บอกตามตรงว่าตามเรื่องหัวใจของหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยจะทัน สำหรับนักแสดงรูปหล่ออินดี้ อินทัช เพราะเดี๋ยวก็คบ เดี๋ยวก็เลิก แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าหัวใจจะนิ่งแล้ว หลังจากเลิกกับสาวใหม่ที่ชื่อ ปอนด์ แล้วกลับมาคืนดี แฟนเก่า อย่าง สาวฟ้าใส
วันนี้ (15 มกราคม 2564) เจอหนุ่มอินดี้ ก็เลยขออนุญาตย้อนถามถึงเรื่องหัวใจในอดีตสักหน่อย เพราะมีข่าวเม้าท์กันว่า ที่เลิกเพราะเพิ่งรู้ว่าฝ่ายหญิงมีลูกอยู่แล้ว เรื่องนี้จริงหรือเปล่า
เจ้าตัวก็ ยืดอกรับแบบแมนๆเลยว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะตั้งแต่คบกันตนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า น้องปอนด์ มีลูกแล้ว ซึ่งเขาก็เคยแย็บๆถามว่า ถ้ามีลูกแล้วตนจะโอเคไหม ตอนนั้นก็ไม่ได้ระแคะระคายอะไร ซึ่งเขาก็บอกมาตลอดว่ายังไม่มีลูก จนมายอมรับว่า มีลูกแล้ว สักพักก็มาบอกว่า เป็นลูกของน้องอีก ซึ่งตรงนี้ที่ตนไม่โอเค ไม่ใช่เพราะเขามีลูกแล้ว แต่เพราะเขาโกหกตนถึง 3 ครั้ง ตนเลยขอยุติความสัมพันธ์ทันที ยอมรับว่าตนเสียความรู้สึกมาก
ส่วนกับ น้องฟ้าใส ตนเป็นคนกลับไปขอเขาคืนดีเอง ซึ่งตอนนั้นที่เลิกกันไป พวกตนไม่ได้เกลียดกัน เพราะทั้งตนและฝ่ายหญิงไม่ได้มีครอื่น แต่เป็นการคุยตกลงกันดีๆว่าลองมีสเปซ ลองแยกกันไหม ก็เลยไม่ได้ขาดกัน ซึ่งพอกลับมาคราวนี้ทุกอย่างก็ดีมากกว่าเดิม ตอนนี้ก็เลยพาไปเจอพ่อกับแม่มาเรียบร้อยแล้ว เพราะคนนี้ตนก็คิดไกลถึงขั้นแต่งงาน
กลับไปคบกับแฟนเก่าจริงหรือเปล่า
"ก็ใช่ครับ"
นานหรือยังและทำไมถึงได้กลับไปคบกันอีก
"ถ้าถามว่าทำไมตอบยากเลยอ่ะ เรามีความรู้สึกว่าในช่วงเวลาแรกมันเป็นช่วงเวลาที่เราเรียนรู้กันอยู่ก่อนที่เราจะมีปัญหาแล้วก็เลิกกันไป แต่พอกลับมาครั้งนี้ก็ดีกว่าครั้งแรกเยอะมาก เหมือนว่าเราแยกทางกันไปเรียนรู้ตัวเอง น้องเขาก็ไปเรียนรู้ของเขา ซึ่งเราเองก็ค้นพบตัวเองมากพอสมควรแล้ว เราก็เลยกลับมาคุยกัน ก็เหมือนเดิมครับ"
แสดงว่าเป็นฝั่งเราที่เดินหน้ากลับไปศึกษาอีกครั้ง
"ใช่ๆ"
ครั้งนี้ทำไมมันดีกว่าครั้งแรก หรือเพราะเราโตขึ้นหรือเปล่า
"ผมรู้สึกว่าตอนในช่วงเวลาแรก..ต้องขอเล่าย้อนไปว่าตอนนั้นเป็นช่วงล็อกดาวน์ครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นอยู่กับน้องบ่อยมาก ทำอาหารกินที่บ้าน ออกกำลังกายหรือบางทีชวนไปวิ่งที่สวน ซึ่งอะไรก็แล้วแต่ มันเหมือนทำกิจกรรมด้วยกัน มันไม่ได้มีเวลาแยกกันสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่รู้ว่าสเปซระหว่างความห่าง ว่าห่างกันแล้วมันจะเป็นยังไง ตอนนั้นคือเราไม่รู้เพราะว่าเราใช้ชีวิตแบบอยู่ด้วยกันปกติ แต่พอห่างกันไปในตอนนั้น เหมือนเราได้อยู่คนเดียว อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าน้องเขาทบทวนอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าตัวเราเรารู้"
กลับมาครั้งนี้เราต้องแก้ไขเคลียใจในเรื่องที่เคยผิดพลาดกัน
"นิดนึงครับ เพราะว่าโดยส่วนตัว ธรรมชาติของน้องเขาเอง เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการทำงานของผมอยู่แล้ว เพราะอย่างของดี้เองถ้าไม่มีเรื่องการทำงานก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอะไรเลยในชีวิต เพราะดี้เองเป็นคนสบายๆง่ายๆ อยากไปไหนอยากทำอะไรก็คือไม่เคยมานั่งจุกจิกจู้จี้ ก็คือจะเรื่อยๆสบายๆ"
ในช่วงที่เราแยกกันไปก็มีข่าวว่าเรามีสาวคนใหม่ มันจะต้องเคลียร์กันลำบากไหมเพราะว่าเราก็มีอีกคนนึงเข้ามาแล้ว
"ไม่ได้ถึงขั้นว่าเคลียร์หรือลำบากครับพี่ เพราะว่าเราไม่ได้แบบเปิดอะไรขนาดนั้น แล้วด้วยการที่ห่างกับน้องเขาไป เราก็ไม่ได้ตัดขาดจากเขา เราก็ไม่ได้บ็อกทุกอย่างให้เขาติดต่อเราไม่ได้อะไรแบบนี้ เราก็ยังถามไถ่เรื่องโน้นเรื่องนี้ บางทีของ รองเท้า เสื้อแจ็คเก็ตก็ยังอยู่ในรถน้องเขา คือเราก็ไม่ได้ถึงขั้นกับตัดขาดเลย เราไม่ได้บอกว่าเลิกจบเลยไม่เอาอีกแล้ว เพราะว่าตอนที่แยกกันไปตอนที่เลิกกันไปตอนนั้น เราไม่ได้เลิกกันเหมือนเกลียดกัน ไม่ใช่ว่าผมไปมีคนอื่นหรือน้องไปมีคนอื่นไม่ใช่ คือเป็นการคุยกันดีๆตกลงกันดีๆว่าลองมีสเปซ ลองแยกไหมอะไรแบบนี้มากกว่า ก็เลยไม่ได้ขาดกันอะไรขนาดนั้น"
แล้วน้องคนที่ชื่อปอนด์ที่เข้ามาระหว่างที่เราเลิกกับฟ้าใส เราได้บอกเขาไหมว่าจบกันแค่นี้
"บอก แต่คือมันกเกิดปัญหานิดนึง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่กระทบกับเรามากซะขนาดนั้นคือว่าเราก็พูดกันตรงๆ เพราะว่าเราก็ไม่ได้เปิดรับเขาอะไรขนาดนั้น เพราะว่าตอนนั้นเราก็เพิ่งแยกกับแฟนของเราไป"
คือไม่ได้เกี่ยวว่าตอนนั้นน้องเขามีข่าวว่ามีลูกแล้วใช่ไหม
"โห ก็คือตอนนั้นน่ะ ผมไม่ทราบ ก็ถ้าให้พูดกันตรงๆก็คือยอมรับเลยว่าผมไม่ทราบไม่ทราบเลย แล้วเขาก็เลือกที่จะไม่บอกผม แล้วเขาก็จะชวนคุยในเรื่องแบบนี้ว่า เราโอเคไหมถ้ามีลูกแล้ว เหมือนแย่บถาม ใช้คำพูดแย่บถาม แต่พอมารู้อีกที ก็ครั้งแรกเขาก็เลือกที่จะบอกว่าไม่มี ยังเลือกที่จะบอกว่าไม่มีนะ แล้วอยู่ๆมาวันนึงทำงานแบบนี้ปกติ ก็มายอมรับกับผมเลยว่าสรุปเรื่องที่คุยวันนั้นน่ะยอมรับว่าเรามีนะ เราก็เลย เออ..แล้วครั้งนั้นถามทำไมว่ามีหรือเปล่า แล้วพอมาครั้งที่สามก็เหมือนกับว่า เขามาขอโทษเราก็คือมาขอโทษนะพี่ที่โกหกอะไรแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นผมก็รู้สึกว่าเฮ้ย เรื่องแบบเนี่ยมันใหญ่มากนะ ที่ไม่ควรจะมานั่งโกหกกัน ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกดีอ่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดขนาดนั้น ละพอมา กลับมาตกลงกันอีกครั้งนึงในครั้งที่สาม เขาก็โยนว่าลูกนั้นน่ะไม่ใช่ลูกของเขานะ แต่เป็นลูกของน้องเขา คือครั้งที่สามเนี่ยมันทำให้ผมคิดว่า อืม..ไม่ล่ไม่ล่ะ ก็เลยยุติเลย เพราะว่าส่วนนึงคือส่วนตัวเรามองว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ในเรื่องการมีลูกไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ผมไม่ได้รู้สึกว่าเอ้ยคนนี้มีลูก แล้วไม่ดีนะเพราะรู้ว่าความคิดของคนแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอาจจะอยากมีลูกเร็ว หรือบางคนอาจจะอยากมีลูกช้า ผมไม่จัสความคิดใครครับ แต่ผมจะจัสว่าคนนี้เดินเข้ามาแล้วโกหกผม แล้วเขาโกหกผมสามรอบ ผมเลยยุตติเลย"
ถามถึงความรู้สึกหน่อยว่าตอนนั้นเราเสียความรู้สึกยังไงบ้างถึงขั้นตัดขาดไปเลย
"ผมเสียความรู้สึกตรงที่ว่า คนน่ะมาด่าผม มาด่าผมว่าเฮ้ยอินดี้ทำไมอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผมต้องบอกเลยว่านี่คือครั้งแรกที่ผมได้ออกมาพูดว่าเรื่องมันเป็นอะไรยังไง แล้วก็ต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้องแฟนเก่าของผมเลย เขาไม่ได้มานั่งจี้ผม ไม่ได้มานั่งกดดันนะ อันนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับน้องคนนี้"
แล้วเรารู้สึกไงบ้างพอมีข่าวว่า..พอผู้หญิงมีลูกแล้วเราก็เขา
"คืออย่างที่ผมบอก ผมยืนยันเลยว่ามันไม่เกี่ยวว่าเขามีลูกแล้วหรืออะไรแบบนี้ มันเกี่ยวกับคำโกหกแค่นั้นเลยอ่ะ แล้วผมรู้สึกถ้าเป็นคนอื่นก็ต้องมองว่าเฮ้ยอะไรอ่ะ แล้วผมเชื่อว่าแค่ครั้งแรกก็คงไม่แล้ว มันก็คือเรื่องแบบนี้มันไม่ควรโกหกอ่ะพี่ มันคือเรื่องลูกอ่ะ มันเป็นเรื่องที่สักวันนึงก็ต้องรู้"
คืออยากบอกอะไรกับคนที่ไม่เข้าใจแล้วมาด่าเราไหม
"คือผมก็ไม่ได้ว่าเขา เพราะว่าเขสไม่รู้จริงๆ เพราะผมเองก็ไม่เคยไปนั่งชี้แจง เพราะผมรู้สึกว่าเออในเมื่อเราเคลียร์จบแล้วก็ตัดปัญหาไปอะไรแบบนี้ "
แล้วตอนนี้กับฟ้าใสก็คือจริงจังแค่ไหน
"ใช่จริงจัง จริงจัง ผมจริงจัง คือน้องเขาให้ สเปซในการทำงานผมด้วย คือน้องเขาไม่ให้ความกดดันเรา ไม่ว่าเราจะเลิฟซีนหนักหนาแค่ไหน หรือเล่นละครในเวไหนขนาดไหน เขาก็ไม่ได้มานั่งบอกว่าอย่านะ เพียงแต่เราจะต้องบอกเขาว่าเอ้ยเรื่องนี้มันขนาดไหน"
แล้วพ่อแม่ล่ะว่ายังไงบ้าง
"โอเคเค้าเจอแล้วครับ พาไปกินข้าวเจอกันเรียบร้อยทุกอย่าง"
คนนี้รักจริงหวังแต่งไหมหวังแต่งไหม
"ถ้าถามผมในใจลึกๆก็หวังแต่อย่างที่บอกว่า น้องเขาก็ยังเด็ก น้องเขาเพิ่ง 24 เขาก็เพิ่งจะเรียนจบเริ่มที่จะทำงาน เขาก็กำลังจะเข้าสังคมในวัยทำงาน ผมก็อยากจะให้สเปซเขานิดนึง เขาก็เป็นเหมือนน้องเป็นเหมือนเพื่อนเป็นเหมือนแฟนในคนเดียวกัน เขาเติบโตมายังไง เราก็ดูแลเขา เขาจะโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหนคือเราก็คอยติและชี้นำไปในทางที่ดี ให้เวลากับชีวิตเขามากกว่า"