เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ล่าสุด พบผู้ป่วยรายใหม่ 194 ราย เป็นติดเชื้อในประเทศ 181 ราย กลับจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันของรัฐ 13 ราย ไ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 6,884 ราย หายป่วยแล้ว 4,240 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 61 ราย
ผู้ป่วยใหม่ 194 ราย แบ่งเป็น กลับจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 13 ราย คูเวต 1 ราย รัสเซีย 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย ตุรกี 2 ราย ฮ่องกง 1 ราย แคนาดา 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย มาเลเซีย 1 ราย อนโดนีเซีย 1 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย
ติดเชื้อในประเทศ 181 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่จากระบบเฝ้าระวังละระบบบริการ 172 ราย เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สมุทรสาคร 11 ราย คลัสเตอร์ระยอง 1 ราย มีประวัติไปสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน อาชีพเสี่ยง 32 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 128 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 9 ราย
ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกใน 3 จังหวัดคือ มหาสารคาม หนองคาย และกาญจนบุรี รวมพบผู้ติดเชื้อแล้ว 52 จังหวัด
ขณะที่ "น้ำหวาน" ลูกสาวนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ขออนุญาตแจ้งอัปเดตการเข้ารักษาโรคของคุณพ่อนะคะ พ่อเข้าโรงพยาบาลด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกเหมือนจะมีไข้ค่ะ ก่อนหน้านี้คนรอบตัวไม่ได้สงสัยเลยเพราะคิดว่าเกิดจากที่พ่อไม่ได้นอนหลายวัน ก่อนจะตั้ง รพ.สนาม จึงเข้าไปตรวจเช็ก เพราะหากตรวจพบเชื้อในภายหลัง คนอาจคิดไปว่าพ่อติดเชื้อจาก รพ.สนาม แปลว่า รพ.นี้ ไม่ปลอดภัย ระบาดมาสู่ผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงได้ เมื่อเข้ารักษาตัวจึงพบว่า ปอดอักเสบ
คุณหมอจากทั้ง รพ.สมุทรสาคร และ รพ.ศิริราช จึงวินิจฉัยและลงความเห็นให้ย้ายไป รพ.ศิริราช เพราะพ่อมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุเยอะ โรคประจำตัวหลายอย่าง ร่างกายอ่อนเพลียจากการไม่ได้นอนต่อเนื่องหลายวัน (ไม่ได้ย้าย รพ. ไปเพราะพ่อคุ้นเคยกับศิริราชตามที่เป็นข่าวนะคะ) สำหรับอาการในปัจจุบัน เป็นไปตามที่ คุณหมอประสิทธิ์ วัฒนาภา และคุณหมอนิธิพัฒน์ เจียรกุล ได้กรุณาให้ข่าว หรือโพสต์ลง facebook ของท่านไว้เลยค่ะ
ตั้งแต่เข้า รพ. การหายใจของพ่อ บางวันดีขึ้น บางวันแย่ลง วันนี้แย่ลงอีกครั้ง จนต้องเพิ่มการหายใจและควบคุมระบบทางเดินหายใจให้ได้ตามความเข้าใจจากที่หวานได้สอบถามคุณหมอเบื้องต้น ทราบว่าระยะการดูแลเรื่องหายใจนี้ จะอยู่ที่ 1-3 วัน และระยะที่ต้องเฝ้าระวังที่สุด คือ 1 - 2 สัปดาห์แรก ถ้าพ้นจาก 2 ระยะนี้มาแล้ว และอาการดีขึ้น ถึงจะเรียกว่าปลอดภัย
สำหรับสถานการณ์ใน จ.สมุทรสาคร วันที่ 31 ธ.ค.63 พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 104 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 1,738 ราย
กรณีศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 จังหวัดนนทบุรี โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เเจ้งข้อมูลผู้ป่วยยืนยัน "ตลาดบางใหญ่" เป็นผู้ป่วยยืนยันติดโควิด ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอความร่วมมือปิดพื้นที่ โดยเฉพาะตลาดกลางบางใหญ่ มีการปิดพื้นที่ตลาด ตั้งแต่ 30 ธ.ค.-3 ม.ค.64 และทำการขอความร่วมมือพ่อค้า แม่ค้านำของออกจากตลาด ก่อนทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19
บรรยากาศในช่วงบ่ายที่ผ่านมา บริเวณตลาดกลางบางใหญ่ที่อาคารโดม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งจุดตรวจโควิด-19 โดยจะเห็นได้ว่ามีประชาชนคนไทย กว่า 200 คนแบ่งแถว ด้วยกัน 2 แถว เพื่อเรียงคิวตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ทุกคนตระหนักถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีการเว้นระยะห่างเพื่อเข้ารับการตรวจ อีกทั้งมีจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมืออีกด้วย
การปฏิบัติงานของทีมสาธารณสุขนั้น จะมีจุดตรวจ 4 สถานี โดยสถานีที่ 1 คือ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สถานีที่ 2 พนักงานจะกรอกข้อมูลของผู้เข้ารับการตรวจ สถานีที่ 3 ซักประวัติผู้ตรวจ โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของการเว้นระยะห่าง มีโต๊ะในการซักประวัติ 6 โต๊ะ ห่างกันโต๊ะละ 1.5 เมตร และสถานีที่ 4 คือ การทำ SWAP โดยจะเป็นการตรวจหาสารคัดหลั่งโควิด-19 ในสถานีนี้จะมีจุดตรวจอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 โต๊ะ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามกับพนักงานสาธารณสุขว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเริ่มการตรวจหาสารคัดหลังของประชาชนที่อยู่ในบริเวณตลาดกลางบางใหญ่ โดยจะเริ่มตรวจตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. โดยไม่ได้มีการวางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะสามารถตรวจกี่คน อีกทั้งหากมีประชาชนที่รอต่อแถวเข้ามารับการตรวจยังคงมีอยู่ก็จะตรวจให้ครบจนหมด
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามกับนายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ บอกว่า หลังจากที่ทางจัดหวัดทราบเรื่องก็ได้ดำเนินการทุกภาคส่วน เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่เสี่ยง โดยในพื้นที่พักอาศัยตึกสีชมพูที่พบผู้ติดเชื้อนั้นได้มีการควบคุม โดยการปิดจุดการเข้าออกทั้งหมด ปิดล้อมไว้ไม่ให้มีการเคลื่อนย้าย โดยได้มีการควบคุมไว้ 14 วัน ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกโดยประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกเอาไว้ อีกทั้งได้มีการนำคนที่อยู่ในตึกทั้งหมดมาตรวจหาเชื้อในช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมา
โดยทางเทศบาลได้ร่วมประสานงานกับสาธารณสุข เพื่อตรวจหาเชื้อและทำความสะอาดตลาด โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส และบริเวณอากาศ ภายในตลาด ทั้ง 3 วันถึงจะเปิดตลาดได้ อย่างไรก็ตาม อ.บางใหญ่ ได้นำในศูนย์ดำรงค์ธรรมเป็นผู้รับเรื่องราวปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้พี่น้องมีความสบายใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปถึงประชาชนในพื้นบางใหญ่ได้ให้ความร่วมมือเข้ามาตรวจกันค่อนข้างเยอะ และฝากถึงว่ายังคงต้องระมัดระวังตัวดูแลตัวเอง และสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และรักษาระยะห่างด้วย
ในเวลา 17.30 น. ได้มีการนำอาหารส่งให้กับคนในตึกคอนโดสีชมพูทั้งหมด โดยช่วงเวลาในการจัดขนส่งอาหารนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 มื้อ ช่วงเช้าเวลา 7.00 น. ช่วงเที่ยงเวลา 11.30 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. โดยอาหารที่จะมอบให้เป็นอาหารปรุงสุกสำเร็จรูปแบบกล่องพร้อมทาน ซึ่งจำนวนของอาหารกล่องทั้งหมดนั้น เป็นจำนวน 1000 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม เนื่องจากมีผู้คนที่อยู่ในตึกและมีผู้พักอาศัยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่ต้องการอาหารก็สามารถเข้ามาขอรับอาหารพนักงานที่ดูแลได้
เวลา 18.00 น. ได้มีพนักงานมอบอาหารทั้งหมดให้กับผู้เข้าพักซึ่งจะมีหัวหน้าของชั้นในแต่ละชั้นจะจัดคนมารับอาหารที่จุดรับอาหารบริเวณทางเข้าประตูชั้น 1 ของตึกสีชมพู ซึ่งจะแบ่งการรับอาหารเป็นทีละชั้น เริ่มจากชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นสุดท้าย คือชั้นที่ 7 จนครบทุกชั้น
นายสง่า ศิริวิศาลสุวรรณ 72 ปี ผจก.คอนโดฯ สีชมพู บอกว่า ในคอนโดฯ สีชมพูแห่งนี้ มีผู้เข้าพักอาศัยเป็นแรงงานต่างด้าวและคนไทย รวมทั้งหมดประมาณ 600 คน ซึ่งเป็นคอนโดฯ สูง 7 ชั้น และมีห้องพักทั้งหมด 440 ห้อง จำนวนผู้พักประมาณ 180 ห้อง โดยเฉลี่ยห้องละ 3-4 คน
ในช่วงแรกที่มีการปิดกั้นนั้น มีแรงงานบางคนต้องการที่จะหนีออกไป แต่จับกลับมาได้หมดแล้ว ซึ่งตอนนี้ทางคอนโดฯ ได้ทำเรื่องขอเสบียงจากทางอำเภอ โดยขอวันละ 3 มื้อ และเรื่องของขยะมูลฝอยนั้น ได้ให้ผู้เข้าพักอาศัยเป็นผู้เก็บรวบรวมใส่ถุงดำ และไม่ให้หมักหมม เพื่อเป็นการป้องกันการเพิ่มเชื้อโรค
น.ส.อุดมลักษณ์ พงษ์สุพรรณ ผู้จัดการทั่วไปตลาดกลางบางใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดกลางบางใหญ่ มีทั้งตลาดกลางวัน ปกติแล้วเปิด 05.00-19.00 น. และกลางคืน ปกติแล้วเปิด 23.00-09.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ในครั้งนี้มีการปิดตลาดทั้งกลางวันกลางคืน เปิดอีกทีคือวันที่ 3 ม.ค.64 ซึ่งจะต้องให้ความร่วมมือกับทางราชการ ดังนั้นพ่อค้า-แม่ค้า เข้าใจ ให้ความร่วมมือในการปิดการค้า เพราะเชื่อมั่นว่าจะต้องช่วยกันทำให้ปลอดภัย
โดยตลาดเองในช่วงที่หยุดการค้าก็ไม่คิดค่าเช่า และยังไม่มีผลกระทบตอบกลับมาในด้านอื่นเช่น การขอลดค่าเช่า หรือขอพื้นที่อื่นเปิดขาย เพราะพ่อค้าแม่ค้าเข้าใจ ร่วมกันนำของออกเพื่อทำการล้างฉีดพ่น น้ำยาฆ่าเชื้อ ตนจึงขอขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าทุกคนที่ให้ความร่วมมือ พร้อมชื่นชม เพราะในช่วงนี้ซื้อของมาเตรียมขายในเทศกาล แต่ก็ต้องนำของออกไป ถือว่าทุกคนได้รับผลกระทบ แต่ก็ให้ความร่วมมือกันดี
น.ส.บุษดี สายรัตรน์ 29 ปี แม่ค้าในตลาด บอกว่า ตนเปิดร้านส้มตำและขายไก่ย่าง หลังจากปิดตลาดนั้นทำให้ตนขาดรายได้ต่อวันที่ทำได้ ประมาณ 10,000 บาท หากปิดตลาดทั้งหมด 3 วัน ทำให้สูญเสียรายได้กว่า 30,000 บาท โดยรู้สึกกังวลใจเรื่องของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่หากควบคุมเชื้อโรคภายใน 3 วันนี้ได้รู้สึกสบายใจขึ้น