กรณีเมื่อวันที่ 2 ม.ค.64 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายคลั่ง ฆ่าปาดคอผู้เป็นย่าของตัวเอง อายุ 66 ปี จนเสียชีวิตคาบ้านพัก กลางเมืองอุดรธานี ก่อนจะไปไล่แทงหมอนวดเเผนโบราณภายในร้านนวด จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในโรงพยาบาล แล้วใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจนได้รับบาดเจ็บ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
นักเรียนนอกคลั่งปาดคอย่า บุกแทง-ยิงคนดะ อ้างได้ยินคำสั่งในหู - ปู่ชี้ไม่กินยาจิตเวช
โดยในเวลาต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายกิตติภัฏ เลิศอำนวยลาภ อายุ 22 ปี พร้อมเเจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนและอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ หรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร เเละทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากเเข้ง อ.เมืองอุดรธานี เป็นสถานที่จัดพิธีศพของนางอนงค์ เลิศอำนวยลาภ อายุ 66 ปี ผู้เสียชีวิต เเต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ผู้มาร่วมงานจึงมีเพียงญาติบางส่วนเท่านั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.อรอุมา เลิศอำนวยลาภ ลูกสาวผู้เสียชีวิต และเป็นอาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลานชายเริ่มมีอาการทางจิตเมื่อเดือน ก.พ.63 ขณะนั้นเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยหลานชายมีอาการเครียด เเละเมื่อ 3 เดือนที่เเล้ว ได้บอกกับพ่อเเม่ว่าอยากกลับมาอยู่ที่บ้านกับปู่ย่า ทางพ่อเเม่จึงให้เดินทางมา เพราะเชื่อว่าอาการอาจดีขึ้น พร้อมส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล เเพทย์ได้รักษาโดยการให้ยา เเล้วให้อยู่ที่บ้าน
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่หลานอยู่ที่บ้านกับปู่ย่า เคยมีอาการเเปลก ๆ คือ เพ้อ หูเเว่ว ได้ยินเสียงต่าง ๆ นานา เเละอาการเคยกำเริบหนักถึงขั้นเคยบีบคอพี่สาวมาเเล้ว 1 ครั้ง เเต่ก็ไม่คิดว่าจะหนักมากถึงขนาดนี้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนตัวก็กังวลมาตลอด จึงอยากให้หลานรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เเต่ทางโรงพยาบาลไม่รับ โดยระบุว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ ให้ทานยาอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าหลานได้ทานยาบ้างหรือไม่ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากสื่อสารไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ควรรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ควรให้ออกมาข้างนอก เพราะจะเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง
น.ส.อรอุมา กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเต่ไม่ได้โกรธหลาน เพราะหลานทำไปโดยไม่รู้ตัว ทุกคนรักหลาน โดยเฉพาะย่ารักหลานมาก ๆ และทั้งคู่มักจะหยอกล้อกันประจำ ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุเเบบนี้ ส่วนพ่อเเม่ของผู้ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ที่ประเทศอังกฤษ หลังจากทราบข่าวก็อยู่ในอาการเสียใจ เเต่ไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 เเต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษไปยังผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายด้วย และจากนี้ทางญาติจะเข้าไปพูดคุยเพื่อรับผิดชอบต่อไป
ขณะที่ สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา คือ นายกิตติภัฏ เลิศอำนวยลาภ อายุ 22 ปี มาสอบปากคำพร้อมทนายความ เเต่ไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ดังนั้นในวันที่ 4 ม.ค.64 พนักงานสอบสวนจะส่งตัวไปยัง รพ.จิตเวชขอนเเก่น เพื่อรักษาอาการทางจิต เป็นเวลา 45 วัน ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต จากนั้นเเพทย์จะเป็นผู้พิจารณา หรือหากอาการดีขึ้นพอที่จะให้ปากคำได้ จึงจะนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
โดยหลังจากพูดคุยกับพนักงานสอบสวนเสร็จ จังหวะที่ผู้ต้องหาเดินออกจากห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าทำไปเพราะอะไร แต่นายกิตติภัฏ อยู่ในอาการนิ่ง ไม่ตอบคำถามใด ๆ ของผู้สื่อข่าว ก่อนจะเดินเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการล่าสุดปลอดภัยเเล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลงดเยี่ยมทุกกรณี ทีมข่าวพยามติดต่อไปยังญาติ เเละตัวผู้บาดเจ็บ เเต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า ยังไม่พร้อมที่จะพูด เนื่องจากสภาพจิตใจยังย่ำเเย่