กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือ เอ้ อายุ 35 ปี เจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพฯ ภูมิลำเนาชาว จ.ชัยภูมิ ถูกฆ่าหมกรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพฯ ที่จอดริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ทราบว่า นายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รวบ “โอชา” ฆ่าสาวหมกเก๋งรับยิงก่อนลงใต้ สวมแมสก์ศพตบตา แม่จี้รับโทษประหาร
-ล่า “โอชา” ลวงฆ่าสาวสำนักปลัดหมกรถ แม่แฉอ้างรวยที่แท้ขับวินหวังปอกลอก
ล่าสุดวันที่ 24 ธ.ค.63 เวลา 07.30 น. ที่สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และตำรวจชุดคลี่คลายคดี สภ.พุนพิน ได้ร่วมแถลงข่าวคดีฆาตกรรม น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช ที่ถูกพบเป็นศพในรถเก๋งสีขาว จอดริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้า สุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน
พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8 เปิดเผยว่า จากการสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายโอชา สวนจันทร์ หรือ ปั๊ม อายุ 39 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวต รับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุโดยอ้างว่า สาเหตุในการฆ่ามาจากความหึงหวง จนเกิดการทะเลาะกันในรถ จึงชักปืนออกมาข่มขู่แต่ไม่คิดจะยิง ทำให้ด้านผู้เสียชีวิตมีการแย่งชิงปืน จนปืนลั่นทำให้เสียชีวิต
ทั้งนี้ตำรวจก็รับฟังคำให้การของผู้ต้องหาไว้ แต่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะตรวจเจอหัวกระสุน 5 นัด ในร่างของผู้เสียชีวิต ซึ่งจะใช้หลักฐานอื่นประกอบ และหลังจากนี้จะปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน
พล.ต.ต.นันทเดช กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปหาปืนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เชื่อมต่อกับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในต้นไม้ช่วงถนนระหว่างก่อนถึง อ.สามร้อยยอด แต่ก็ไม่เจอเพราะผู้ก่อเหตุไม่สามารถระบุจุดทิ้งปืนได้อย่างชัดเจน แต่แม้ว่าจะขาดที่ปืนเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่จะทำให้สำนวนหนาแน่นขึ้น ตนกล้าพูดได้ว่ายังมีหลักฐานอื่นที่ใช้ประกอบในการเอาผิดนายโอชา และเพียงพอที่ศาลจะลงโทษแล้ว เพราะการตายของ น.ส.ฐิติรัตน์ เกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม ในข้อสงสัยว่า น.ส.ฐิติรัตน์ ถูกบังคับพาตัวหรือไม่นั้น ตำรวจมีหลักฐานว่าตอนออกจากที่พัก ผู้ตายยอมมากับผู้ก่อเหตุความเต็มใจ แต่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานในสำนวนได้
พนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ได้คุมตัว นายโอชา สวนจันทร์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้า สุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน โดยมี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เป็นผู้ควบคุมดูแลการทำแผน
ขณะที่นายโอชา ถูกคุมตัวออกจากห้องขัง สภ.พุนพิน เมื่อผู้ต้องหาเห็นสื่อมวลชนที่เฝ้ารออยู่หน้าห้องขัง ผู้ต้องหาก็นำมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาปิดหน้าตัวเองทันที โดยทีมข่าว พยายามสอบถามว่ามีอะไรจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมพูด จนเดินขึ้นรถตำรวจไป
ต่อมาเมื่อนำตัวไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ให้นายโอชา ขึ้นไปนั่งจำลองเหตุการณ์บนที่นั่งคนขับ ทีมข่าวได้สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตั้งใจทำหรือไม่ ซึ่ง นายโอชา ได้ส่ายหน้าไปมา และกล่าวว่า "ไม่ได้ตั้งใจ"
ตำรวจได้คุมตัว นายโอชา ไปชี้จุดที่น้องชายมารับ ซึ่งห่างไปจากรถประมาณ 20 เมตร โดยนายโอชา ระบุว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ตอนที่โทรคุยกับน้องชาย เขาได้ต่อรองว่าถ้าตนมอบตัว เขาจะยอมมารับในที่เกิดเหตุ แต่ถ้าไม่มอบตัว เขาจะไม่มารับ ซึ่งตนก็ยืนยันกับเขาว่าต้องการจะมอบตัวเพราะตนไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายน้องชายจึงมารับในจุดที่ทิ้งรถไว้ สุดท้าย ตนขอยอมรับผิดแต่ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ จึงอยากขอโทษพ่อแม่ตัวเองที่ทำให้รู้สึกเป็นห่วง
สุดท้าย ในช่วงที่ตำรวจคุมตัวนายโอชากลับ เจ้าตัวได้กล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า "ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ" ทั้งนี้หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ตำรวจได้คุมตัวนายโอชา ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยบรรยากาศวันนี้ไร้ซึ่งญาติของนายโอชา
สำหรับข้อมูลไทม์ไลน์นั้น มีดังต่อไปนี้ ในเวลา 09.00 น. เดินทางออกจาก กทม. ด้วยกัน ถัดมาเวลา 11.00 น. ก่อเหตุยิงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร กระทั่งเวลา 18.15 น. นำรถไปจอดทิ้ง และหลบหนีไป จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนการค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่ผู้ต้องหาสารภาพว่านำไปทิ้งไว้ริมถนนสายหลักลงใต้ ช่วงรอยต่อระหว่าง จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนถึง อ.สามร้อยยอด แต่จากการค้นหานานหลายชั่วโมงไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนในพื้นที่จึงสับสนจุดที่ทิ้ง หรือ ให้การเท็จ
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่ได้อาวุธปืน ก็สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากมีหลักฐานยืนยันว่าทั้ง 2 คนมาด้วยกัน และมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะมัดตัวผู้ก่อเหตุแน่นแบบดิ้นไม่หลุด สำหรับอาวุธปืน หากมีผู้ใดบังเอิญไปพบเห็นบริเวณริมถนนดังกล่าว สามารถนำมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ พร้อมให้รางวัล 10,000 บาท
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านพ่อแม่ของนายโอชา สวนจันทร์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสภาพบ้านเป็นบ้านไม้ยกสูง 1 เมตร ขนาดบ้านไม่ได้ใหญ่โตหรือร่ำรวย ซึ่งวันนี้ไม่พบกับพ่อแม่ของนายโอชา
แต่ได้พบกับ นายเล็ก (นามสมมติ) น้าของนายโอชา เปิดเผยว่า ยอมรับว่าพ่อแม่ของนายโอชาเองก็เสียใจมาก ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น แม้แต่ตนที่เป็นน้า ก็คิดไม่ถึงว่าหลานชายจะกล้าก่อเหตุฆ่าคน
สำหรับตัวของหลานชายนั้น ตนไม่ค่อยรู้จักนิสัยใจคอเขามากนัก เพราะเขาออกจากไปบ้านไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งเพิ่มจบ ป.4 โดยเข้าไปทำงานเกือบ 30 ปี ก็แทบจะไม่กลับมาเยี่ยมบ้านเลย
กรณีเรื่องที่นายโอชา ไปอ้างว่าที่บ้านมีฐานะ จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนที่นายโอชาเป็นเด็ก พ่อแม่ของเขาก็ยังพอมีที่ดินอยู่บ้าง แต่ผ่านมาหลายปีก็ได้ขายไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มีแค่บ้านที่อยู่อาศัย ส่วนพ่อของนายโอชา ก็มีอาชีพทำเกษตรและเลี้ยงวัว ไม่ได้ร่ำรวย
อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าครอบครัวของนายโอชา จะไปประกันตัวหรือไม่ แต่ยอมรับว่าครอบครัวไม่มีเงิน คงจะปล่อยไปตามกฎหมาย ส่วนช่วงที่ น.ส.ฐิติรัตน์ มาที่บ้านนั้น ตนไม่เจอกับเขา
ทีมข่าวเดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 170 หมู่ 8 ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช หรือ เอ้ อายุ 35 ปี ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวจัดพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นวันที่ 3 และวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค.63 จะจัดพิธีฌาปนกิจศพ
ทันทีที่ทีมข่าวเดินทางเข้าไปทาง นายชื่น สีห์ราช และ นางลี สีห์ราช พ่อแม่ของ น.ส.ฐิติรัตน์ และญาติพี่น้องได้บอกว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์อีกแล้ว ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ทีมข่าวจึงแจ้งว่า ในวันนี้ทางทีมข่าวเป็นตัวแทนของสถานีโทรทัศน์ นำเงินทำบุญมามอบให้ ซึ่งทางพ่อแม่ยินดีที่จะรับเงิน และอนุญาตให้ถ่ายรูปบรรยากาศงานศพเท่านั้น
นายชื่น สีห์ราช และนางลี สีห์ราช พ่อแม่ของ น.ส.ฐิติรัตน์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้คนก่อเหตุได้รับโทษประหารชีวิตอย่างถึงที่สุด ถึงแม้ว่าวันนี้จะทำแผน และกล่าวขอโทษ แต่ก็ไม่เพียงพอกับสิ่งที่ตนสูญเสียไป และถ้ารักกัน ตบตีกันยังพอรับได้ แต่ฆ่ากันถึงขนาดนี้ ไม่ได้รักกันแล้ว ขณะนี้ พ่อแม่กินข้าวไม่ค่อยได้ นอนก็ไม่กลับ โดยเฉพาะแม่ต้องกินยาแก้ปวดตลอด เพราะเครียดและเสียใจมาก
สำหรับข้อสังเกต "โอชา" คบหา "ฐิติรัตน์" ฝ่ายช่ายบอกว่า มีฐานะ แต่ข้อเท็จจริง คือ ขี่วินที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 อีกทั้งยังบอกญาติฝ่ายหญิงว่า คยกันมานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายไม่เคยบอกเรื่องราวให้ใครรู้ แม้กระทั่งโพสต์รูปคู่ในเฟซบุ๊ก
ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายสุระสิทธิ์ แดงเพ็ชร ผช.ผญ.ม.5 ท่าเรือ อ.บ้านเดิม พื้นที่รอยต่อจุดพบศพ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า จุดบริเวณนั้นจะเปลี่ยวมาก ไม่มีใครกล้าไป ส่วนใหญ่เส้นทางนั้นใช้เดินทางไปกรีดยาง ไม่กล้าไปคนเดียว แต่ก็มีชาวบ้านมาพูดให้ฟังว่า มีคนเจอผู้หญิงโบกมือกวักมืออยู่ตรงราวกั้นริมถนนจุดรถที่พบศพคนตาย
หลังเกิดเหตุพบศพสาวโดนยิงทิ้งคารถแล้ว เมื่อชาวบ้านรู้เรื่องต่างก็รู้สึกกลัว ส่วนเรื่องการแก้อาถรรพ์ขณะนี้ยังไม่มี เมื่อก่อนจุดที่ใกล้กับที่เกิดเหตุเคยมีอุบัติเหตุและมีคนตายหลายศพ ซึ่งชาวบ้านแถวนี้น่าจะกลัว หลังมีข่าว และปิดบ้านนอนเร็วขึ้น แต่คนต่างถิ่นขับผ่านไปมา อาจจะไม่น่าจะกลัว
เมื่อถามว่ากลางคืนมีใครกล้าไม่จอดรถหรือไม่ ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่าไม่กล้ามีใครไปจอด โดยวันเกิดเหตุที่พบศพนั้น ตนติดภาระกิจเลือกตั้ง อบจ. เลยไม่ได้มาดู เพราะก็เป็นพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบเช่นกัน บริเวณดังกล่าวมืดมาก มีเพียงแสงไฟจากรถยนต์ที่ผ่านมาทางนั้น