จากเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวเดินจากกรุงเทพฯ มาท่องเที่ยวล่องเรือภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด บริเวณเขาตะแบก บ้านท่าคาน ม.2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้นั่งเรือยนต์ของ นายประคอง บุญเลี้ยง อายุ 50 ปี เพื่อข้ามไปเกาะกลางน้ำ แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม
กระทั่งทั้งหมดประสบเหตุเรือล่ม ทำให้มีผู้สูญหาย 3 ราย คือ นางรัชดา ปิดตาทเน อายุ 49 ปี แต่พบศพแล้วนำไปบำเพ็ญกุศลที่ต.ท่าตะเกียบ ฉะเชิงเทรา ซึ่งภรรยานายประคอง คนขับเรือ ส่วนนักท่องเที่ยว 2 คน คือ นายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี อยู่ระหว่างค้นหาเป็นวันที่ 3 และ 3.นายเทิดศักดิ์ ปราบภัย อายุ 52 ปี พบศพแล้วนำไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 30 ธ.ค.63 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 1 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังคงเกาะติดการค้นหาร่าง นายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี โดยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ทีมกู้ภัยพนม ทีมนักปะดาน้ำกรมเจ้าท่า กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำบลท่าตะเกียบ เจ้าหน้าที่อำเภอท่าตะเกียบ และชาวบ้านนำเรือกว่า 7 ลำ มาช่วยกันค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้า 08.00-16.00 น. แต่ก็ไร้วี่แววพบร่างนายตั้ง ท่ามกลางครอบครัวนายตั้ง ได้แก่ ลูกชายคนเล็ก นายภูริฉัตร ฮวดใช้ รวมถึงลูกสาว ลูกชาย และภรรยา มาปักหลักรอรับพ่อกลับบ้าน
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด ทีมข่าวทราบจากนายภูริฉัตร ว่า มีชาวบ้านในย่านนี้เข้ามาแนะนำว่าให้ไปหาร่างทรง ชื่อตาทอง เพื่อให้ช่วยค้นหาบอกพิกัด ตนจึงรีบพาครอบครัวเดินทางไปหาร่างทรงทันที ซึ่งร่างทรงตาทอง บอกว่า เป็นเจ้าที่ ซึ่งปกปักรักษาคุ้มครองชาวบ้านในย่านนี้ และสามารถสื่อสารกับตากาที่อยู่ศาลเจ้าพอเขากาได้ และได้ความร่วมกันว่า ให้ตนและครอบครัวปั้นหุ่นรูปคนเพศชาย เพื่อให้เป็นตัวตายตัวแทน และนำหุ่นนี้ไปโยนลงน้ำ บริเวณน้ำลึก และพร้อมจุดธูปขอเจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแม่คงคา ให้ปล่อยตัวพ่อตนเองออกมา ส่วนร่างของพ่อ ร่างทรงบอกว่าตอนนี้จมอยู่ห่างจากเรือไม่มาก อยู่ทางทิศใต้ ติดต้นไม้สีเขียว ติดไม่มากและจะมาช่วยด้วย
ทั้งนี้ใช้เวลาคุยกับร่างทรงชื่อตาทอง ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นตนจึงรีบเดินทางแวะซื้อดินน้ำมันที่ 7-11 และปั้นก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย พายังบริเวณจุดที่เรือล่ม และจุดธูป 9 ดอก เพื่อขอขมา และทำการโยนหุ่นปั้นลงไปในน้ำ
ส่วนการค้นหาพ่อของตนนั้น เชื่อว่าจมอยู่ใกล้ ๆ เรือ และเจ้าหน้าที่ก็บอกแบบนั้น แต่ขณะนี้ทำได้เพียง วนเรือตีน้ำ เพราะเจ้าหน้าที่นักประดา ไปปฏิบัติภาระกิจ รถตกน้ำ ซึ่งเพิ่งเจอศพ และคาดว่าเย็นวันนี้หากพ่อไม่ขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็จะดำน้ำลงไปค้นหา แต่ส่วนตัวก็ยังมั่นใจว่าวันนี้ครบ 3 วันแล้ว พ่อต้องขึ้นมาไม่เกินค่ำวันนี้ และทำใจแล้ว ส่วนครอบครัวก็เสียใจกันทุกคน พยายามทำใจ ถือว่าพ่อไปสบายไม่ต้องทรมาน จึงอยากให้พ่อขึ้นมาไว ๆ จะได้กลับบ้านที่บางปู ญาติและครอบครัวรออยู่ อยากให้กลับบ้าน
ทั้งนี้เวลาประมาณ 16.30 น. สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย, สมาคมสงเคราห์การกุศลฉะเชิงเทรา และป่อเต็กตึ๊ง เคลื่อนย้ายกำลังพลจากการค้นหาเหตุรถตกน้ำ มายังฝั่งที่มีเรือล่ม โดยปฏิบัติการรอบนี้จะไม่ใช้วิธีการดำน้ำแล้ว แต่จะร่องเรือและส่งทีมกบไปกู้เรือหางยาว 7 ศอก หรือ 3.5 เมตรออก ซึ่งหากไม่พบร่างผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าจะประเมินหน้างานและความพร้อม ก่อนทำการวนเรือค้นหา เพราะคาดการณ์ว่าร่างผู้สูญหาย 3 วันแล้ว เกินเวลา 48 ชม.แล้ว ร่างจะต้องลอยขึ้นเหนือน้ำ
ขณะที่เวลา 17.30 น. มีการปฏิบัติการกู้เรือซึ่งทีมข่าวสังเกตว่าใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถกู้เรือขึ้นมาได้ โดยใช้รถยกสูงผูกเชือกและดึงเรือขึ้นมา ซึ่งก็พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แบตเตอรี่สำรอง 1 เครื่อง และแว่นตา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นของนักท่องเที่ยวคนใด แต่ทางเจ้าหน้ายังไม่อนุญาตให้ใครหยิบจับ เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวมาเก็บพิสูจน์หลักฐานก่อน
นายวรวุฒิ พึ่งบารมีธรรม ผู้จัดการสมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย และนายตฤณ ใหม่เอี่ยม รองประธานกรรมการบริหาร สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะไม่ใช้ชุดประดาน้ำดำน้ำแล้ว เนื่องจากสูญหายนานกว่า 48 ชั่วโมง แต่เบื้องต้นใช้วิธีกู้เรือขึ้นมาก่อน คือจะใช้เชือกสลิงผูกเรือ 2 ลำ และถ่วงน้ำหนัก ลากเรือขึ้นมาก่อน หากระหว่างนี้ไม่พบร่างผู้สูญหาย ก็จะวนเรือหา เนื่องจากมีอุปกรณ์ส่องสว่างอยู่ เพราะคาดว่าร่างต้องลอยน้ำแล้ว แต่ความยากลำบากคือลมแรง อากาศเย็น และด้านล่างมีหนามไมยราบ ซึ่งไม่แน่ใจว่าร่างติดหนามด้านล่างหรือไม่
ส่วนจะใช้เวลาค้นหานานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ commander ที่แต่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.63 จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ และความพร้อมขอบทีม ซึ่งตอนนี้ยังคงใช้ทั้งหมด 3 ทีม และกำเสริมจากมูลนิธิสว่างสระแก้ว จำนวนครั้งละ 10 นาย ในการลงเรือปฏิบัติการค้นหา และใช้เรือ 3 ลำ
เวลา 18.25 น. เจ้าหน้าประเมินสถานการณ์ทันที โดยเบื้องต้นจะวนเรือหาร่างที่อาจจะลอยขึ้นเหนือน้ำ ถือเคล็ด นำเชือก ผ้าขาว และบอร์ด รับคนไข้ ลงเรือไปด้วย กระทั่งเวลา 20.35 เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหา หาผู้สูญหาย จากเหตุการณ์เรือล่มอ่างคลองสียัด