ หลังจากที่ต่อสู้กันมาเกือบปี ทั้งนี้ในส่วนของศาลได้มีการพิจารณาตามหลักฐานและข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาตนเองก็ยืนยันมาตลอดว่าพฤติการณ์ของตนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เข้าข่ายตามที่ฝ่ายโจกท์ตั้งข้อหาไว้ ลั่นสาเหตุที่ศาลยกห้องในส่วนของตนนั้นไม่ใช่เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ เพราะหลักฐานทุกอย่างอยู่คลิปวันนั้นแล้ว แต่ด้วยจากหลักฐานที่ทางศาลเห็นมองว่าพฤติการณ์ของตนไม่ได้เข้าข่ายตามที่อีกฝ่ายตั้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนก็เคยมีการไกล่เกลี่ยกับทางฝ่ายโจทก์มาตลอดว่าพฤติการณ์ของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนะ แต่ก็ไม่เป็นผล
"แซนวิช" เผยต่อว่า ส่วนผลกระทบที่ได้รับในช่วงที่มีการต่อสู้คดี ก็ต้องบอกว่าได้รับผลกระทบเยอะมากทั้งเรื่องของหน้าที่การงาน และเรื่องของเวลาที่ต้องเดินทางไปขึ้นศาล ตลอดจนเรื่องของชื่อเสียง เผยความเสียหายที่ได้รับไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ เเต่ความรู้สึกทางจิตใจจะได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะเวลาหลายคนเจอหน้าก็จะเข้ามาทักในลักษณะที่คล้ายว่าเราเป็นคนผิด เผยหลังจากนี้เตรียมพูดคุยกับทางทนายความส่วนตัวและทางผู้ใหญ่ เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่ได้รับภายใน 1 ปี ว่าส่วนตัวได้รับผลเสียมากน้อยแต่ไหน ท้ายสุดหลังจากนี้หากทางฝ่ายโจทก์ "อีฟ" ยังคงเดินหน้าอุทธรณ์ ส่วนตัวก็คงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่ยืนยันความบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง