เจ๊รักแร้เหนียวสุดแสบ หลอกแท็กซี่พาหนีอ้างเมียหลวงรุมตบ ลวงเปลี่ยนคันอุบพิกัดบ้าน (คลิป)

7 ม.ค. 64

หลังจากที่ทางอมรินทร์ ทีวี ประกาศตามหาเจ้าของรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 ฆข 3176 กทม. กระทั่งวันที่ 7 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.คลองคลวง ได้มีการสืบหาข้อมูลจนสามารถเรียกผู้ขับขี่รถมาสอบปากคำที่โรงพักในช่วงเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา

916086

ล่าสุดวันที่ 7 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่สถานนีตำรวจทางหลวง 1 (อยุธยา) ต.เชียงราก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยกับนายประสงค์ คุ้มครองทรัพย์ เจ้าของรถแท็กซี่ ที่พาป้ามหาภัยหลบหนี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.64 เวลาประมาณ 22.00 น. ตนจอดรถรอผู้โดยสายอยู่หน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ จู่ ๆ ป้ามหาภัยก็เปิดประตูฝั่งผู้โดยสารเข้ามาบนรถ แล้วบอกกับตนด้วยท่าทีตกใจ และรีบร้อนว่า “ไปเร็ว ๆ พาหนีหน่อย” พวกเมียหลวงพาพวกผู้ชายมารุมทำร้าย

148868

ทั้งนี้ตนจึงสอบถามว่าให้ไปส่งที่ไหน แต่ป้ามหาภัยก็กวักมือแล้วบอกให้ไปก่อน ๆ ตนจึงขับรถออกไป ซึ่งตนยืนยันกับทีมข่าวเลยว่า ไม่ได้ยินเสียงน.ส.แอน ตะโกนจริง ๆ เนื่องจากว่าตนอยู่ในรถ ตอนนั้นตนเห็นหน้าของป้ามหาภัย มีรอยขีดข่วนแดง ๆ ที่ใบหน้าข้างขวา ตนจึงคิดว่าป้ามหาภัยพูดเรื่องจริง

cg_2

เมื่อขับออกรถมาได้สักพัก ป้าก็พูดว่า "ฉันเป็นเมียน้อยเขา ผัวมันโง่มาติดฉันเอง แล้วก็พาพวกมารุมทำร้ายฉัน" ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย จึงไม่ได้ถามถึงสาเหตุ และบรรยากาศบนรถก็เงียบลง แต่ตนตัดสินใจที่จะถามป้ามหาภัยอีกรอบว่า “สรุปแล้วจะให้ไปส่งที่ไหน” ป้าจึงตอบไปว่าตรงไปเรื่อย ๆ ก่อน

560860

จากนั้นตนขับเลยช่วง รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต ป้ามหาภัยก็ถามตนว่าถึงไหนแล้ว ขอให้ตนพาไปขึ้นแท็กซี่คันใหม่อีกคัน โดยอ้างว่าเมียลวงอาจจะตามมาเจอ ตนก็บอกไปแล้วว่าสบายใจได้ เนื่องจากมองกระจกข้างแล้วไม่พบว่ามีใครตามมา ซึ่งระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปทางนวนคร ก็ไม่มีรถแท็กซี่เลย และรู้สึกว่าจะออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ตนจึงตัดสินใจกลับรถ และแนะนำพาป้ามหาภัยว่าไปต่อรถที่สถานนีตำรวจทางหลวง1 (อยุธยา) เผื่อป้าจะแจ้งความ เพราะต่อให้เป็นเรื่องผัวเมีย แต่มีการทำร้ายร่างกายก็ควรจะแจ้งความ

282008

อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะมีแท็กซี่ พอมาจอดด้านหน้าสถานีตำรวจ ป้าบอกกับตนว่า ขอรีบกลับไปบ้านก่อน ซึ่งค่ารถในตอนนั้นราคา 97 บาท พร้อมยื่นเงินสดเป็นแบงก์ 50 บาท จำนวน 2 ใบ ขณะนั้นตนกำลังจะเปิดไฟเพื่อหยิบเหรียญ แต่ป้ามหาภัยบอกว่า "อย่าเปิด เดี๋ยวพวกเมียหลวงมันเห็น" ตนจึงไม่ได้เปิดไฟด้านในรถ และไม่ทันได้ยื่นเงินทอน 3 บาทให้ ป้าก็ปิดประตูรีบไปขึ้นรถแท็กซี่อีกคัน (สีชมพู) ที่จอดอยู่ด้านหน้า ซึ่งตนก็จำทะเบียนไม่ได้ เนื่องจากตนไม่ทราบว่าป้าเป็นผู้ต้องหา แต่ตนเอะใจว่าป้าโดนรุมทำร้าย ทำไมป้าไม่รีบแจ้งความก่อน

318702

แต่ตนมารู้ในภายหลังจากไฟแนนซ์ว่า อมรินทร์ ทีวี ตามหาเจ้าของรถอยู่ให้รีบแสดงตัว ซึ่งตนก็ติดต่อมาทางที่สถานีแล้ว และตัดสินใจไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งตนก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง เพื่อให้จับตัวป้ามหาภัยให้ได้ไว ๆ ส่วนตัวค่อนข้างสงสารผู้เสียหายที่ทำงานแบบหาเช้ากินค่ำ ค่าแรงก็ได้ไม่เยอะ ไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับใครอีก

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพิ่งสอบปากคำแท็กซี่เสร็จ ขอเวลาให้ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยหาทะเบียนของรถแท็กซี่สีชมพู คันที่ป้ามหาภัยเปลี่ยนรถ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบหาข้อมูลต่อไป

508052

ทีมข่าวจึงเดินทางไปที่วัดคุณหญิงส้มจีน ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งด้านหลังวัดเป็นชุมชนวัดคุณหญิงส้มจีน โดยทีมข่าวเข้าไปเปิดรูปและคลิปป้ามหาภัย พร้อมสอบถามชาวบ้านว่า เคยเห็นคนในรูปหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าไม่รู้จัก

295255

นายเกียรติศักดิ์ สันติเพชร อายุ 37 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่เกิด และปัจจุบันประกอบอาชีพขี่วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง มานานกว่า 10 ปี หลังจากที่ทีมข่าวได้เปิดรูปถ่ายและคลิปวิดีโอให้ดู ตนก็จำได้ว่าเป็นข่าวที่อมรินทร์ ทีวี นำเสนอไปล่าสุด ว่ามาก่อเหตุในละแวกนี้

763103

จากข้อมูลที่ป้ามหาภัยมีการเดินทางมาแถวนี้ ตนยืนยันได้ว่า ป้ามหาภัยคนนี้ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่แน่นอน เนื่องจากตนอาศัยอยู่ในพื้นที่มานาน ก็จะค่อนข้างรู้จักและจำหน้าชาวบ้านในพื้นที่ได้ หากเป็นคนที่มาอยู่ใหม่ หรือเคยเห็นหน้าก็จะรู้เลยว่าไม่ใช่คนแถวนี้

ส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่ผู้เสียหายได้พบเจอตัวป้าล่าสุดแล้ว แต่ไม่สามารถจับตัวได้ ซึ่งตนก็เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย อยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้ไว ๆ จะไม่ได้ไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีก พนักงานส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา ทำงานหนักกว่าจะได้ค่าแรง แต่ป้าก่อเหตุไม่กี่นาทีได้ไปแล้ววันละ 500 บาท

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส