สลด! เน็ตไอดอล “พิพลอย” เก๋งคว่ำดับลูกน้อยรอด แม่เล่านาทีช็อกวิดีโอคอลก่อนตาย (รูป)

กรณีเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค.64 ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้าแล้วตกลงข้างทาง บริเวณหน้าเกษตรไพศาลธัญกิจ หมู่ที่ 2 ถนนหมายเลข 11 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นิสสันสีขาว ทะเบียน 4 กจ 8920 กรุงเทพฯ เสียหลักชนเสาไฟฟ้า ก่อนจะพุ่งลงข้างทางจนสภาพพังยับเยิน

เมื่อตรวจสอบภายในรถ พบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.พัชราพร อินทร์เทศ หรือ พิพลอย อายุ 24 ปี นายสันติภาพ วงศ์บางชวด อายุ 25 ปี แฟนหนุ่ม ด.ญ.พิมพาลา อายุ 4 ขวบ และด.ช.ธานินทร์ อายุ 3 เดือน โดยน.ส.พัชราพร อยู่ในอาการหมดสติ ปลุกไม่ตื่น เจ้าหน้าที่เร่งทำ CPR และนำส่ง รพ.วัดโบสถ์ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค.64 เวลา 12.00 น. ที่นิติเวช รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก นางสมคิด อินทร์เทศ อายุ 48 ปี ชาว ต.นาดี อ.เมือง จ.พิษณุโลก แม่ของน้องพิพลอย ที่เดินทางมากับนายสันติภาพ วงศ์บางชวด อายุ 25 ปี สามีน้องพลอย พร้อมด้วยลูกอีก 2 คน

นางสมคิด แม่น้องพิพลอย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ตัวน้องพิพลอยและครอบครัวได้เดินทางไปพักผ่อน จ.เชียงใหม่ และจ.เชียงราย และเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.64) น้องตั้งใจว่าจะพักที่จ.พิษณุโลก ก่อนที่จะเดินทางกลับ

โดยเมื่อคืนนี้ประมาณ 20.00 น. ตนเและพ่อน้องพิพลอย วิดีโอคอลหาน้องก็ทราบว่ากำลังอยู่บนรถ โดยสามีน้องพลอยเป็นคนขับ มีน้องจ๊ะจ๋า ลูกสาววัย 4 ขวบ นั่งอยู่เบาะหน้ารถคู่กับสามี ส่วนตัวน้องพิพลอยนั่งอยู่เบาะหลังกับน้องเจได ลูกชายคนเล็กวัย 3 เดือน (นั่งอยู่ในคาร์ซีท) ตอนนั้นพ่อน้องพลอยบอกว่าอยากคุยกับหลาน น้องพลอยจึงส่งโทรศัพท์ให้กับลูกสาวที่เบาะหน้ารถ แล้วตอนนั้นพ่อของน้องพิพลอย ได้เห็นหน้าหลานนิดเดียว จู่ ๆ ก็เกิดเสียงดังมาก แล้วทุกอย่างก็จับภาพไม่ได้เลย

แต่วิดีโอคอลยังไม่ตัด ทุกคนพยายามร้องเรียกถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครตอบ ตนจึงตัดสายและพยายามโทรหาให้คนรู้จักติดต่อ จนทราบว่าลูกเกิดอุบัติเหตุ ก็รีบเดินทางมาถึงเมื่อตอนตี 4 ก็รีบมารับหลาน ก่อนพบว่าหลานทั้ง 2 คนปลอดภัยดี

นางสมคิด ยังบอกต่อว่า ก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์ เพราะตนฝันถึงแต่ญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว ไปเล่าให้ญาติฟังก็บอกว่าเป็นลางไม่ดี ตนก็พยายามห้าม ไม่อยากให้ลูกเดินทาง แต่ก็ห้ามไม่ได้ เพราะว่าน้องพิพลอย เป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ตอนที่โทรหาตอนน้องอยู่ จ.เชียงใหม่ น้องพูดเป็นลางว่าไม่กลับแล้วจะอยู่เหนือ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บนถนนหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เป็นเส้นทางขาเข้าจังหวัดพิษณุโลก พบว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนทางตรง ไม่มีไฟส่องสว่าง เป็นถนนสี่เลนแบบมีเกาะกลาง โดยที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่การเกษตรเพาะปลูกข้าว ห่างจากบ้านเรือนประชาชนค่อนข้างไกล

โดยจุดเกิดเหตุยังคงมีเศษชิ้นส่วนอะไหล่รถ อาทิ กระจก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังมีเครื่องเซ่นไหว้ ที่ญาตินำมาวางเอาไว้ให้กับคนตาย สังเกตว่ายังมีธูปปักอยู่ ซึ่งจุดได้ประมาณครึ่งดอก โดยชาวบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ญาติได้แวะเวียนนำเครื่องเซ่นไหว้มาวางเอาไว้ให้ เมื่อช่วงเที่ยง 1 ครั้ง และเมื่อช่วงเย็นอีกหนึ่งครั้ง บริเวณพื้นที่จุดเกิดเหตุ จุดที่รถพุ่งตกลงไป ยังคงมีร่องรอยหญ้าล้ม และมีร่องรอยชนกับเสาไฟฟ้า

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายจำลอง ยิ้มแตง อายุ 35 ปี ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ ในฐานะคนเห็นเหตุการณ์ และเป็นคนที่เข้ามาช่วยเหลือคนเจ็บ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ตนนั่งอยู่ภายในบ้าน แต่จังหวะนั้นมองออกมาเห็นถนน ด้านหน้ามีรถพ่วงขับมา 1 คัน ส่วนคันที่ขับมาตามหลัง คือ รถนิสสัน จังหวะที่รถนิสสันขับมาด้วยความเร็ว และคาดว่ามองไม่เห็นไฟด้านหลังของรถพ่วงที่อยู่ด้านหน้า ตัดสินใจหักหลบซ้ายจนกระทั่งรถเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทางชนกับเสาไฟฟ้า รถพลิกคว่ำ ซึ่งถ้าหากมองว่าเป็นการหลับใน จะไม่มีการเบรกเสียงดัง เพราะตนได้ยินเสียงเบรกดังลั่น ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังโครม

ทั้งนี้ตนเป็นชาวบ้านคนแรกที่เข้ามายังจุดเกิดเหตุ ได้ใช้ไฟฉายเข้าไปส่องสำรวจคนภายในรถ เพราะจุดที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดไม่มีไฟส่องสว่าง ตอนนั้นแฟนหนุ่มของฝ่ายหญิงได้หลุดออกมาจากรถ และมานอนขอความช่วยเหลืออยู่ด้านข้างรถ ส่วนลูกสาวที่นั่งมาอยู่ด้านข้าง ได้โผล่ออกมาบริเวณกระจกที่แตก แต่ตนเชื่อว่าในรถคันดังกล่าวต้องมีคนอื่นติดอยู่ จึงได้ใช้ไฟส่องดูภายในตัวรถ กระทั่งพบว่ามีผู้หญิงซึ่งคาดว่าเป็นแฟนของผู้ชายคนขับ ติดอยู่บริเวณด้านหลังของรถ ซึ่งมีกระเป๋าเดินทางทับอยู่บริเวณศีรษะ ลักษณะนอนงอตัว ไม่ได้สติ ตอนนั้นตนก็ไม่กล้าแตะต้อง ได้แต่โทรเรียกกู้ภัย 

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยัง รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก ซึ่งทราบข้อมูลว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา แม่ของ น.ส.พัชราพร อินทร์เทศ หรือ พิพลอย อายุ 24 ปี ได้เดินทางมารับศพออกจากโรงพยาบาล เพื่อนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลในจังหวัดบ้านเกิด ที่วัดบางปิ้ง จ.สมุทรสาคร

โดยจะมีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ 3 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 12 ม.ค.64 ขณะที่แฟนหนุ่มของเน็ตไอดอล และลูกชายคนเล็ก ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพ พิษณุโลก ตอนนี้ด้านของอาการแฟนหนุ่มของเน็ตไอดอลปลอดภัย และออกจากห้องไอซียูแล้ว เลือดหยุดไหลจากปอดฉีก ขณะที่อาการของเด็กชายวัย 3 ขวบ ยังอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากกะโหลกร้าว อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนเด็กหญิง 4 ขวบ ลูกสาวคนโต ตอนนี้ญาติได้รับกลับไปที่ จ.สมุทรสาคร และจะต้องนำตัวเข้าเอกซเรย์อย่างละเอียดอีกครั้ง แม้ว่าอาการจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ญาติก็ยังไม่ไว้วางใจ รอส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับเฟซบุ๊กของ "พิพลอย" มียอดผู้ติดตาม 409,115 คน ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา เวลา 21.37 น. เธอได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า "ปีนี้เลี้ยงลูกข้ามปี ลูก ๆ ทั้ง 3 คน" 

ถัดมาวันที่ 1 ม.ค.64 เวลา 17.25 น. เธอโพสต์ภาพอุบัติเหตุ ระบุว่า "วันแรกของปีก็เล่นกูแล้ว" หลังรถคันที่ประสบอุบัติเหตุเกิดยางแตก

กระทั่งวันที่ 5 ม.ค.64 เวลา 14.50 น. เธอได้โพสต์ภาพคู่แฟนหนุ่ม พร้อมข้อความว่า "ภาพหาดูยาก" ซึ่งเพื่อน ๆ และแฟน ๆ ที่ทราบข่าว ต่างเข้ามาแสดงความไว้อาลัยอย่างมากมาย