จากกรณีมีผู้เปิดเผยคลิปเสียง โดยระบุว่าเป็นเสียงสนทนากันเรื่องหวย 30 ล้าน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 อ้างว่าคล้ายเสียงของ ครูปรีชา ใคร่ครวญ และ นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน
วันนี้ (7 พ.ค.) ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อครูปรีชาเพื่อสอบถามกรณีคลิปเสียง โดยครูปรีชา ระบุว่า ตนได้ฟังคลิปแล้ว คิดว่าเป็นการตัดต่อ และไม่ใช่เสียงตนเองแน่นอน ทั้งนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของครูปรีชา แต่ไม่พบครูปรีชา พบเพียงรถจอดอยู่
ด้าน นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความครูปรีชา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีคลิปเสียงที่มีการอ้างอิงถึงคนชื่อแผน กับครูปรีชา ตนไม่รู้สึกเครียดแต่อย่างใด แต่เหมือนฟ้าประทาน เพราะคนเข้าใจผิด คิดว่าเสียงในคลิปคือ เสียงของนายแผน ฐนุกร แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่นายแผน แต่เป็นคนชื่อเดียวกัน
ทนายวรยุทธ มองว่า การที่มีการปล่อยคลิปอาจจะทำให้คนเข้าใจผิด ก็หมายความว่าอาจทำเพื่อโน้มน้าวใจศาล ในการพิจารณาคดี โดยปกติแล้วนักกฎหมายไม่ทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะคนปล่อยคลิปไม่ใช่นักกฎหมาย จึงออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ และคนปล่อยคลิปก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า นำคลิปมาจากไหน ได้มาอย่างไร สิ่งที่ทำคือละเมิดอำนาจศาลในการพิจารณาคดีหรือไม่
ดังนั้นการกระทำดังกล่าว ถ้าหากมีหลักฐานอะไรก็นำมาเปิดในศาล ไม่ใช่ออกมาเปิดเผยกับสังคม ทั้งที่คดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว ขณะเดียวกันตนมีข้อมูลเยอะกว่านี้ ยังไม่เอามาเปิดเผย เพราะไม่เกี่ยวข้องกับคดี และในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) ตนจะดำเนินการฟ้องร้อง คนที่นำมาคลิปมาปล่อย เรื่องการหมิ่นประมาท ซึ่งผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดย ทนายวรยุทธ พูดทิ้งท้ายว่า คนที่ปล่อยคลิป ถ้าหากว่างมาเที่ยวจังหวัดยโสธรบ้าง
โดย
นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ
แผน เปิดเผยว่า ตนเคยฟังคลิปเสียงดังกล่าวมาก่อนหน้านี้นานมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดให้ตนฟังช่วงที่มีการสอบสวน ซึ่งตนก็ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่เสียงของตัวเอง และไม่ทราบว่าเป็นเสียงของใคร ยืนยันว่าตนไม่เคยคุยกับครูปรีชาก่อนเกิดคดี แต่ครูปรีชาเคยโทรหาตน 1-2 ครั้ง ช่วงที่ตนเข้าไปเป็นพยาน และเข้าให้การกับกองปราบฯ โดยเป็นการโทรมาแสดงความเป็นห่วงที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดี และคุยกันแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้รู้จักกับครูปรีชามาก่อน
ส่วนที่บุคคลในคลิปซึ่งชื่อแผนเหมือนกันนั้น
นายฐนุกร ชี้แจงว่า คนชื่อแผนไม่ได้มีเพียงตนคนเดียว ซึ่งจากการที่ฟัง เสียงชายในคลิป ก็ไม่เหมือนเสียงตน ซึ่งตนก็ไม่ได้มีความรู้ ความสามารถถึงขั้นไปให้คำปรึกษาครูปรีชาได้
ตอนนี้ตนกังวล เมื่อมีคลิปดังกล่าวออกมา ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นเสียงของตน และสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก
ด้าน
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวว่า คลิปเสียงดังกล่าวพยายามโยงว่ามีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีครูปรีชา และนายแผน โดยพยายามทำให้เชื่อว่า ลอตเตอรี่ 30 ล้านซึ่งอาจเป็นการวางแผนทำขึ้นมา โดยนายแผนเคยฟังคลิปจากตำรวจ และปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ใช่เสียงของตัวเอง ดังนั้นการมาเปิดคลิปดังกล่าว ตนคิดว่าสังคมไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องเก่าที่เอามาเปิด
ซึ่งจากการฟังเสียงดังกล่าวก็ไม่เหมือนเสียงนายแผน เนื่องจากในคลิปเป็นเสียงที่แหลมกว่า โดยเมื่อนายแผนปฏิเสธไป ถือว่าคลิปตัวนี้ก็ฟังไม่ขึ้นในทางคดี ส่วนตัวคิดว่า คลิปดังกล่าวไม่มีผลกับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) ตนจะนำนายแผนไปแจ้งความผู้เผยแพร่คลิป ฐานทำให้ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้จะฟ้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้คลิปหลุดออกมา ซึ่งทำให้นายแผนเสียหาย