วันที่ 16 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.วังโบสถ์ สภ.นาเฉลียง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระ วัดบ้านตีบใต้ หมู่ที่ 2 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จากนายเด่นพงษ์ ทองไทย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ทำให้มีพระลูกวัดถูกเพลิงไหม้ตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
จากนั้น จึงประสานรถน้ำดับเพลิงเทศบาลตำบลบ่อไทยให้ช่วยระงับเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นกุฏิชั้นเดียวยกพื้นสูง เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างแรง โครงสร้างส่วนใหญ่สร้างจากไม้ จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านกำลังช่วยกันพยายามดับไฟกันอย่างโกลาหล ใช้เวลาราว 15 นาที เผากุฏิจนวอดทั้งหลัง
ส่วนพระที่ถูกไฟคลอกตามร่างกาย มีบาดแผลผิวหนังหลุดร่อนราว 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาทราบชื่อคือ พระดี พรหมจร อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัด อาสากู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองไผ่ และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เบื้องต้น ทราบเพียงว่าช่วงเกิดเหตุ พระดีกำลังนอนจำวัดอยู่ภายในกุฏิดังกล่าว ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ คาดว่าสาเหตุมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งขณะเกิดเหตุพระดีกำลังนอนหลับอยู่ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ จึงหนีออกมาไม่ทัน ถูกเพลิงไหม้ตามร่างกาย โชคดีที่มีชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง
นายวิทยา หาญปราบ อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังรดน้ำถั่วในไร่ ห่างจากวัด 3-4 กิโลเมตร ก็มองเห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า คุยกันคนที่ทำงานอยู่ด้วยกันตอนนั้นคิดว่ามีไฟไหม้ป่า หรือไหม้บ้าน จึงพากันตามควันไฟมาดู ตอนที่ไปถึงที่เกิดเหตุ เห็นไฟกำลังจะมอดแล้ว
ส่วนพระดีนั้นคลานหนีออกมา ห่างจากกุฏิราว 5-6 เมตร โดยมานอนนิ่ง ชาวบ้านจึงพากันนำร่างพระดีมานอนบนแคร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าร่างกายพระดีถูกไฟคลอกหลายแห่ง หลัง หัวเข่า ขา แขน ขณะเกิดเหตุไม่มีพระอยู่ในวัด เพราะติดกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ขณะที่พระดีเองก็เพิ่งบวชเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63 ตั้งใจบวชให้คู่ชีวิตที่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่ผ่านมา