"พ่อนีต้า" เปิดใจ "ไอ้เอ็ม" ซ้อมลูกสาวโชว์ไลฟ์สดไม่ใช่ครั้งแรก มีลางลูกส่งไลน์บอกรัก ก่อนถูกทุบน่วม (คลิป)

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้เผยแพร่คลิปเรื่องราว ที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งภายหลังทราบชื่อ "นีต้า" ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนใบหน้าบวมปูด และเขียวช้ำไปทั้งตัว โดยคลิปดังกล่าวเป็นการไลฟ์สดจากห้องพักแห่งหนึ่ง โดยรายละเอียดภายในคลิป เป็นภาพฝ่ายชายเป็นผู้ไลฟ์สดภาพน้องนีต้าที่อยู่ในสภาพถูกทำร้ายจนใบหน้าบวมปูด โดยชายคนดังกล่าวยังพูดจาในลักษณะที่วกวนไปมา พร้อมบังคับให้น้องนีต้าตอบคำถาม และบังคับให้ทำร้ายตัวเองด้วยการตบหน้า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา

วันนี้ ( 23 เม.ย. 61 ) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ นายพินิช เกิดวุฒิ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์, นายภานุทัช อยู่ฤทธิ์ เจ้าหน้าที่เวชกรฉุกเฉิน มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์, น.ส.สาวิตรี อรุณรัมย์ เจ้าหน้าที่อาสาประจำศูนย์ มูลนิธิสยามรวมใจ ปู่อินทร์, พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์ และ นายกุศล ยีสมัน พ่อน้องนีต้า เข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ

นายพินิช เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทภายในครอบครัว ภายในซอยนวมินทร์ 36-38 ซึ่งเป็นคอนโดฯที่เกิดเหตุ เมื่อตนเดินทางไปถึงพบว่ามีชาวบ้านส่วนหนึ่งอยู่ด้านล่างของคอนโดฯดังกล่าว เพื่อรอดูเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อตนขึ้นไปถึงห้องที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บึ่งกุ่ม ขณะนั้นเหตุการณ์ค่อนข้างตึงเครียด  โดยพบว่าขณะนั้น มีพี่สาวของฝ่ายหญิงที่ถูกทำร้าย กำลังเจรจาให้ฝ่ายชายเปิดประตู โดยตอนนั้นตนยังไม่เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนกัน โดยมีการเจรจาเพื่อขอเข้าไปทำแผลให้กับผู้บาดเจ็บที่อยู่ภายในห้อง โดยขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้โทรศัพท์โทรออก ประสานกับชุดที่อยู่ด้านนอกห้องกาอนที่จะแอบนำเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำแผลให้แก่ผู้บาดเจ็บ โดยมีการนัดแนะกับเจ้าหน้าที่ด้านนอกไว้ว่าหากชายคนดังกล่าวมีอาวุธ จะพูดคำว่า “มี” เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านนอกห้องได้ยิน ก่สอนที่จะมีการบุกเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ดังกล่าว

ด้าน น.ส.สาวิตตรี เปิดเผยว่า เมื่อตนไปถึงพบว่านีต้า มีอาการหวาดกลัว ตัวสั่น และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา อาการที่พบเห็นคือ น้องนีตา ได้รับบาดเจ็บ ตาปิด มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณศรีษะ และมีรอยลักษณะเหมือนแผลไฟไหม้ ที่บริเวณแขนลักษณะเหมือนถูกของร้อนลวกบริเวณแขนทั้งสองข้าง โดยขณะทำแผลมียังมีผิวหนัง ของน้องหลุดติดออกมาด้วย และที่คอของน้องมีรอยของมีกรีด เป็นแผลจำนวนหลายรอย ลักษณะเหมือนถูกปลายมีดกรีดที่บริเวณลำคอ น.ส.สาวิตตรี เล่าต่อว่า หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือน้องนีต้า เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล น้องยังมีความเป็นห่วง นายเอ็ม โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวออกมา นายเอ็มได้ขอกอดน้องนีต้า ซึ่งน้องนีต้ากำลังจะเดินไปให้นายเอ็มกอด แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ห้ามไว้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่อยู่บนรถพยาบาลเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล น้องนีต้า ยังถามถึงนายเอ็มด้วยความห่วงใยอยู่ตลอด

นายกุศล ยีสมัน พ่อน้องนีต้า เปิดเผยว่า ถึงตอนนี้ตนยังไม่ได้เข้าเยี่ยมลูกสาว เพียงแต่ได้คุยกันผ่านทางวิดีโอคอล ซึ่งเบื้องต้นยังสามารถพูดคุยได้ ถามตอบรู้เรื่อง เมื่อตนเห็นสภาพลูกในครั้งแรกยอมรับว่ารับไม่ได้

โดยก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายเอ็ม ได้ใช้ไลน์ของลูกสาวไลน์มาหาตน พร้อมกับบอกว่า “พ่อไม่ต้องห่วง ต่อไปจะดูแลน้องเอง” ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจ และรู้สึกไม่สบายใจที่ฝ่ายชายไลน์มาพูดอย่างนั้น จึงได้กำชับให้ลูกสาวอีกคนซึ่งเป็นพี่สาวของน้องนีต้าให้คอยจับดาดู นายเอ็มและลูกสาวตนด้วยความเป็นห่วง หากมีอะไรผิดปกติให้รีบแจ้งตำรวจทันที โดยก่อนหน้านี้ตนทราบมาว่าน้องนีต้าเคยถูกนายเอ็ม ทำร้ายมาแล้วถึง 6 ครั้ง และมีการไลฟ์สดทำร้ายร่างกายลูกตนผ่านเฟซบุ๊กมาก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนั้นพี่สาวของน้องนีต้าได้บอกให้นายเอ็มลบคลิปดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊กซึ่งนายเอ็มก็ยอมลบออกไป

นายกุศล กล่าวว่า ตนเชื่อว่า นายเอ็ม กำลังสร้างภาพและหวังผลอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามตนขอบใจนายเอ็ม ที่ไม่ทำร้ายลูกตนจนเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้ แต่การไลฟ์สดครั้งนี้ก็มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือสามารถทำให้เจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือลูกสาวตนออกมาได้อย่างทันท่วงที แต่เท่าที่ตนสังเกต นายเอ็ม พยายามคาดคั้นให้ลูกสาวตนรับสารภาพในหลายๆเรื่อง คาดว่าเพื่อให้คนอื่นเห็นว่านายเอ็ม กำลังมีปัญหาทางครอบครัวและปัญหาทางด้านการเงิน จึงยังไม่สามารถเปิดสอนหุ้นเทรดฟอเร็กซ์ ตามคอร์สที่มีผู้สมัครเข้ามาเรียนก่อนหน้านี้ได้ โดยหวังสร้างเรื่องราวขึ้นเพื่อให้ลูกสาวตนได้รับความเสื่อมเสีย

พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี กล่าวว่า กรณีที่มีการกระทำพฤติกรรมรุนแรงต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการบันดาลโทษะ หรือใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแม้เพียงครั้งเดียว ก็ถือผู้นั้นมีอาการผิดปกติทางจิตบางอย่าง เพราะอาจจะเป็นคนที่มีสุขภาพจิต ไม่ดี ไม่รู้จักควบคุมตนเอง อาจจะมีอิคิวสูงและไอคิวต่ำ ความฉลาดทางอารมย์ไม่มี ไม่สามารถควบคุมจัดการทางอารมณ์ได้ และหากมีการกระทำเป็นประจำอยู่สม่ำเสมอ จนมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานและสัมพันธภาพภายในครอบครัว นั่นแสดงว่าเราเข้าข่ายมีความผิดปกติทางด้านสุขภาพจิตบางอย่าง โดยสาเหตุส่วนใหญ่ของอาการเหล่านี้เกิดจากการดื่มสุรา และการใช้สารเสพติด อย่างไรก็ตามอาการดังกล่าวสามารถรักษาให้หายขาดได้