จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "Survive สายไหมต้องรอด" แชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งอาเจียนออกมา หลังดื่มน้ำมนต์จากพระอาจารย์วัดดัง ระบุประมาณว่า คุณไสยปี 2021 มนตร์ดำที่ยังคงมีอยู่จริง โดยเจ้าตัวถูกอดีตแฟนหนุ่มทำของใส่ทำให้มีอาการเหม่อลอย และอยากเจอหน้าอยู่ตลอดเวลานั้น
ล่าสุด วันที่ 7 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางมายังวัดสายไหม นางสาวฝ้าย (นามสมมติ) อายุ 23 ปี หญิงสาวในคลิป เดินทางมานั่งกรรมฐานถอดของออกจากร่างกาย พร้อมเปิดใจเล่าว่า ตนทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในวันที่ 9 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา นายบอส (นามสมมติ) อายุ 31 ปี อดีตแฟนหนุ่มมากินข้าวจึงได้รู้จักกัน จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ตกลงคบหากับนายบอส แต่มีความสุขแค่เพียง 1 เดือน เนื่องจากนายบอสเริ่มที่อยากจะเก็บตนไว้คนเดียว ไม่ยอมให้ตนแบ่งเวลาให้ลูกสาวของตน ซึ่งเป็นลูกติดอายุ 8 ขวบ และครอบครัว ทำให้ตนและนายบอสเริ่มทะเลาะกันเรื่อยมา แต่เลิกกันไม่ขาด
จนกระทั่งเดือนกันยายน นายบอสได้บอกกับตนว่าจะพาตนไปพบกับพ่อดำ ฆราวาสที่นับถือ เพื่อความสัมพันธ์ การเงิน การงาน จะได้ดีขึ้น โดยพ่อดำได้บอกให้ตนเปลี่ยนชื่อเป็น "ตะมิสา" เนื่องจากชื่อจริงของตนไม่มีวาสนา พร้อมให้ตนเขียนชื่อใส่กระดาษ นำการดาษใส่ไว้ในปิ่นโต 5 ชั้น พร้อมอาหารแล้วนำไปลอยน้ำ แต่ตนก็ไม่ได้เปลี่ยนชื่อ
จากนั้นก็ได้ให้บทสวดมนต์แก่ตนเพื่อนำกลับไปสวดก่อนนอน ตนสวดได้เพียง 3 คืน ก็ต้องหยุดสวดเนื่องจากตนรู้สึกร้อน ตาพร่ามัว ไม่ค่อยมีสติ นีกถึงแต่หน้าของนายบอส นอกจากนี้ พ่อดำยังพยายามบอกให้ตนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แต่ตนก็ไม่ได้เปลี่ยน
ต่อมาตนมีนัดต้องไปพบพ่อดำเพื่ออาบน้ำมนต์ แต่ยายของตนห้ามไว้ ตนคบกับนายบอสเรื่อยมาจนวันปีใหม่ที่ผ่านมา ตนรู้สึกว่าตนหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ อยากจะเจอแต่นายบอสตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ได้รัก แม่และยายห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง ตนไม่เคยเถียงแม่และยายมาก่อน ทางครอบครัวและเพื่อนจึงแนะนำให้ตนมาพบกับ พระครูโสภณภัทรเวทย์ หรือ พระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม เจ้าอาวาสวัด สายไหม เพื่อหาทางแก้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 64
จากนั้น พระอาจารย์อ๊อดได้ให้ตนดื่มน้ำมนต์ครึ่งขัน ตนก็อาเจียนออกมาเป็นน้ำและก้อนเนื้อเล็ก ๆ ทั้งที่ตนไม่ได้กินอะไรตั้งแต่คืนวันที่ 5 ม.ค. 64 ซึ่งสรุปได้ว่าตนโดนทำเสน่ห์ใส่ พระอาจารย์อ๊อดจึงได้ให้ตะกรุดมาไว้ป้องกันคุณไสย
ล่าสุด วันนี้ตนได้มานั่งกรรมฐานที่วัด ตนหลับตาฝั่งซ้ายเป็นแสงสีขาวรูปร่างคล้ายคน ไม่เห็นหน้า ส่วนฝั่งขวาเป็นเงาดำรูปร่างขมุกขมัว กำลังแผ่รังสีใส่กัน คล้ายกับจะพยายามดึงตัวของตนไปมา ขณะนั้นตนของตนที่กำลังนั่งกรรมฐานอยู่สั่นไปทั้งตัว
ทั้งนี้ ตนคาดว่าตนน่าจะถูกป้ายยาเสน่ห์ตั้งแต่วันแรกที่ตนพบกับนายบอส นายบอสพยายามที่จะแตะตัวของตนอยู่ตลอด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนตกลงคบกับนายบอสภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งที่คนจะคบหากันควรรู้จักกันอย่างน้อย 3-4 เดือน
และเมื่อคบหากัน ตนก็น่าจะถูกป้ายยาเสน่ห์มาเรื่อย ๆ สังเกตได้จากที่นายบอสชอบขอเข้ามาจับตัว ขอเข้ามากอด มาหอม จนตนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะนี้ตนยังคงรู้สึกโกธรนายบอสอยู่ แต่ตนต้องขอโทษหากนายบอสไม่ได้ทำเสน่ห์ใส่ตนด้วย
พระครูโสภณภัทรเวทย์ หรือ พระอาจารย์อ๊อด เจ้าอาวาสวัดสายไหม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ครอบครัวของนางสาวฝ้ายพามาพบกับอาตมา เพื่อขอความช่วยเหลือ คาดว่าถูกทำของใส่ มีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง เล่าเหตุการณ์ไม่ค่อยถูก และเริ่มจำตัวเองไม่ได้ อาตมาจึงได้เสกน้ำมันต์ให้นางสาวฝ้ายดื่ม จนกระทั่งเจ้าตัวอาเจียนออกมาเป็นน้ำ มีบางสิ่งบางอย่างปะปนอยู่ คาดว่านางสาวฝ้ายน่าจะถูกทำเสน่ห์จำพวกน้ำมันพรายป้ายหรือแต้มใส่มานานเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และโดนมาเรื่อย ๆ โชคดีที่ยังไม่มีอาการวิกลจริต
วันนี้อาตมาจึงบอกให้นางสาวฝ้ายกลับมาอาบน้ำมนต์ที่วัด และนั่งกรรมฐานเป็นเวลา 30 นาที เพื่อแก้กรรม และแผ่เมตตาให้สรรพสิ่ง รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร ขณะนี้อาตมาถอนของออกจากร่างกายของนางสาวฝ้ายหมดแล้ว แต่เจ้าตัวยังคงต้องรักษาอาการอยู่เรื่อย ๆ จนหายดี
ทั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าในยุคปัจจุบันยังคงมีคนทำของใส่กัน อาตมาไม่ทราบเจตนาของผู้ที่ทำของใส่ อาตมามีหน้าที่เพียงช่วยเหลือ พร้อมทั้งขอฝากถึงบุคคลทั่วไป ต้องทำในสิ่งที่ดี ขอให้คิดถึงครอบครัวของตัวเองและคนอื่นด้วย
ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปหานายบอส (นามสมมติ) อดีตแฟนหนุ่มของนางสาวฝ้าย ระบุว่า ตนไม่เคยทำของใส่นางสาวฝ้าย หากตนมีน้ำมันพรายจริง ตนคงจะมีผู้หญิงมาติดพันหลายคนไปแล้ว ตนไม่ใช่คนโรคจิตที่จะว่างทำของใส่คนอื่น ตนยอมรับว่าตนเคยพานางสาวฝ้ายไปพบกับบุคคลที่ตนนับถือเพื่อที่จะเสริมสิริมงคลเท่านั้น แต่ตนไม่เคยทำเสน่ห์ใส่ใคร ส่วนบทสวดมนต์ที่นางสาวฝ้ายได้รับไปก็เป็นเพียงบทสวดมนต์ทั่วไปเท่านั้น ซึ่งตนเลิกกับนางสาวฝ้ายนานแล้ว เนื่องจากนางสาวฝ้ายเป็นฝ่ายหนีหน้าแล้วเลิกติดต่อกับตนเอง ดังนั้นที่นางสาวฝ้ายบอกว่าโดนเสน่ห์แล้วคิดถึงตนนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งแม่ของฝ่ายหญิงยังต่อว่าตน ขอให้ตนเลิกยุ่งกับนางสาวฝ้าย สุดท้าย ตนอยากจะบอกว่าตนหมดรักกับนางสาวฝ้ายแล้ว และไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีก อยากจะให้นางสาวฝ้ายคิดดี ๆ ว่าของที่โดนเป็นของตัวเองที่ทำไว้ แล้วเข้าตัวหรือไม่
ทีมข่าวยังได้พูดคุยสอบถามเณรแอ เกี่ยวกับน้ำมันพราย และวิธีสังเกตอาการและวิธีถอน เณรแอ บอกว่าขณะนี้การทำน้ำมันพรายนั้นผิดกฎหมาย น้ำมันพรายมี 2 แบบ ทำได้ 2 วิธี ได้แก่ 1.น้ำมันพรายจากศพผีตายท้องกลม 2.น้ำมันที่ได้จากใต้เมรุที่ใช้เผาศพคน เรียกว่าน้ำมันผี ซึ่งน้ำมันพรายมีฤทธิ์มากกว่าน้ำมันผี โดยน้ำมันพรายทั้ง 2 ชนิดนี้ เมื่อได้มาจะต้องทำพิธีปลุกเสกใส่เถ้ากระดูก เช่น ผีตายโหงในวันอังคารหรือวันเสาร์ เพื่อเพิ่มความขลัง ซึ่งคนที่ถูกป้ายน้ำมันพรายชนิดแรง จะรักจะหลงคนป้ายภายใน 1 ชั่วโมง
คนที่ถูกป้ายน้ำมันพรายจะไม่รู้ตัวเอง บังคับตัวเองไม่ได้ อาการคือ 1.สนใจแต่คนที่ป้ายน้ำมันพราย ไม่สนใจคนอื่น 2.หน้าตาหมองคล้ำ 3.เหม่อลอย นึกถึงแต่คนที่ป้ายน้ำมันพราย 4.เชื่อฟังคนที่ป้ายน้ำมันพรายให้มาหา ให้ทำอะไรก็จะทำ ซึ่งหากใครถูกป้ายน้ำมันพรายบ่อย ๆ จะมีอาการหนักในวันพระ ไม่หนักถึงขั้นเสียชีวิต เพราะเหสมือนตายทั้งเป็นไปแล้ว
สำหรับวิธีแก้ไข คนที่ถูกป้ายร้ำมันพรายจะต้องอาบน้ำมนต์ จดชื่อวันเดืนปีเกิดแล้วนั่งสวดบทถอดถอน พกของป้องกันติดตัว เช่น ตะกรุด สุดท้ายตนขอฝากไปถึงคนที่เที่ยวนำน้ำมันพรายไปป้ายคนอื่น ขอให้อย่าทำ ยิ่งนำไปป้ายคนมีครอบครัว ก็จะมีแต่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก