เปิดใจคนขับ ถูกเบนซ์ปาดหน้า ชักปืนขู่ เตือนอย่าใจร้อน ห่วงภาพฟ้องชัด ระวังได้ไม่คุ้มเสีย

โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 03.09 นาที กรณีรถยนต์คันหนึ่งขับขี่มาบนถนนวิภาวดี ฝั่งขาเข้า โดยเบี่ยงขวาเข้าทางคู่ขนาน ก่อนจะมีรถเบนซ์ สีดำ ขับมาปาดหน้า ก่อนจะเปิดไฟฉุกเฉิน รถคันดังกล่าวจึงเบี่ยงขวาอีกครั้ง แต่รถเบนซ์ขับมาปาดหน้าซ้ำ ขณะเดียวกันมีชายลักษณะคล้ายวัยรุ่น โดยในมือกำสิ่งของบางอย่างคล้ายอาวุธ เดินมาที่รถอีกคัน ก่อนที่ทั้งคู่จะมีปากเสียงกัน

วันนี้ (8 พ.ค.) นายสุริยา แฝงเพชร หรือ ตะวัน อายุ 41 ปี คนขับรถแท็กซี่สีชมพู-ขาว เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. ตนกำลังไปรับผู้โดยสาร บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า เพื่อไปส่งบริเวณสีลม

ซึ่งผู้โดยสารระบุว่า ให้ขึ้นทางด่วน ตนจึงพยายามตีไฟเลี้ยว และเบี่ยงขวาเข้าช่องทางด่วน ซึ่งตนเห็นว่ามีรถเก๋ง และรถเบนซ์ขับอยู่ โดยเว้นระยะห่างกันพอสมควร ตนจึงพยายามเบี่ยงขวาเข้าไป ขณะเดียวกันตนเงยหน้ามองกระจกหลัง เห็นว่ารถเบนซ์พยายามหักหัวรถออกไปทางขวา จึงคิดว่าน่าจะให้ทางตน ตนจึงเบี่ยงขวาเข้าช่องทาง แต่รถเบนซ์ไม่ได้เบี่ยงขวาออกไป กลับพุ่งขึ้นมาตีข้างรถของตน และปาดหน้าตน 1 ครั้ง ตนจึงเปิดไฟไป 2 ครั้ง ก่อนที่เบนซ์จะเบรกรถ เบื้องหน้าตน 2 ครั้ง ตอนนั้นในใจตนคิดว่าน่าจะมีปัญหาแล้ว ซึ่งผู้โดยสารบอกว่า สงสัยจะมีเรื่อง จากนั้น ตนจึงพยายามเบี่ยงขวาออกจากช่องทาง เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง เนื่องจากตนก็มีผู้โดยสาร ขณะเดียวกันรถเบนซ์คันดังกล่าว ได้เปิดกระจกลงมาตะโดนด่า แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ คิดแค่อยากจะไปตากตรงนั้นให้ไกล ซึ่งผู้โดยสารบอกว่า เหมือนคนขับเบนซ์ปาอะไรใส่รถ กระทั่งตนโดนปาดหน้าอีกครั้ง และคนขับรถเบนซ์พยายามลงมาจากรถด้วยท่าทีฉุนเฉียว และถือสิ่งของคล้ายอาวุธลงมาด้วย ก่อนจะมากระชากประตูรถตน โดยตนได้เปิดกระจกไปคุย เพื่อต้องการบอกว่าไม่มีอะไร และไม่ต้องการอะไร จากนั้นก็มีปากเสียงกันตามคลิปดังกล่าว

นอกจากนี้ ตนกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เพราะคนขับเบนซ์ค่อนข้างจะมีอาการฉุนเฉียว และเหมือนจะถืออาวุธ ถึงกล้าลงจากรถ แล้ววิ่งมาหาเรื่องตน โดยต่อมาในช่วงเย็น ตนได้โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊ก เพื่อแชร์ไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ และคิดว่าทุกวันนี้ คนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้มีเยอะ จนตอนนี้ตนก็ไม่ได้โกรธ แค่อยากขอให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้มากกว่านี้ ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงหลายๆ คนว่า ทุกวันนี้คนมีกล้องในมือ ใครจะทำอะไรขอให้คิดเยอะๆ เพราะในอนาคตมันเสียเวลา ยังไงก็ไม่คุ้มกัน ดังนั้นในฐานะที่ใช้รถใช้ถนนเหมือนกัน ก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกัน