โควิดระบาดใหม่ดับฝันกระตุ้นเศรษฐกิจ “สมุทรสาคร” ซูเปอร์สเปรดเดอร์ คว่ำท่าขี้เหล็ก-สนามมวย
อีกไม่กี่วันเราก็จะได้นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2564 แล้ว หลายคนที่เผชิญความสาหัสจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในแง่สุขภาพ และด้านเศรษฐกิจ ก็หวังจะเริ่มต้นใหม่ในศักราชใหม่ที่จะมาถึงนี้ บ้างก็เริ่มตั้งตัวตั้งแต่ปลายปี เพราะหวังได้หวังมีในช่วงไฮซีซั่น ขณะที่รัฐบาล-ภาคเอกชนหมายมั่นใช้โอกาสฉลองปีใหม่ ปลุกเศรษฐกิจ ฟื้นความคึกคัก กระตุ้นใช้จ่ายเงิน แต่ทว่าเจ้าไวรัสร้ายกลับไม่รามือไปง่ายๆ หวนกลับมาหลอกหลอน และสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผวา! เจ้าของแพกุ้งมหาชัยติดโควิด-19 เพื่อนหวั่นติดเชื้อ จังหวัดสแกนกลัวผู้ป่วยเพิ่ม (คลิป)
- กักแรงงานตลาดกุ้ง 2 พันชีวิต ส่งข้าวผ่านลวดหนาม กทม.ประกาศงดเคาท์ดาวน์ระวังโควิดระลอกใหม่ (คลิป)
- เซ่นพิษโควิด! พ่อค้ากุ้งเผาเครียดจัด ขายไม่ได้หนี้พอก ไลฟ์สั่งลาผูกคอตาย (คลิป)
- นายกฯ ลงนามจองซื้อวัคซีนโควิด-19 คนไทยได้ใช้ปี 64
ลางร้ายก่อเกิดช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวพบผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งลักลอบเดินทางมาจากประเทศเมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติ 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี ซึ่งไทม์ไลน์ของเธอ ทำให้เพื่อนร่วมชาติต้องหวาดผวาไปตาม ๆ กัน! เพราะมีการไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิง เล่นเอาคนเชียงใหม่ตื่นตระหนกกันไปทั้งจังหวัด หลังมีรายงานว่า มี “ผู้สัมผัสเสี่ยง” ถึง 300 กว่าคน หนำซ้ำเพื่อนร่วมทางที่มาด้วยกัน ก็เดินทางข้ามจังหวัดไปแพร่ต่อที่เชียงราย และยังมีเคสโผล่ใน กทม.อีกด้วย
ไฮซีซั่น...กลายเป็นหายนะ
การโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวของโควิด-19 ใน จ.เชียงรายและเชียงใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ทิ่มหัวลงสู่หายนะ นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลใจ แห่ยกเลิกห้องพักที่จองไว้กันเป็นแถว งานนี้กระทบกันระนาวทั้งผู้ประกอบการและพนักงานที่แอบมีหวังจะได้โบนัสสิ้นปีบ้าง
อย่าเพิ่งผวา ของจริงเพิ่งเริ่ม
แต่ในขณะที่ชาวกรุงและจังหวัดอื่นๆ กำลังวิตกกังวลกับการแพร่ระบาดใน"เชียงราย-เชียงใหม่" ถึงขั้นบางบริษัทออกมาตรการหากมีประวัติเดินทางไป 2 จังหวัดภาคเหนือ ต้องทำการกักตัวเอง 14 วัน ซูเปอร์สเปรดเดอร์ของจริงก็ปรากฏขึ้นใกล้กับเมืองหลวงของไทย "สมุทรสาคร" เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พบหญิงไทย วัย 67 ปี แม่ค้าตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด ก่อนพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และขยายวงกว้างหลายจังหวัด ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับการซื้ออาหารทะเลจาก จ.สมุทรสาคร แทบทั้งสิ้น
โควิด-19 ระบาดรอบใหม่
การกลับมาระบาดครั้งนี้ไม่ใช่รอบ 2 แต่เป็นการระบาดใหม่ ที่วิกฤตยิ่งกว่ารอบแรก เพราะพบในตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร ซึ่งเป็นตลาดใหญ่แหล่งรวมกุ้งจากแพปลาต่างๆ มาขายให้ผู้ค้ารายย่อยที่จะมาเลือก
ลุกลาม 33 จังหวัด ไม่ล็อกดาวน์-แต่แบ่งโซนเสี่ยง
จากจุดเริ่มต้นตลาดมหาชัย ไทยเริ่มพบผู้ป่วยใหม่ติดเชื้อในประเทศที่เชื่อมโยงคลัสเตอร์มหาชัยกว่า 33 จังหวัด (อัพเดตเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.63) ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 2.ฉะเชิงเทรา 3.นครปฐม 4.ปทุมธานี 5.เพชรบุรี 6.สมุทรปราการ 7.สระบุรี 8.อุดรดิตถ์ 9.เพชรบูรณ์ 10.สุพรรณบุรี 11.นครราชสีมา 12.ปราจีนบุรี 13.กระบี่ 14.ภูเก็ต 15.พระนครศรีอยุธยา 16.กำแพงเพชร 17.ขอนแก่น 18.ชัยนาท 19.สมุทรสงคราม 20.อุดรธานี 21.พิจิตร 22.นครศรีธรรมราช 23.สุราษฎร์ธานี 24.ชัยภูมิ 25.นครสวรรค์ 26.นนทบุรี 27.อ่างทอง 28.ราชบุรี 29.สงขลา 30.เลย 31.อุบลราชธานี 32.ชลบุรี และ 33.สมุทรสาคร หลายคนกังวลว่ารัฐบาลจะกลับมาปิดเมืองคุมโรคอีกครั้งหรือไม่ แต่ท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ศบค.ก็ฉีกไปอีกทาง ไม่ล็อกดาวน์แต่แบ่งพื้นที่แต่ละจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงไปถึงจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่ำ และงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ห้ามชุมนุม มั่วสุม-เข้าพื้นที่เสี่ยงโรค
อาหารทะเลขายไม่ออก การประมงอ่วม
สถานณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีจุดเริ่มต้นจากตลาดกลางกุ้ง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งผู้ประกอบการและพี่น้องชาวเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งประสบปัญหาในการเลี้ยงเนื่องจากสัตว์น้ำมีทั้งปลา หมึก กุ้ง ไม่สามารถส่งไปขายยังจ.สมุทรสาครได้ เพราะตลาดกลางปิดการซื้อขาย อีกทั้งยังไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาซื้ออีกด้วยเพราะกลัวว่าซื้อไปแล้วจะขายไม่ได้ เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดว่าสัตว์ทะเลอาจจะติดเชื้อโควิด งานนี้ภาครัฐไม่นิ่งนอนใจถึงปัญหา โหมประชาสัมพันธ์ถ้าปรุงสุกก็รับประทานได้ โดยทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข เดินสายกินกุ้งโชว์ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกครั้ง
ศิลปินนักร้องถูกยกเลิกงานระนาว
หายนะไม่ได้เกิดแค่กับธุรกิจอาหารทะเลและการประมงเท่านั้น ศิลปินนักร้องที่เพิ่งจะกลับมารับงานเต็มตัว ออกทัวร์สร้างความสุขให้กับแฟน ๆ ก็เจอผลกระทบเข้าให้ จากที่เตรียมจะจัดเต็มงานเคาท์ดาวน์ คิวยาวข้ามปีก็ต้องชะงักถูกแคนเซิลงานกันเป็นแถว จากมาตรการแบ่งโซนควบคุมพื้นที่เสี่ยง และงดจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะงานเคาท์ดาวน์
ดับฝันกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป็นที่ทราบกันดีว่า หลังจากที่ไทยเศรษฐกิจพังยับเยินจากมาตรการล็อกดาวน์ ปิดเมืองปิดประเทศกว่า 3 เดือน ภาครัฐและเอกชนต่างระดมหัวกันออกมามาตรการ-โครงการที่หวังจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับมาคล่องอีกครั้ง ทั้งชิม ช้อป ใช้, เราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนละครึ่ง ที่ล่าสุดเพิ่งจะเปิดลงทะเบียนเฟส 2 ไปได้เพียงไม่ถึงสัปดาห์ดี ก็มีโควิดคลื่นใหญ่ซัดกลบ เพราะผลกระทบจากการแบ่งโซนพื้นที่เสี่ยง และความวิตกกังวลของประชาชน ที่ไม่กล้าจะออกไปจับจ่ายใช้สอยอย่างที่เคย
กลางปีหน้าวัคซีนถึงไทย ความหวังใหม่ชีวิตปกติ
“วัคซีน” ความหวังที่หลายคนรอคอย ว่าจะเป็นจุดจบของไวรัสโควิด-19 และทำให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดไทยได้ทำพิธีลงนามสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 กับบริษัท AstraZeneca เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยงบประมาณกว่า 6 พันล้านบาท โดยอย่างช้าไม่เกินกลางปีหน้า ประเทศไทยจะได้ใช้วัคซีนจำนวน 26 ล้านเข็ม ซึ่งจะครอบคลุมประชากรราว 13 ล้านคน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ และผู้สูงอายุ