เกี่ยวกับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ใน จ.กาญจนบุรี วันนี้ (6 พ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก
โดยมีการเปิดคลิปเสียง 2 บุคคล คุยกันเรื่องหวย 30 ล้าน โดยคล้ายเป็นการวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับคดีลอตเตอรี่
ด้าน
นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายครูปรีชา เปิดเผยว่า กรณีที่นายอัจฉริยะ ไลฟ์ในเฟซบุ๊ก ก็แค่ต้องการกดดัน ให้ตนเองถอนตัวออกจากการเป็นทนายความให้กับครูปรีชา อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า สัปดาห์หน้าตนจะฟ้องนายอัจฉริยะ ที่ออกมาพูดพาดพิงตนเองอย่างแน่นอน เพราะเรื่องที่นายอัจฉริยะพูดนั้น ไม่เป็นความจริง สำหรับเหตุผลที่จะฟ้อง นายอัจฉริยะ เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่นายอัฉริยะ จะเอามาเปิด ว่าครูคุยกับนายแผน หรือคุยกับใคร ก็ไม่เป็นผลกระทบกับคดี เพราะเป็นเรื่องหลังเกิดเหตุ และจะใช่เสียงจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่มีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือรับรอง หลักฐานแบบนี้ในภาพยนต์ยังสร้างกันได้เลย
ขณะเดียวกันเรื่องที่นายอัจฉริยะ ไลฟ์สดบอกว่าตนอยากดัง จึงเข้ามาเป็นทนายความให้ครูปรีชา จะได้มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักเพื่อขึ้นค่าตัวในอนาคต
ทนายวรยุทธ ชี้แจงว่า ที่ตนเองต้องไปออกสื่อฯ เพราะต้องไปแก้ต่างให้ลูกความ โดยตนเองเพิ่งออกสื่อฯได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น ส่วนที่เป็นข่าวดังก็เพราะตัวลูกความมีคนสนใจ
สำหรับเรื่องมารยาททนายความที่ นายอัจฉริยะ ออกมาไลฟ์สดก็คงไม่ผิด เพราะนายอัจฉริยะไม่ใช่ทนายความ แต่ถ้าอยากเป็นทนายความเพื่อต่อสู้ทางคดี ก็ให้ไปสอบตั๋วทนายความให้ได้ก่อน ซึ่งการออกมาพูดแบบนี้ หรือการนำคลิปมาเปิดเผย ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล ซึ่งที่ออกมาพูดแบบนี้ เหมือนออกมากดดันศาล เรียกว่ารบกวนกระบวนการยุติธรรม
ทนายวรยุทธ ยังพูดทิ้งท้ายว่า ที่ตนเองโพสต์ภาพกับกล้วยลงในเฟซบุ๊ก ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร แค่รักษาสุขภาพ หมอบอกให้ลดความอ้วน ไม่ได้หมายความว่าคดีนี้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ทั้งนี้ กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายความประชาชน ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยระบุว่า ซีดีคลิปเสียงครูปรีชา จำนวน 4,500 คลิป ที่ทาง ปอท. ได้จัดส่งมายังศาล และตนไปคัดลอกไว้ ทำหายไปที่บริเวณตลาดกระทุ่มแบน
โดย
นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ
นายแผน พยานในคดีหวย 30 ล้านบาท เปิดเผยถึงกรณีแผ่นซีดีที่ทนายษิทราทำหายไปว่า ตนเองคิดว่าไม่น่ามีเสียงตัวเองในนั้น เพราะตนไม่ได้ติดต่ออะไรกับครูปรีชา แต่ยอมรับว่าครูเคยโทรศัพท์มาหา ประมาณ 1-2 ครั้ง ซึ่งตนคิดว่าไม่น่ามีข้อมูลอะไรที่ตนจำเป็นต้องกังวล เนื่องจากการคุยกันไม่ได้เกี่ยวข้องด้านคดี เป็นการสอบถามเรื่องราวทั่วไป เนื่องจากตนไม่ได้สนิทสนมกับครูปรีชา
นายแผน ระบุว่า ครูปรีชาไม่เคยโทรมาเพื่อเสนอค่าตอบแทน แล้วตนก็ไม่เคยออกไปพบใคร หากมีคนจ้างตนจริง ตนคงสบายไปแล้ว สำหรับคลิปซีดีเสียงของครูที่หายไปนั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะเรื่องถึงชั้นศาลแล้ว ส่วนตัวมองว่าคลิปที่มีถึง 4,500 คลิปอาจจะมากเกินไป น่าจะมีการโทรคุยกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคดีก็ได้ เพราะครูปรีชารู้จักคนเยอะ
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อถึงกรณีที่ครูปรีชา กล่าวว่าทำลอตเตอรี่หายวันที่ 31 พ.ย. ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลผิดพลาด ตนมองว่า คนเราอาจจะจำเดือนผิด เนื่องจากการพูดไม่ได้มีการท่องจำ จึงหลุดพูดผิดบ้าง เพราะยกตัวอย่างเช่น ตนเองเวลาให้สัมภาษณ์สื่อฯ ก็มีความรู้สึกตื่นเต้น การพูดผิดก็เป็นไปได้ ส่วนกรณีที่ครูปรีชาระบุว่ามีพยานรายหนึ่งที่เห็นคนที่เก็บหวยได้ เดินมาถามว่าลอตเตอรี่เป็นของใคร ตนคิดว่าก็อาจจะเป็นไปได้