จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นแม่ของเด็กนักเรียน ที่ครูปรีชาสอนอยู่พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า การที่ครูปรีชานำเรื่องเกี่ยวกับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ไปเล่าให้เด็กฟังจะกลายเป็นการครอบงำเด็กนักเรียนนั้น ซึ่งครูปรีชาได้ออกมาปฏิเสธว่าตนไม่เคยใช้อคติสอนเด็ก โพสต์ดังกล่าวอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายตน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน:
ครูปรีชา โต้ครอบงำเด็ก ลั่นพวกใส่ร้ายเจอแน่ จ่อฟ้อง “จรูญ” กลับ แจ้งความเท็จ)
วันนี้ (27เม.ย.)
นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี เปิดเผยว่า ตนได้ตรวจสอบหน้าเฟซบุ๊กของผู้โพสต์แล้ว พบว่าเป็นเพียงเฟซบุ๊กปลอม และต้องการสร้างกระแสให้สังคมเข้าใจตนผิด ซึ่งตนก็อยากบอกบุคคลเหล่านี้ว่า สิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง การละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นก็จะมีบทลงโทษเมื่อถูกจับได้ ขณะนี้ทนายตนได้รวบรวมข้อมูลฟ้องร้องกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีตัวตนอยู่จริงประมาณ 5 ราย แม้ว่าจะตนเองยอมรับความเห็นของทุกคน แต่บางเรื่องไม่ใช่เรื่องจริงซึ่งตนอยากให้มาถามตนด้วยตัวเอง
เบื้องต้น ตนได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับทนายษิทราแล้ว ในข้อหาละเมิดสิทธิ์ของตนและการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะตนมีหลักฐานที่อีกฝ่ายกล่าวหาตนอย่างชัดเจน ส่วนตัวไม่กังวลหากเขาต่อสู้คดี ตนมองว่าคนผิดควรได้รับโทษ สิ่งที่เขาละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดี ตนและทีมทนายกำลังรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาตนบนสื่อออนไลน์ด้วย ซึ่งตนอยากฝากบอกว่า หากลบทันก็ลบไปก่อน เพราะขณะนี้จะจัดเต็มกับทุกราย
นอกจากนี้ ก่อนจะขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก ตนไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เตรียมเพียงข้อเท็จจริงที่จะนำสู่กระบวนการศาล ในการตอบข้อซักค้านของอีกฝ่าย ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือความจริงที่ตนมีอยู่แล้ว จึงแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ซึ่งตอนนี้ตนอยากให้ทุกคนมองว่าตัวเองคือผู้เสียหายในคดีนี้ การเป็นผู้เสียหายก็ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนไปแจ้งความไว้ แต่สิ่งที่ตนแจ้งความกลับถูกสังคมประณาม แม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้น มีหลายๆ คนมาให้กำลังใจตนถึงที่บ้าน ก็ขอบคุณมาก ส่วนความคิดเห็นของคนอื่นๆ ตนก็น้อมรับคำติชม ตนอยากให้ผลการตัดสินของศาลออกมาก่อน
สำหรับหนังสือเรื่อง "คำพิพากษาของสังคม ในคดีหวย 30 ล้าน" ที่ตนเตรียมตีพิมพ์นั้น ก็มีแรงบันดาลใจจากคดีความ และการถูกสังคมพิพากษา ตนอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นแนวคิดและแรงผลักดัน รวมถึงสะท้อนมุมมองของผู้เสียหายแต่ถูกสังคมประณาม ตนจึงอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นการวางแผนชีวิตแนวทางของบุคคลอื่นๆ ซึ่งตอนนี้กำลังส่งต้นฉบับให้คุณครูฝ่ายภาษาไทยตรวจความถูกต้องของภาษา คาดว่าต้นเดือนหน้า (พ.ค.) จะสามารถตีพิมพ์สู่สังคมได้ ตนอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นกำลังใจให้กับหลายๆ คนที่มีคดีความ และถูกสังคมพิพากษาในขณะที่เป็นผู้เสียหาย
ขณะนี้มีคนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม บางรายมีโทรศัพท์มาสั่งจอง รวมถึงเดินทางมาให้กำลังใจตนพร้อมกับของฝากด้วย ตนอยากให้ทุกคนติดตามหนังสือเล่มนี้ เพราะเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นบทเรียนให้กับสังคมและคนไทยทั้งประเทศ ส่วนการซื้อลอตเตอรี่ตอนนี้ตนไม่มุ่งเน้นเลขใดเป็นพิเศษ หากจะซื้อก็ซื้อเพื่อช่วยรัฐบาลกับแม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ไม่หมดเท่านั้น
นอกจากนี้ ครูปรีชา ยังได้ให้ทีมข่าวดูคำนำของหนังสือที่เขียน แต่ยังคงไม่เปิดเผยเนื้อหารายละเอียด โดยเขียนเป็นลายมือของครูเอง ซึ่งมีชื่อหนังสือ อยู่บนสุดของหน้ากระดาษคำนำระบุว่า "ผมเป็นคนเดินช้า แต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง หนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตนในวัย 50 ปี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า หลายๆคนมองว่าตนชอบซื้อหวย ซื้อลอตเตอรี่แต่ไม่มีใครรู้ในสิ่งลึกๆที่ซ่อนอยู่ในคำว่า “หวย” คืออะไร โดยมองเรื่องหวย หมายถึง ความเสี่ยง ซึ่งทำให้เกิดพลังงานที่กระตุ้น ที่ออกมาจากจากใจ
หวย คือ สิ่งที่ทำให้มีเงินมาให้คนรอบข้างผม โดยไม่ต้องยุ่งกับเงินเดือน เงินของครอบครัว คนรอบข้างจะบอกว่า ผมเกิดมาโชคดีถูกหวยบ่อย สิ่งที่แรกที่ถูกหวยคือ ทำบุญ และให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน ให้ทุนคนเฒ่าคนแก่ไปทำบุญได้มีความสุขในวัยใกล้ฝั่ง ความโชคดี คือ สิ่งที่เป็นบุญที่ได้กระทำจากชาติที่แล้ว และชาตินี้มันจึงเป็นสิ่งที่ฝังใจผมเสมอว่า เมื่อเป็นคนโชคดี ก็ต้องเผื่อแผ่เพื่อนมนุษย์ให้มีความสุขเช่นกัน"