สถานการณ์โควิดล่าสุด: ผวจ.ปทุมฯ สั่งปิดสถานศึกษา 14 วัน-ตลาด 4 แห่ง ฝ่าฝืนมีโทษหนัก

26 ธ.ค. 63

ผวจ.ปทุมฯ ออกคำสั่งปิดสถานศึกษา 14 วัน ปิดตลาดเพิ่มอีก 4 แห่ง สกัด "โควิด-19" พร้อมห้ามแรงงานต่างด้าวย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษหนัก

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ออกคำสั่งลงนาม เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยฉบับแรก ระบุว่า ประกาศจังหวัดปทุมธานี เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์โควิดล่าสุด: ไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 12 นนทบุรี ติดพร้อมสามี พบไปห้าง-ตลาดหลายแห่ง
สถานการณ์โควิดล่าสุด: ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายที่ 11 นนทบุรี ทำงานสีลม เที่ยวตลาด เดินอิเกีย เลือกตั้ง
สถานการณ์โควิดล่าสุด: ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายที่ 9 นนทบุรี ประวัติเดินทางแน่น-โผล่ 4 จังหวัด

ตามที่จังหวัดปทุมธานี มีประกาศเรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ฉบับลงวันที่ 23 ธ.ค. 63 ให้ผู้เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติไปแล้วนั้น โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ปรากฏการระบาดขึ้นใหม่ในพื้นที่บางจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มี.ค. 63 และประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานกรณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราขอาณาจักร (คราวที่ 8) ฉบับลงวันที่ 23 พ.ย. 63 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2564 วันที่ 25 ธ.ค. 63 จึงกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มเติม ดังนี้

132873219_802229720327885_155

1. การเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ของโควิด-19 โดยแบ่งพื้นที่เฝ้าระวังของ จ.ปทุมธานี ออกเป็น 2 โซน ประกอบด้วย

1.1 พื้นที่เฝ้าระวังสูง คือ พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย ทั้งนี้สถานที่ใดเป็นไปตามนัยข้อดังกล่าว ให้นายแพทย์สาธารณสุขประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงโดยให้ดำเนินการ ดังนี้

ก. เร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และกิจกรรม/กิจการที่เสี่ยง

ข. ให้มีมาตรการป้องกันโรค-สวมหน้ากากอนามัย 100% ทำความสะอาดมือ สถานที่ หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยๆ, หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก, ลงทะเบียนเข้าพื้นที่หรือร่วมกิจกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หรือ โดยระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์

ค. ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ง. ให้พิจารณาใช้มาตรการ Work From Home ตามความเหมาะสม

จ. หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ

1.2 พื้นที่เฝ้าระวัง คือพื้นที่ที่ไม่พบการแพร่ระบาดและไม่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 14 วัน นอกเหนือตามข้อ 1.1 ให้ดำเนินการ ดังนี้

(1) ให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และกิจกรรมกิจการที่เสี่ยง

(2) ให้มีมาตรการป้องกันโรค สวมหน้ากากอนามัย 100%, ทำความสะอาดมือ สถานที่ หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยๆ, หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก, ลงทะเบียนเข้าพื้นที่หรือร่วมกิจกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หรือ โดยระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์

(3) ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(4) หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากหากมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ให้ยื่นแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรค ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล ก่อนจัดงาน โดยให้ลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือลดความหนาแน่นของผู้ร่วมกิจกรรมลง

1608957042510
1608957078038

2. ให้ปิดสถานที่การดำเนินการกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ตามความเหมาะสม เบีนระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 63 ถึง 8 ม.ค. 64 ดังนี้

2.1 สถาบันอุดมศึกษา (ภาครัฐและเอกชน) ทั้งในระบบและนอกระบบ

2.2 โรงเรียน (ภาครัฐ-เอกชน-นานาขาติ)

2.3 สถานที่กวดวิชา

2.4 สถานรับเลี้ยงเด็ก/ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สำหรับสถานที่ตามข้อ 2.1 ถึง 2.4 ที่มีความพร้อมในการเรียนการสอนสามารถยื่นแผนการจัดการเรียนการสอนและมาตรการควบคุมโรต ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล เพื่อขอเปิดดำเนินการ

คณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี จึงขอให้ทุกภาคส่วน ถือปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ โดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องะวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในบรรดาประกาศที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ไห้มีผลบังคับใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศฉบับนี้ อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง แก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2639

1608957871964

สำหรับประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง ปิดสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระบุว่า เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดชองโรค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2548 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มี.ค. 63 และประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 8) ฉบับลงวันที่ 23 พ.ย. 63 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2564 วันที่ 25 ธ.ค. 63 จึงให้ปิดสถานที่ตลาดนัด จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ดังนี้

1. ตลาดสดอินเตอร์มาร์ท ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี

2. ตลาดคลองสี่เมืองใหม่ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง

3. ตลาดชุมชนเคหะรังสิต คลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี

4. ตลาดนัดวัดปทุมนายก ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ

โดยขอให้ ศปก.อำเภอ ศปก.ตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่เสี่ยงดังกล่าว และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวหางของประกาศจังหวัดปทุมธานี และมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด สำหรับตลาดใดที่ได้ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ หรือตามคำสั่งนี้ครบจำนวน 3 วัน หากได้ดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์การสอบสวนโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว และมีความพร้อมในการเปิดดำเนินการสามารถยื่นแผนการจัดการและมาตรการควบคุมโรค ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล เพื่อขอเปิดดำเนินการต่อไป

ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 63 ถึง 8 ม.ค. 64

133032744_228954898831445_313

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ