'ตุลย์ ตุลยเทพ' สานสัมพันธ์ 'หญิง รฐา' หลังแยกทาง 'ดีเจเหมียว' ยืนยันจบสวยเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน

เล่นเอาทีมเผือกขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้า หลังมีประเด็นเมาท์สนั่นกันว่าสาวแกร่งอย่าง "หญิง รฐา" อาจคือชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ "ตุลย์-ตุลยเทพ เอื้อวิทยา" สะบั้นรักกับอดีตภรรยา "ดีเจเหมียว อัจฉริยา สินรัชตานันท์" เพื่อมาสานสัมพันธ์กับสาวหญิง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน สาวหญิงเคยได้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เกี่ยวกับเรื่องของหัวใจไว้ว่า "ตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆ มีคนเข้ามาคุยบ้าง ยังอยู่ในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ เป็นคนไทย ไม่ใช่คนในวงการ สำหรับคนที่คุยอยู่ด้วยก็คล้ายๆ กัน ชอบเที่ยว ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่สามารถบอกหน้าที่การงานได้ เขาก็มีงานเป็นของตัวเอง ธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ก็มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน" และแม้สาวหญิงจะไม่ได้เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามว่า ผู้ที่ว่านี้คือใคร แต่นั่นก็ไม่เกินความสามารถของทีมเผือกที่ต่างงัดหลักฐานความเชื่อมโยงว่าผู้ใหม่ของชีหญิงนั้นก็คือ หนุ่ม "ตุลย์" ที่แท้ทรู! โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นหลังจากฝ่ายชายได้เลิกรากับอดีตภรรยาแล้ว สาวหญิงจึงไม่ได้มีส่วนในการเป็นมือที่สามของใครอย่างแน่นอน ซึ่งทางด้าน "ดีเจเหมียว" ก็ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าการเลิกรากับหนุ่มตุลย์เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่เกี่ยวกับใคร และหลังจากเลิกกันไปแล้วอดีตสามีจะไปคุยจีบกับใครก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร "เลิกกับตุลย์จริง การแต่งงานอยู่กินกับผู้ชายคนหนึ่งมา 6-7 ปี เวลาเลิกกันก็ต้องเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของใคร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคน เหมียวกับตุลย์ไปกันไม่ได้ก็แยกทางกัน ซึ่งหลังจากนั้น ตุลย์จะไปจีบใครยังไงก็ได้เพราะมันไม่ได้ผิดอะไร" ล่าสุดความเคลื่อนไหวจากหนุ่มตุลย์ ที่ออกมาปิดจ็อบข่าวลือเสียหายต่างๆ โดยเจ้าตัวได้โพสต์ภาพผ่าน Facebook Tul Uawithya ว่า "ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เป็นห่วงและได้ส่งข้อความมา ผมและเหมียวได้แยกทางกันแล้ว ตามที่เหมียวได้ให้สัมภาษณ์ ซึ่งสาเหตุของการแยกทางในครั้งนี้นั้นมาจากปัญหาของเรา 2 คน เราแต่งงานมา 6 ปี แน่นอนว่ามีความไม่เข้าใจ ทะเลาะกันบ้างตามประสาชีวิตคู่ แต่ทุกครั้งเราก็ปรับความเข้าใจกันตลอดมา โดยต่างยึดว่าเราตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว มีเป้าหมายปลายทางที่ตั้งใจจะเดินไปด้วยกันแล้ว ก็ต้องพยายามฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เป้าหมายที่จะเดินไปเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทางเดินที่เป็นทางเดียวมาก็แยกเป็นสอง หากจะเดินต่อไปด้วยกัน นั้นจะหมายความว่าคนใดคนหนึ่งต้องยอมทิ้งจุดหมายของตัวเองมาเพื่อเดินไปยังเป้าหมายของอีกคน หรือต่างคนต่างแยกกันเดินไปตามเป้าหมายตัวเอง ผมและเหมียวได้คุยกัน และเห็นตรงกันว่าต่างคนก็ควรเดินไปตามเป้าหมายของตนที่มี ณ ปัจจุบัน เพราะถ้าไปฝืนใครคนใดคนหนึ่ง ยังไงก็เดินไปต่อได้ไม่ไกลอยู่ดี ด้วยสาเหตุนี้ผมและเหมียวจึงตัดสินใจแยกทางกัน แต่ยังคงความเป็นเพื่อน เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน เพราะเราทั้งคู่ต่างยึดมั่นในพระพุทธศาสนาและมีธรรมมะเป็นที่พึ่งทั้งคู่ ตัวผมเองนั้นมีความเชื่อว่าวิบากกรรมที่เราได้กระทำ เป็นสิ่งที่ส่งผลให้เราได้พบ ได้เจอ ได้พรากจาก คนอื่นๆ ทุกคนที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่เว้นแม้กระทั่ง พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ สิ่งนี้นั้นไม่สามารถเลือกหรือหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่เราสามารถทำได้นั้นคือมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดให้มีศีล 5 ไว้ในใจ และฝึกการมีสติอยู่ทุกเมื่อ พอมีสติเราก็จะมีปัญญาที่จะรับมือกับปัญหาและสิ่งต่างๆ ที่วิบากทำให้เราต้องไปเผชิญ ส่วนเรื่องของน้องหญิง เพื่อนที่สนิทจะรู้กันอยู่แล้วว่าเรารู้จักกันมานานแล้ว เพราะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่ได้ห่างหายกันไปหลังจากที่ผมแต่งงาน ซึ่งเพื่อนๆ จะเข้าใจว่าถ้าผมมีแฟนแล้วจะหายไปจากวงโคจร และในปัจจุบันหลังจากการแยกทาง ผมก็มีเวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อนมากขึ้น เพื่อนๆ ก็เข้าใจและพร้อมที่จะเป็นที่พึ่งพา จึงเป็นสาเหตุให้ผมได้กลับมาคุยกับน้องหญิงอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ทุกคนมีสติในการใช้ชีวิตครับ

ภาพ : FB.Tul Uawithya / IG realyingrhatha