จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ "จึงจริง Jung Jing" ได้โพสต์คลิปชาย 2 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบ กำลังรุมทำร้ายนายมนตรี สุขสอาด อายุ 51 ปี บริเวณปากซอยรัชมงคลประสาธน์ 6 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เย็บถึง 14 เข็ม หน้าตาและตามลำตัวมีแผลฟกช้ำด้วยนั้น
เบื้องต้น สาเหตุเกิดจากนายมนตรีกู้เงินจำนวน 3,000 บาท มาจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน แต่เมื่อผ่อนไปได้ 15 วัน กลับขาดส่งดอกเบี้ยร้อยละ 20 ซึ่งต้องส่งวันละ 150 บาท เนื่องจากไม่มีงานทำและต้องย้ายบ้านเช่า กระทั่งนายมนตรีบังเอิญเจอกลุ่มเงินกู้นอกระบบ ได้แก่ นายโชคชัย หรือ โชค และนายยิ่งยศ หรือ อ๋อง จึงถูกรุมทำร้ายร่างกาย
ส่วนความคืบหน้าคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ภาษีเจริญ กำลังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ และรักษาอาการผู้เสียหายจากโรงพยาบาล เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน ก่อนจะไปขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ
วันที่ 24 ธ.ค. 63 นายมนตรี สุขสอาด อายุ 51 ปี ผู้บาดเจ็บ อาการบาดเจ็บดีขึ้น แต่ยังคงสามารถสังเกตเห็นรอยแผลบริเวณดั้ง รอยแผลบริเวณโหนกแก้มขวา แผลบริเวณหลัง ศีรษะด้านซ้ายถูกเย็บ 5 เข็บ กลางศีรษะ 3 เข็ม และด้านขวา 6 เข็บ รวม 14 เข็ม
นายมนตรี เล่าว่า ตนมีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่เขตภาษีเจริญ แต่เนื่องจากภรรยาของตนป่วยเป็นมะเร็งมดลูก อีกทั้งจำนวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีมากขึ้น ทำให้ตนมีรายรับน้อยลง ตนจึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบจำนวน 3,000 บาท จากนายยิ่งยศ ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ
โดยข้อตกลงตนจะต้องกู้เงินจำนวน 3,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ซึ่งตนจะต้องใช้หนี้วันละ 150 บาท เป็นเวลา 24 วัน รวมเป็น 3,600 บาท ดอกเบี้ย 600 บาท แต่ตนได้ใช้หนี้ไปเพียง 15 วัน คิดเป็นเงิน 2,250 บาท ก็ได้หยุดส่งเงินให้เจ้าหนี้ เนื่องจากตนเลิกขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง อีกทั้งตนยังได้เดินทางไปยังจังหวัดนครราชสีมา เพื่อทำงานรับจ้างทั่วไป หาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลภรรยา
โดยหลังจากภรรยาของตนเสียชีวิตเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเขื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตนไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯได้เพียง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ วันเกิดเหตุตนได้ออกมากินข้าวตามสั่งแถวบ้านและได้บังเอิญเจอกับนายยิ่งยศ ตนจึงได้เอ่ยปากทัก นายยิ่งยศก็ตอบกลับมาว่า "อ้าว" จากนั้นก็ได้โทรศัพท์หานายโชคชัยมาร่วมกันทำร้ายตน แม้ตนจะเอ่ยปากขอร้องอีกฝ่ายให้หยุดทำร้าย ตนเจ็บปวดดั้งหัก ตาบวม เขียวช้ำตามร่างกาย หัวปริแตก และได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ
นางทิพย์วรรณ สุขสอาด อายุ 54 ปี พี่สาวของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนรู้จักนายยิ่งยศมาก่อน เนื่องจากเคยเห็นในพื้นที่เขตภาษีเจริญบ่อย ๆ ทำให้ตนรู้สึกเจ็บแค้นมาก หลังจากนายยิ่งยศและนายโชคชัยก่อเหตุทำร้ายน้องชาย ตนก็ได้โทรศัพท์หานายยิ่งยศ ทันที แต่คำพูดที่ตนได้รับจากนายยิ่งยศเป็นสิ่งที่ตนรับไม่ได้ เขาบอกว่า "จะให้ผมทำไง จะให้ผมขอโทษเขาเหรอ"
ต่อมาในเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 8 ธ.ค. กลุ่มชายประมาน 20 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มารวมตัวอยู่ในซอยรัชมงคลประสาธน์ 6 จากนั้นชาย 4 คน มีอาการมึนเมาก็ได้เดินมาเคาะที่ประตูบ้านของนางสาวตน เพื่อขอเจรจาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องสาวตนจึงได้โทรศัพท์หาตน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้รีบมาพูดคุย ได้เจรจาว่าหากต้องการจะพูดคุยได้เดินทางไปพูดคุยกันที่สถานีตำรวจ โดยอีกฝ่ายจะย้ำอยู่ตลอดว่าไม่มีทางติดคุกและพยายามขอให้จบเรื่องกันเอง
จากนั้นในวันที่ 9 ธ.ค. 1 ใน 4 คน ก็ได้ย้อนกลับมาพูดคุยกับตนอีกครั้ง ยื่นข้อเสนอว่าให้เรียกร้องค่าเสียหาย โดยตนก็ได้บอกจำนวนเงิน 400,000 บาท ต่อหัวผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงิน 800,000 บาท ซึ่งตนตั้งราคาให้สูง เนื่องจากตนต้องการจะให้เรื่องทุกอย่างจบลงที่สถานีตำรวจ แต่ทั้งนี้เงิน 800,000 บาท ก็เทียบไม่ได้กับการที่น้องชายตนถูกรุมทำร้าย ขณะนี้ตนไม่กลัวอะไรแล้ว
ทีมข่าวเดินทางไปบ้านของนายยิ่งยศ ไม่พบใคร ภรรยานายโชคชัยเผยไม่รับรู้เหตุการณ์ ไม่ขอพูดถึงการปล่อยเงินกู้ ระุบว่านายโชคชัยไม่อยู่บ้าน ส่วนข้อมูลที่โซเชียลมีเดียนำเสนอนั้นผิดจากความเป็นจริง