ขึ้นแท่นเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงสักที หลังจากตั้งหน้าตั้งตารอทายาทคนนี้มานาน สำหรับคู่ของ "แมน การิน" และภรรยาคนสวย "เกล รดา" ล่าสุดทั้งคู่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ที่คุณแม่เกลเปิดใจทั้งน้ำตาถึงวินาทีแรกที่ได้รู้ว่าท้อง ส่วนคุณพ่อแมน เผยว่าไม่ใช้ศาสตร์ตัวเลขกับครอบครัวตัวเอง อยากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เสนาหอย" ย้ำชัดอีกครั้ง! หลังโดนเมาท์ไม่เลิก จะทิ้งวงการไปเอาดีด้านการเกษตรแบบเต็มตัว
- ไม่ได้แต่งงานฟ้าแลบ! "ได๋ ไดอาน่า" แต่งแน่ปีนี้ พร้อมมีลูกทันที
- ล้วงหัวใจ Top 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 "ฟ้าใส ปวีณสุดา" เผยชีวิตนี้ไม่เคยมีความรัก!!
- "แจ็ค แฟนฉัน" ไม่ธรรมดาจับไมค์ครั้งแรกวิวทะลุ 10 ล้าน รับแต่งแน่กับแฟนสาวคนนี้
- "ชาย ชาตโยดม" รับติดลูกติดภรรยาจนเพื่อนเลิกคบ พร้อมเล่ากว่าจะได้ลูกคนที่สองเกือบท้อ
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ตอนนี้เลิกแพ้ท้องหรือยัง ดีขึ้นไหม
เกล รดา : ตอนนี้เข้าเดือนที่ 4 แล้ว ดีขึ้นมากๆ แล้วค่ะ เพราะตั้งแต่เรากลั้นหายใจเดินข้ามตัวเขา(แมน การิน) อาการแพ้เลยดีขึ้นหน่อย เริ่มแพ้ตั้งแต่อาทิตย์ที่ 6 เดือนนิดๆ ค่ะ ช่วงที่แพ้มีเพื่อนใหม่เป็นถัง กะละมัง แต่เราไม่ได้อาเจียนตลอดนะคะ เพราะเราอดทนจนกว่าจะพุ่งออกมาจริงๆ เพื่อให้ย่อยหน่อย พอจะอาเจียนก็จะกลืนลงไปก่อน
แมน การิน : ที่เขาทำแบบนั้น เพราะเขาอยากให้ร่างกายดึงสารอาหารไปให้ลูกสักนิดก่อน แล้วเขาค่อยไปอ้วก ตอนหลังเขาจดเอาไว้หมดเลยว่าตอนเช้ากินอะไร กลางวันกินอะไร มีของว่างอะไรบ้าง เพราะแค่อยากรู้ว่าอะไรที่อ้วกออกมาแล้วอร่อย เหมือนเขามาเรียนรู้ว่าอะไรอร่อยตอนอ้วก
ถาม วินาทีแรกที่รู้ว่ามีลูก รู้สึกยังไงกันบ้าง
แมน การิน : ดีใจมากครับ ดีใจเหมือนพูดไม่ออก เราทั้งคู่ไม่เคยข้ามจุดที่หมอบอกว่าท้องแล้ว (เกล น้ำตาไหล) มีลูกแล้วนะ เพราะว่าเราเคยไปหาหมอ ไม่ติดถึง 3 ครั้ง เราเสียใจมาตลอด แต่เราไม่คิดว่าครั้งนี้จะสำเร็จ
เกล รดา : แล้วคุณหมอพูดนิ่งมากว่าท้องนะ ดีใจแบบบอกไม่ถูก ไม่คิดเลยว่าเราจะเจอคำนี้ด้วยซ้ำ เหมือนเราท้อไปแล้ว เพราะเราพยายามกันมา 2 ปี แต่งงาน 5 ปี
แมน การิน : ตอนแรกที่เราคบกัน เกลเขากลัวการมีลูกนะ แต่พอเราแต่งงานกัน เราก็พยายามเปลี่ยนวิธีการคิดของเขา ให้เห็นโมเมนต์หรือมุมของเขาที่เขาอยู่กับเด็กๆ เพราะเขามีหลานชาย 6 คน แล้วหลานติดหมดทุกคน เพราะเขาเป็นคนอบอุ่น เราเห็นเราเลยอยากมีมุมของครอบครัว ก็เลยแค่ๆ บิ้วเขามาเรื่อยๆ จนเขายอม
ถาม เป็นยังไงบ้างได้ยินเสียงของหัวใจของลูกครั้งแรก
เกล รดา : ดีนะคะ เพราะตอนแรกที่ฟังกับหมอ ยังไม่ได้เซนซิทีฟมาก แต่พอมานั่งฟังคนเดียว เราก็ถามตัวเองว่าใช่ ใช่ไหม เสียงหัวใจจริงๆ ใช่ไหม แล้วเวลาที่เราไปหาคุณหมอทุกอาทิตย์ เราก็จะขอฟังเสียงหัวใจ
ถาม แล้วจะมีงานประกาศเพศหรือทายไหมว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
เกล รดา : ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องเพศ แต่เราซีเรียสว่าหน้าออกมาจะเหมือนใครมากกว่า
ถาม แล้วพี่แมนเป็นคนที่ช่ำชองตัวเลข มีดูฤกษ์งามยามดี เวลานี้ต้องไปหาหมอ เวลานี้ที่จะทำให้มีลูก
แมน การิน : ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นนะครับ เพราะเวลาเราอยู่กับเขา เราแทบไม่ได้ใช้เรื่องตัวเลขเลย เพราะว่าทุกวันที่เราออกจากบ้านไปทำงาน เราจะอยู่กับตัวเลขอย่างเดียวเลย เพราะทุกคนจะถามเราเรื่องตัวเลขหมดเลย แต่พอเรากลับมาบ้าน เราจะปล่อยฟรี แทบจะไม่เอาตัวเลขมาใช้กับเขาเลย
ถาม แล้ววันคลอด เราจะวางไว้ไหมว่าคลอดตอนนี้ เวลานี้
แมน การิน : ต้องคุยกับเขาก่อนว่าเขาอยากจะคลอดแบบไหน คลอดแบบธรรมชาติหรือแบบผ่า เพราะคลอดแบบธรรมชาติเราไม่สามารถที่จะเลือกเวลาได้เลย
เกล รดา : ในใจของเราคืออยากทำทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ อย่างช่วงที่เราแพ้ท้อง เราก็หาข้อมูลอยู่สักพัก จนเราคิดว่าไม่เอาแล้ว เราอยากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าลูกจะแพ้ก็ไม่เป็นไร เราทนได้ ถึงเวลาคลอด เราก็จะดูร่างกายเรา ณ ตรงนั้นอีกครั้งว่าเขาอยากจะคลอดเองหรือผ่าคลอด
ถาม แต่เลขที่ดูไม่ได้ดูให้กับครอบครัวตัวเองก็จริง แต่ดูให้ครอบครัวพี่มิคกับพี่เบนซ์
แมน การิน : ใช่ครับ เพราะเขาเลือกเวลาที่จะมีความสัมพันธ์กัน เวลาที่เราให้ไปคือตั้งแต่มองตากันคือเวลาที่เริ่มครับ
ถาม เห็นบอกว่าสามารถกำหนดได้ด้วยว่าลูกคนนี้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
แมน การิน : จริงๆ แล้วตัวเลขทุกตัว เขาจะมีธรรมชาติของเพศอยู่แล้วครับ เลขคี่มีโอกาสได้ผู้ชาย เลขคู่ส่วนมากจะผู้หญิง
ถาม เห็นว่าตอนที่จีบ เกลก็พยศอยู่เหมือนกัน
เกล รดา : เราก็ประมาณหนึ่งอยู่เหมือนกัน เหวี่ยงสุด โมโหสุดให้เขาเห็นเลยตั้งแต่ 3 เดือนแรกที่เขาจีบเร าเพราะเป็นช่วงโปรโมชั่น เราเลยเป็นตัวเองให้มากที่สุด ถ้าเขารับได้ หลังจากนี้เราเบามากแล้ว
แมน การิน : เราก็ไม่ตกใจนะครับที่เขาเป็นแบบนั้น เพราะถ้าเรารักเขา เราจะไม่มีเงื่อนไขเลยว่าเขาจะเป็นคนขี้งอนยังไง ไม่ได้สนใจเลย พร้อมง้อตลอด
ถาม รักกันมากขนาดนี้ ทำไมมีโมเมนต์ที่เบื่อเขาจนเกือบหนีออกจากบ้าน
เกล รดา : เพราะเขาเป็นคนเป๊ะมาก ทุกอย่างต้องวางเป๊ะตรงนี้ เราก็คิดว่าเราทำงานมาเหนื่อยๆ เราค่อยเก็บก็ได้ แล้วอยู่ๆ นางก็บ่นๆ เราก็เลยรู้สึกเบื่อจังเลย เพราะเขาเป็นคนที่บ่นลอยๆ ไปเรื่อยๆ เราก็จิตตกก็เลยจะออกจากบ้าน เราก็บอกว่าเราไม่ไหว เราจะกลับบ้าน นางก็มากันนะ ไม่ให้เราออกไป
ถาม คิดไหมว่าเวลาที่ลูกออกมา สไตล์การเลี้ยงดูจะเป็นแบบไหน
เกล รดา : คิดว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า อยากให้ค่อยๆ ไปทีละสเต็ป ณ วันนี้เราคุยกันทุกเรื่องทุกวัน 4 เดือนแล้วอาการเราเป็นยังไง เขาจะปล่อยให้เราใช้ชีวิตเป็นวันต่อวันเลย ให้มีความสุข ส่วนเขาจะไปหาข้อมูลเรื่องโรงพยาบาล เรื่องหมอเอง เขาจะไม่ใส่เรื่องเครียดให้เราเลย
Advertisement